ฝึกฝนประสบการณ์ทำธุรกิจอยู่กับไทยซัมมิทกรุ๊ปประมาณ 5 ปี ในตำแหน่งรองประธานกรรมการฝ่ายจัดซื้อ วันนี้ "คุณตะ- สกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ" ทายาทธุรกิจ วัย 29 ปี พร้อมแล้วกับหมวกใบใหม่ในฐานะดีเวลอปเปอร์เต็มตัว กับความรับผิดชอบใหม่หมาดในตำแหน่งรองประธานกรรมการ "บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด"
แน่นอนว่าทุกย่างก้าวบนเส้นทางทายาทธุรกิจของ "สกุลธร" อยู่ภายใต้การประคบประหงมจากติวเตอร์ที่เป็นทั้งบุพการีและประธานกลุ่มไทยซัมมิทกรุ๊ป "สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ"
"...คุณแม่ไม่ได้ให้นโยบายอะไรมาก บอกแต่ให้มาต่อยอดแลนด์แบงก์ที่มีอยู่" คำสัมภาษณเปิดประเด็นของ "คุณตะ"
เป็นที่รับรู้กันว่าไทยซัมมิทกรุ๊ปสาย "สมพร" เป็นนักสะสมแลนด์แบงก์ตัวยง การเปิดตัวบุกธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จึงเป็นวิสัยทัศน์เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับที่ดินในมือโดยตรง ทุนประเดิมของ "สกุลธร" จึงไม่ใช่เพียงดีเวลอปเปอร์ หน้าใหม่มือสมัครเล่น แต่เป็นหนึ่งในแลนด์ลอร์ดของเมืองไทย
ปกติบริษัทอสังหาฯน้องใหม่ในวงการ เมื่อจะเปิดตัวโครงการแรกจะต้องเป็นภาพความสำเร็จเสมอ สำหรับ "เรียลแอสเสท" ก็เฉกเช่นเดียวกัน เลือกเฟ้นที่ดินผืนงามหลายสิบไร่ริมถนนบางนา-ตราด กม.5 นำมาพัฒนาโครงการทาวน์โฮม 4 ชั้น แบรนด์ "เอ็นเตอร์ไพรซ์ ปาร์ค-Enterprise Park"
รายละเอียด พัฒนาบนเนื้อที่ 10 ไร่เศษ แบ่งแปลงเพียง 80 ยูนิต มี 2 ไซซ์ คือที่ดิน 25 ตารางวา หน้ากว้าง 5.5 เมตร ประมาณ 70 ยูนิต และที่ดิน 32 ตารางวา หน้ากว้าง 8 เมตร อีก 10 ยูนิต มูลค่าโครงการกว่า 700 ล้านบาท
น่าสนใจว่ากลยุทธ์การขายเลือกที่จะวางจังหวะเป็น 3 เฟส เริ่มจากเฟสแรก คัดมา 26 ยูนิตก่อน เป็นช่วงพรีเซล ลูกค้าที่สนใจเลือกช็อปได้ตั้งแต่วันนี้ เฟส 2 วางแผนแกรนด์โอเพนนิ่ง 31 มีนาคม อีกประมาณ 30-40 ยูนิต เฟสสุดท้าย กันไว้เปิดตัวไตรมาส 3 ประมาณ 14 ยูนิต ซึ่งจะเป็นแปลงติดถนนทั้งหมด ราคาเริ่มต้นในเฟสแรก 7.69 ล้านบาท (อยู่ด้านใน) จะปรับเพิ่มเป็นมากกว่าหลังละ 10 ล้านบาท
หรือเท่ากับราคาเปิดตัวตร.ม.ละไม่ถึง 3 หมื่นบาท การออกแบบเรียกว่าจัดเต็ม เพราะพื้นที่ใช้สอยในบ้าน 318 ตร.ม. สไตล์โมเดิร์นคอนเทมโพรารี่ แบบกับฟังก์ชั่นที่ให้ เทียบกับราคาค่อนข้างจะ การันตีความสำเร็จได้ไม่ยาก
คำถามแรก คือที่ดินถือว่าไพรม แอเรีย เพราะติดถนนใหญ่บางนา-ตราด กม.5 แถมแปลงที่ดินก็มีขนาดใหญ่พอ ทำไมเลือกลงทุนแนวราบ มูลค่าเพียง 700 กว่าล้านบาท ทั้ง ๆ ที่สามารถพัฒนาโครงการแนวสูง มูลค่าหลายพันล้านบาทได้
"ผมไม่อยากลงทุนเกินตัว เมื่อเริ่มต้นทำธุรกิจพัฒนาที่ดินแล้ว ก็อยากจะ hope for the best เราจะโตอย่างยั่งยืน จริง ๆ เราก็ศึกษาหลายโปรดักต์ แต่เมื่อลงตัวที่โครงการทาวน์โฮม 4 ชั้น ก็เดินหน้าทันที ทำเลมีศักยภาพ ราคาแข่งขันได้ ก็โอเคแล้วครับ"
ถัดจากโครงการแรก "เอ็นเตอร์ ไพรซ์ ปาร์ค" เตรียมจะลงทุนเพิ่ม 3-4 โครงการ ทั้งแนวราบ-แนวสูง โดยท่องเป็นสูตรได้ว่า "1-6-7-9"
คำเฉลย คือเดือน 1 เปิดตัวทาวน์โฮม 4 ชั้น มูลค่าโครงการ 700 กว่าล้านบาท, เดือน 6 เปิดตัวคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ 88 ยูนิต 350 ล้านบาท, เดือน 7 เปิดตัวบ้านแฝด 138 ยูนิต 500 ล้านบาท
และเดือน 9 ย้อนกลับมาเปิดตัวทาวน์โฮม 3 ชั้น เฟสต่อขยาย ที่ทำเล บางนา-ตราด กม.5 อยู่ด้านหลังโครงการเอ็นเตอร์ไพรซ์ ปาร์ค ขายยูนิตละ 4.5 ล้านบาทขึ้นไป
ดูเหมือนว่าจะเป็นการทำธุรกิจสไตล์ "สโลว์บัตชัวร์" ?
"ผมขอเวลาสัก 3 ปี หาประสบการณ์ในธุรกิจพัฒนาที่ดิน ไม่มีความจำเป็นต้องเร่งรีบอะไร"
ในความสโลว์บัตชัวร์ ถามถึงเป้าหมายระยะไกล ที่อยากไปให้ถึง วางไว้อย่างไร "...10 ปีข้างหน้าขอติดอันดับบริษัทอสังหาฯท็อปเทน"
คำขยายความ คือมานั่งดูสถิติรายได้ของบริษัทอสังหาฯ 10 อันดับแรกในตลาดแล้ว ตัวเลขแตะแถว ๆ 7-8 พันล้านบาท ภายใน 10 ปี บริษัทอสังหาฯของเขาก็น่าจะทำได้ไม่ยากเย็นนัก
อีกหนึ่งคำถาม ในฐานะบริษัท ดีเวลอปเปอร์น้องใหม่ ประเมินว่าตัวเองยังมีจุดอ่อนอะไรอยู่บ้าง
"จุดอ่อน คือเราต้องสร้างแบรนด์ มี 2-3 เรื่องที่ต้องทำ เริ่มจากการสื่อสารไปถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมาย ก็คือการโฆษณาประชาสัมพันธ์ ในขณะที่โปรดักต์ของเราต้องตอบโจทย์ และต้องสร้างจุดขายเรื่องบริการ ตั้งแต่จองซื้อโครงการกับเรา จะต้องดูแลไปจนถึงหลังส่งมอบไปแล้ว การสร้างแบรนด์ ก็เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา"
ชวนคุยเรื่องแบรนด์ ก็เลยต้องถามต่อเนื่องว่า ทำไมเลือก "เอ็นเตอร์ไพรซ์ ปาร์ค" ฟังจากชื่อแล้วน่าจะให้ความรู้สึกว่าเป็นโครงการภาคอุตสาหกรรมมากกว่าจะเป็นที่อยู่อาศัย... รึเปล่า
"แปลงที่ดินก็เป็นตัวกำหนดแบรนด์อยู่พอสมควร ที่ดินมีศักยภาพสูง เป็นที่อยู่อาศัยและเชิงพาณิชย์ ซึ่งผมมองว่า แบรนด์เอ็นเตอร์ไพรซ์ ปาร์ค ก็สื่อความหมายได้ตรงตัว ชัดเจนดีครับ"
เหนือสิ่งอื่นใด "เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์" เปลี่ยนชื่อมาจากบริษัทเดิม "ไทยซัมมิท แกรนด์เอสเตท" ซึ่งเป็นบริษัทที่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์แลนด์แบงก์ในเครือไทยซัมมิทกรุ๊ป เท่ากับต่อไปธุรกิจพัฒนาอสังหาฯ จะอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของ "เรียลแอสเสทฯ" โดยมีทุนจดทะเบียน 900 ล้านบาท
คำให้สัมภาษณ์สุดท้ายก่อนจากลา คือการเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น "เรียลแอสเสทฯ" เป็นกลยุทธ์ในการสร้างแบรนด์อย่างหนึ่งของ "สกุลธร" เพราะ
"...ผมต้องการสร้างการจดจำให้กับ ผู้บริโภคว่า นี่คือโครงการอสังหาฯของกลุ่มเรียลฯ"
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ
แน่นอนว่าทุกย่างก้าวบนเส้นทางทายาทธุรกิจของ "สกุลธร" อยู่ภายใต้การประคบประหงมจากติวเตอร์ที่เป็นทั้งบุพการีและประธานกลุ่มไทยซัมมิทกรุ๊ป "สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ"
"...คุณแม่ไม่ได้ให้นโยบายอะไรมาก บอกแต่ให้มาต่อยอดแลนด์แบงก์ที่มีอยู่" คำสัมภาษณเปิดประเด็นของ "คุณตะ"
เป็นที่รับรู้กันว่าไทยซัมมิทกรุ๊ปสาย "สมพร" เป็นนักสะสมแลนด์แบงก์ตัวยง การเปิดตัวบุกธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จึงเป็นวิสัยทัศน์เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับที่ดินในมือโดยตรง ทุนประเดิมของ "สกุลธร" จึงไม่ใช่เพียงดีเวลอปเปอร์ หน้าใหม่มือสมัครเล่น แต่เป็นหนึ่งในแลนด์ลอร์ดของเมืองไทย
ปกติบริษัทอสังหาฯน้องใหม่ในวงการ เมื่อจะเปิดตัวโครงการแรกจะต้องเป็นภาพความสำเร็จเสมอ สำหรับ "เรียลแอสเสท" ก็เฉกเช่นเดียวกัน เลือกเฟ้นที่ดินผืนงามหลายสิบไร่ริมถนนบางนา-ตราด กม.5 นำมาพัฒนาโครงการทาวน์โฮม 4 ชั้น แบรนด์ "เอ็นเตอร์ไพรซ์ ปาร์ค-Enterprise Park"
รายละเอียด พัฒนาบนเนื้อที่ 10 ไร่เศษ แบ่งแปลงเพียง 80 ยูนิต มี 2 ไซซ์ คือที่ดิน 25 ตารางวา หน้ากว้าง 5.5 เมตร ประมาณ 70 ยูนิต และที่ดิน 32 ตารางวา หน้ากว้าง 8 เมตร อีก 10 ยูนิต มูลค่าโครงการกว่า 700 ล้านบาท
น่าสนใจว่ากลยุทธ์การขายเลือกที่จะวางจังหวะเป็น 3 เฟส เริ่มจากเฟสแรก คัดมา 26 ยูนิตก่อน เป็นช่วงพรีเซล ลูกค้าที่สนใจเลือกช็อปได้ตั้งแต่วันนี้ เฟส 2 วางแผนแกรนด์โอเพนนิ่ง 31 มีนาคม อีกประมาณ 30-40 ยูนิต เฟสสุดท้าย กันไว้เปิดตัวไตรมาส 3 ประมาณ 14 ยูนิต ซึ่งจะเป็นแปลงติดถนนทั้งหมด ราคาเริ่มต้นในเฟสแรก 7.69 ล้านบาท (อยู่ด้านใน) จะปรับเพิ่มเป็นมากกว่าหลังละ 10 ล้านบาท
หรือเท่ากับราคาเปิดตัวตร.ม.ละไม่ถึง 3 หมื่นบาท การออกแบบเรียกว่าจัดเต็ม เพราะพื้นที่ใช้สอยในบ้าน 318 ตร.ม. สไตล์โมเดิร์นคอนเทมโพรารี่ แบบกับฟังก์ชั่นที่ให้ เทียบกับราคาค่อนข้างจะ การันตีความสำเร็จได้ไม่ยาก
คำถามแรก คือที่ดินถือว่าไพรม แอเรีย เพราะติดถนนใหญ่บางนา-ตราด กม.5 แถมแปลงที่ดินก็มีขนาดใหญ่พอ ทำไมเลือกลงทุนแนวราบ มูลค่าเพียง 700 กว่าล้านบาท ทั้ง ๆ ที่สามารถพัฒนาโครงการแนวสูง มูลค่าหลายพันล้านบาทได้
"ผมไม่อยากลงทุนเกินตัว เมื่อเริ่มต้นทำธุรกิจพัฒนาที่ดินแล้ว ก็อยากจะ hope for the best เราจะโตอย่างยั่งยืน จริง ๆ เราก็ศึกษาหลายโปรดักต์ แต่เมื่อลงตัวที่โครงการทาวน์โฮม 4 ชั้น ก็เดินหน้าทันที ทำเลมีศักยภาพ ราคาแข่งขันได้ ก็โอเคแล้วครับ"
ถัดจากโครงการแรก "เอ็นเตอร์ ไพรซ์ ปาร์ค" เตรียมจะลงทุนเพิ่ม 3-4 โครงการ ทั้งแนวราบ-แนวสูง โดยท่องเป็นสูตรได้ว่า "1-6-7-9"
คำเฉลย คือเดือน 1 เปิดตัวทาวน์โฮม 4 ชั้น มูลค่าโครงการ 700 กว่าล้านบาท, เดือน 6 เปิดตัวคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ 88 ยูนิต 350 ล้านบาท, เดือน 7 เปิดตัวบ้านแฝด 138 ยูนิต 500 ล้านบาท
และเดือน 9 ย้อนกลับมาเปิดตัวทาวน์โฮม 3 ชั้น เฟสต่อขยาย ที่ทำเล บางนา-ตราด กม.5 อยู่ด้านหลังโครงการเอ็นเตอร์ไพรซ์ ปาร์ค ขายยูนิตละ 4.5 ล้านบาทขึ้นไป
ดูเหมือนว่าจะเป็นการทำธุรกิจสไตล์ "สโลว์บัตชัวร์" ?
"ผมขอเวลาสัก 3 ปี หาประสบการณ์ในธุรกิจพัฒนาที่ดิน ไม่มีความจำเป็นต้องเร่งรีบอะไร"
ในความสโลว์บัตชัวร์ ถามถึงเป้าหมายระยะไกล ที่อยากไปให้ถึง วางไว้อย่างไร "...10 ปีข้างหน้าขอติดอันดับบริษัทอสังหาฯท็อปเทน"
คำขยายความ คือมานั่งดูสถิติรายได้ของบริษัทอสังหาฯ 10 อันดับแรกในตลาดแล้ว ตัวเลขแตะแถว ๆ 7-8 พันล้านบาท ภายใน 10 ปี บริษัทอสังหาฯของเขาก็น่าจะทำได้ไม่ยากเย็นนัก
อีกหนึ่งคำถาม ในฐานะบริษัท ดีเวลอปเปอร์น้องใหม่ ประเมินว่าตัวเองยังมีจุดอ่อนอะไรอยู่บ้าง
"จุดอ่อน คือเราต้องสร้างแบรนด์ มี 2-3 เรื่องที่ต้องทำ เริ่มจากการสื่อสารไปถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมาย ก็คือการโฆษณาประชาสัมพันธ์ ในขณะที่โปรดักต์ของเราต้องตอบโจทย์ และต้องสร้างจุดขายเรื่องบริการ ตั้งแต่จองซื้อโครงการกับเรา จะต้องดูแลไปจนถึงหลังส่งมอบไปแล้ว การสร้างแบรนด์ ก็เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา"
ชวนคุยเรื่องแบรนด์ ก็เลยต้องถามต่อเนื่องว่า ทำไมเลือก "เอ็นเตอร์ไพรซ์ ปาร์ค" ฟังจากชื่อแล้วน่าจะให้ความรู้สึกว่าเป็นโครงการภาคอุตสาหกรรมมากกว่าจะเป็นที่อยู่อาศัย... รึเปล่า
"แปลงที่ดินก็เป็นตัวกำหนดแบรนด์อยู่พอสมควร ที่ดินมีศักยภาพสูง เป็นที่อยู่อาศัยและเชิงพาณิชย์ ซึ่งผมมองว่า แบรนด์เอ็นเตอร์ไพรซ์ ปาร์ค ก็สื่อความหมายได้ตรงตัว ชัดเจนดีครับ"
เหนือสิ่งอื่นใด "เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์" เปลี่ยนชื่อมาจากบริษัทเดิม "ไทยซัมมิท แกรนด์เอสเตท" ซึ่งเป็นบริษัทที่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์แลนด์แบงก์ในเครือไทยซัมมิทกรุ๊ป เท่ากับต่อไปธุรกิจพัฒนาอสังหาฯ จะอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของ "เรียลแอสเสทฯ" โดยมีทุนจดทะเบียน 900 ล้านบาท
คำให้สัมภาษณ์สุดท้ายก่อนจากลา คือการเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น "เรียลแอสเสทฯ" เป็นกลยุทธ์ในการสร้างแบรนด์อย่างหนึ่งของ "สกุลธร" เพราะ
"...ผมต้องการสร้างการจดจำให้กับ ผู้บริโภคว่า นี่คือโครงการอสังหาฯของกลุ่มเรียลฯ"
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ