เมืองพัทยานับเป็นแหล่งท่องเที่ยวของไทยที่ดึงดูดให้ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางไปท่องเที่ยวพักผ่อน เนื่องจากมีความสะดวกทั้งเรื่องการเดินทาง สาธารณูปโภค และที่พักอาศัย ทำให้พัทยาเติบโตอย่างมากในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา จากเมืองระดับล่างมาสู่เมืองที่มีความสะดวกสบายมากมาย ไม่เพียงแค่นักท่องเที่ยวจะได้รับความสนุกจากที่นี่ การมีศูนย์การค้าขนาดใหญ่ เช่น เซ็นทรัล เฟสติวัล พัทยา ทำให้เมืองนี้มีความน่าสนใจขึ้นอย่างมาก
นายแฟรงค์ ข่าน ผู้อำนวยการ-หัวหน้าฝ่ายที่ปรึกษาด้านโครงการที่พักอาศัย บริษัท ไนท์ แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงทิศทางตลาดคอนโดมิเนียมสในเมืองพัทยา กล่าวว่าจากการเติบโตของเมืองพัทยา ทำให้เมื่อปี 2554 ที่ผ่านมา มีคอนโดมิเนียมใหม่ที่เปิดตัวในพัทยา (เฉพาะวิวทะเล) เป็นสถิติสูงสุดคือ ประมาณ 7,888 ยูนิต จาก 13 โครงการ โดยความต้องการคอนโดในพัทยามาจากผู้ซื้อชาวไทยเป็นหลักในบางโครงการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการที่อยู่ในพัทยาเหนือและวงศ์อมาตย์ เนื่องจากมีห้างค้าปลีก ร้านอาหาร และบาร์มากมายในบริเวณนี้ ในขณะที่คอนโดมิเนียมในตัวเมืองที่อยู่ในพัทยาใต้จะเต็มไปด้วยชาวต่างชาติ เช่น รัสเซียจะเป็นผู้ซื้อที่มีศักยภาพของตลาดนี้
อย่างไรก็ตาม บริเวณที่เป็นที่นิยมคือเขาพระตำหนักและจอมเทียนสาย 2 ซึ่งโครงการต่างๆ เป็นแบบไม่เห็นวิวทะเล ราคายูนิตค่อนข้างต่ำเป็นแบบสตูดิโอขนาด 28 ตร.ม.ราคาขายประมาณ 9 แสนบาทต่อยูนิต บริเวณคอนโดเกิดใหม่จะอยู่ที่ จอมเทียนสาย 2 เนื่องจากการพัฒนาของถนนหนทางบริเวณนั้นมีมากขึ้น ทำให้ดึงดูดตลาดคอนโดมิเนียมระดับล่าง โครงการ ลากูน่า บีช รีสอร์ท ที่ตั้งอยู่บนจอมเทียนสาย 2 เป็นอีกโครงการหนึ่งที่เป็นที่นิยมในหมู่ชาวรัสเซีย นอกจากนี้ ก็อาจมีผู้ซื้อจากยุโรป เช่น อังกฤษ ไอร์แลนด์ สวีเดน และนอร์เวย์ด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ จากผลวิจัยของบริษัท ไนท์แฟรงค์ฯ เปิดเผยว่า ในปีที่แล้วมีความต้องการคอนโดมิเนียมถึง 2,491 ยูนิต เพิ่มขึ้น 120% จากปีก่อนหน้าอย่างไรก็ตามอัตราการขายได้ลดลงจาก 52.5% จากปี 2553 เป็น 41% ในปี 2554 เนื่องจากมีปริมาณซัพพลายจำนวนมากเข้ามาในตลาด
ตลาดคอนโดในพัทยาเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว คอนโดใหม่ส่วนมากจะนิยมยูนิตเล็ก 1 ห้องนอนหรือน้อยกว่า ซึ่งคิดเป็น 70% ของคอนโดใหม่ที่เข้ามาในตลาด เทรนด์นี้น่าจะเป็นไปอย่างต่อเนื่องเนื่องจากมีคอนโดกึ่งหนึ่งห้องนอนในขนาดต่ำกว่า 40 ตร.ม.เกิดขึ้นมากมาย การที่ต้นทุนการก่อสร้างสูงขึ้นเป็นธรรมดาที่ราคาต้องสูงขึ้นตามไปด้วย แต่ในธรรมชาติการแข่งขันของตลาดคือราคาจะคงที่หากแต่ลักษณะเฉพาะและขนาดของยูนิตนั้นจะลดลงแทน
"เป็นเวลาเกือบสองปีแล้วที่คนไทยเป็นผู้ซื้อที่อยู่อาศัยรายใหญ่บริเวณทะเลภาคตะวันออก ตลาดคอนโดพัทยานั้นเติบโตขึ้นอย่างมาก โครงการส่วนใหญ่สามารถหาผู้ซื้อได้อย่างรวดเร็ว ซัพพลายใหม่ของคอนโดในพัทยาจะอยู่ในบริเวณจอมเทียน เพราะในบริเวณนั้นยังมีที่ดินที่จะสามารถพัทยาได้อีกมากเมื่อเทียบกับบริเวณอื่นในพัทยา" นายแฟรงค์กล่าวและว่า ไม่ว่าผู้ซื้อจะมองหาคอนโดลักษณะไหน ก็มีคอนโดหลากหลายที่เปิดตัวในปีนี้ให้เลือกในพัทยา โดยจะเริ่มการก่อสร้างประมาณต้นปีหน้าและคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณปลายปี 2557
นายแฟรงค์กล่าวว่า ยูนิตในฝันของผู้ซื้อคอนโดชาวไทยเพื่อเป็นบ้านหลังที่สองคือแบบ 1-2ห้องนอน ขนาดประมาณ 55 ตร.ม. สำหรับนักลงทุนที่ซื้อเพื่อปล่อยเช่าจะมองหายูนิต 1 ห้องนอนที่เล็กกว่านี้อยู่ที่ประมาณ 39 ตร.ม.
ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
นายแฟรงค์ ข่าน ผู้อำนวยการ-หัวหน้าฝ่ายที่ปรึกษาด้านโครงการที่พักอาศัย บริษัท ไนท์ แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงทิศทางตลาดคอนโดมิเนียมสในเมืองพัทยา กล่าวว่าจากการเติบโตของเมืองพัทยา ทำให้เมื่อปี 2554 ที่ผ่านมา มีคอนโดมิเนียมใหม่ที่เปิดตัวในพัทยา (เฉพาะวิวทะเล) เป็นสถิติสูงสุดคือ ประมาณ 7,888 ยูนิต จาก 13 โครงการ โดยความต้องการคอนโดในพัทยามาจากผู้ซื้อชาวไทยเป็นหลักในบางโครงการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการที่อยู่ในพัทยาเหนือและวงศ์อมาตย์ เนื่องจากมีห้างค้าปลีก ร้านอาหาร และบาร์มากมายในบริเวณนี้ ในขณะที่คอนโดมิเนียมในตัวเมืองที่อยู่ในพัทยาใต้จะเต็มไปด้วยชาวต่างชาติ เช่น รัสเซียจะเป็นผู้ซื้อที่มีศักยภาพของตลาดนี้
อย่างไรก็ตาม บริเวณที่เป็นที่นิยมคือเขาพระตำหนักและจอมเทียนสาย 2 ซึ่งโครงการต่างๆ เป็นแบบไม่เห็นวิวทะเล ราคายูนิตค่อนข้างต่ำเป็นแบบสตูดิโอขนาด 28 ตร.ม.ราคาขายประมาณ 9 แสนบาทต่อยูนิต บริเวณคอนโดเกิดใหม่จะอยู่ที่ จอมเทียนสาย 2 เนื่องจากการพัฒนาของถนนหนทางบริเวณนั้นมีมากขึ้น ทำให้ดึงดูดตลาดคอนโดมิเนียมระดับล่าง โครงการ ลากูน่า บีช รีสอร์ท ที่ตั้งอยู่บนจอมเทียนสาย 2 เป็นอีกโครงการหนึ่งที่เป็นที่นิยมในหมู่ชาวรัสเซีย นอกจากนี้ ก็อาจมีผู้ซื้อจากยุโรป เช่น อังกฤษ ไอร์แลนด์ สวีเดน และนอร์เวย์ด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ จากผลวิจัยของบริษัท ไนท์แฟรงค์ฯ เปิดเผยว่า ในปีที่แล้วมีความต้องการคอนโดมิเนียมถึง 2,491 ยูนิต เพิ่มขึ้น 120% จากปีก่อนหน้าอย่างไรก็ตามอัตราการขายได้ลดลงจาก 52.5% จากปี 2553 เป็น 41% ในปี 2554 เนื่องจากมีปริมาณซัพพลายจำนวนมากเข้ามาในตลาด
ตลาดคอนโดในพัทยาเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว คอนโดใหม่ส่วนมากจะนิยมยูนิตเล็ก 1 ห้องนอนหรือน้อยกว่า ซึ่งคิดเป็น 70% ของคอนโดใหม่ที่เข้ามาในตลาด เทรนด์นี้น่าจะเป็นไปอย่างต่อเนื่องเนื่องจากมีคอนโดกึ่งหนึ่งห้องนอนในขนาดต่ำกว่า 40 ตร.ม.เกิดขึ้นมากมาย การที่ต้นทุนการก่อสร้างสูงขึ้นเป็นธรรมดาที่ราคาต้องสูงขึ้นตามไปด้วย แต่ในธรรมชาติการแข่งขันของตลาดคือราคาจะคงที่หากแต่ลักษณะเฉพาะและขนาดของยูนิตนั้นจะลดลงแทน
"เป็นเวลาเกือบสองปีแล้วที่คนไทยเป็นผู้ซื้อที่อยู่อาศัยรายใหญ่บริเวณทะเลภาคตะวันออก ตลาดคอนโดพัทยานั้นเติบโตขึ้นอย่างมาก โครงการส่วนใหญ่สามารถหาผู้ซื้อได้อย่างรวดเร็ว ซัพพลายใหม่ของคอนโดในพัทยาจะอยู่ในบริเวณจอมเทียน เพราะในบริเวณนั้นยังมีที่ดินที่จะสามารถพัทยาได้อีกมากเมื่อเทียบกับบริเวณอื่นในพัทยา" นายแฟรงค์กล่าวและว่า ไม่ว่าผู้ซื้อจะมองหาคอนโดลักษณะไหน ก็มีคอนโดหลากหลายที่เปิดตัวในปีนี้ให้เลือกในพัทยา โดยจะเริ่มการก่อสร้างประมาณต้นปีหน้าและคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณปลายปี 2557
นายแฟรงค์กล่าวว่า ยูนิตในฝันของผู้ซื้อคอนโดชาวไทยเพื่อเป็นบ้านหลังที่สองคือแบบ 1-2ห้องนอน ขนาดประมาณ 55 ตร.ม. สำหรับนักลงทุนที่ซื้อเพื่อปล่อยเช่าจะมองหายูนิต 1 ห้องนอนที่เล็กกว่านี้อยู่ที่ประมาณ 39 ตร.ม.
ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก