ราคาบ้านในสหรัฐอเมริกาตกต่ำลงในเดือนสิงหาคม 0.1% ขณะที่อังกฤษเพิ่มขึ้น 0.4% สะท้อนภาวะที่แตกต่างกันทางนโยบายที่อยู่อาศัยที่อังกฤษดูแลได้เฃ้มงวดกว่าจึงมีการฟื้นตัวที่ดีกว่า
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส เปิดเผยว่า จากข้อมูลล่าสุดขององค์กรการเงินเคหะการแห่งสหรัฐอเมริกา รายงานว่า สถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐอเมริกายังยังไม่กระเตื้องนัก โดยในเดือนสิงหาคม 2554 ซึ่งเป็นเดือนที่มีการสำรวจล่าสุดพบว่า ราคาบ้านในสหรัฐอเมริกายังลดลงประมาณ 0.1% แต่ในรอบ 4 เดือนก่อนหน้านี้ ราคากระเตื้องขึ้นเล็กน้อยมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคาบ้านในรอบ 1 ปี (สิงหาคม 2553-2554) ลดลงไปประมาณ 4%
ในขณะที่ราคาบ้าน ณ เดือนล่าสุด (สิงหาคม 2554) ต่ำกว่าราคาบ้านในเดือนที่ขึ้นสูงสุด ณ เดือนเมษายน 2550 อยู่ประมาณ 19.1% นับเป็นการลดลงไปมากพอสมควรทีเดียว ราคาบ้านในขณะนี้เท่ากับราคาบ้านเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2547 หรือประมาณ 7 ปีเศษมาแล้ว
การลดลงของราคาบ้านในเดือนสิงหาคมนับว่าลดลงแทบทุกภูมิภาค ยกเว้นมลรัฐแถวมหาสมุทรแอตแลนติกใต้ คือ ฟลอริดาและบริเวณโดยรอบที่ราคาเพิ่มขึ้น 0.9% ส่วนกลุ่มมลรัฐที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงราคาในรอบเดือนกรกฎาคม – สิงหาคม เลยก็คือ มลรัฐทางภาคกลางค่อนมาทางตะวันตกเฉียงใต้ ได้แก่ มลรัฐโอกลาโฮมา อาคันซอส์ เท็กซัสและหลุยเซียนา
จากคามเห็นของนางวินเตอร์ส์ วุฒิสมาชิกมลรัฐออรีกอน สหรัฐอเมริกา ซึ่งมาบรรยายให้กับการเสวนาของโรงเรียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย ซึ่งเป็นองค์กรการศึกษาของศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ทราบความว่า ราคาที่อยู่อาศัยในสหรัฐอเมริกายังไม่ดีขึ้น แม้ผ่านเวลามาถึง 4 ปีแล้วนับจากวิกฤติที่ผ่านมา และยังอาจมีความเสี่ยงที่ราคาจะตกต่ำลงอีก
สำหรับสถานการณ์ในอังกฤษโดยสถาบันที่อยู่อาศัยทั่วราชอาณาจักรของอังกฤษพบว่า ราคาบ้านในเดือนตุลาคม 2554 เพิ่มขึ้น 0.4% ทำให้ราคาบ้านในอังกฤษเพิ่มขึ้นประมาณ 2.9% ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา แม้จะยังไม่มากนัก แต่หากเทียบกับประเทศอื่นในยุโรป อังกฤษยังถือว่าดีกว่าอีกหลายประเทศทั้งยุโรปใต้ ประเทศแถบสแกนดิเนเวียหรือฝรั่งเศส
ในรายละเอียดพบว่าราคาบ้านในอังกฤษ ณ เดือนตุลาคม 2554 เป็นเงิน 8.139 ล้านบาท ในขณะที่เมื่อเดือนตุลาคม ปีที่แล้วราคา 8.072 ล้านบาท และราคาเมื่อเดือนตุลาคม 2552 เป็นเงิน 7.961 ล้านบาท แสดงว่าราคาบ้านกลับฟื้นตัวขึ้นตามลำดับ ประเด็นสำคัญที่ทำให้ราคาบ้านเพิ่มขึ้นเพราะการจ้างงานมากขึ้น โดยการจ้างงานเพิ่มขึ้นประมาณ 6% ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ในขณะที่อัตราการว่างงานในสหรัฐอเมริกายังอยู่ในระดับสูง นอกจากนี้อังกฤษยังมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่สำคัญก็คืองานโอลิมปิคในปีหน้าที่จะจัดขึ้น ณ กรุงลอนดอน ทำให้ราคาบ้านในกรุงลอนดอนเพิ่มสูงขึ้นไปตามกิจกรรมสำคัญนี้ด้วย
ประเด็นที่น่าจับตามองอีกประเด็นหนึ่งก็คือการแก้ไขปัญหาเรื่องสินเชื่อของอังกฤษน่าจะดีกว่าสหรัฐอเมริกาที่อ่อนวินัยทางการเงินเป็นอย่างยิ่ง จากการอำนวยสินเชื่อถึง 100% - 120% ตลอดจนการสร้างระบบตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย (Secondary Mortgage Corporation) ทำให้ระบบการเงินเคหะการเสียหายจนยากแก่การแก้ไข ดังนั้นการอำนวยสินเชื่อโดยไม่มีเงินดาวน์ หรือเงินดาวน์ต่ำ ๆ จึงเป็นการสร้างความเสี่ยงให้กับระบบสถาบันการเงินและฐานะทางการเงินของประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ข่าวจากโพสทูเดย์ 11 พ.ย. 2554
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส เปิดเผยว่า จากข้อมูลล่าสุดขององค์กรการเงินเคหะการแห่งสหรัฐอเมริกา รายงานว่า สถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐอเมริกายังยังไม่กระเตื้องนัก โดยในเดือนสิงหาคม 2554 ซึ่งเป็นเดือนที่มีการสำรวจล่าสุดพบว่า ราคาบ้านในสหรัฐอเมริกายังลดลงประมาณ 0.1% แต่ในรอบ 4 เดือนก่อนหน้านี้ ราคากระเตื้องขึ้นเล็กน้อยมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคาบ้านในรอบ 1 ปี (สิงหาคม 2553-2554) ลดลงไปประมาณ 4%
ในขณะที่ราคาบ้าน ณ เดือนล่าสุด (สิงหาคม 2554) ต่ำกว่าราคาบ้านในเดือนที่ขึ้นสูงสุด ณ เดือนเมษายน 2550 อยู่ประมาณ 19.1% นับเป็นการลดลงไปมากพอสมควรทีเดียว ราคาบ้านในขณะนี้เท่ากับราคาบ้านเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2547 หรือประมาณ 7 ปีเศษมาแล้ว
การลดลงของราคาบ้านในเดือนสิงหาคมนับว่าลดลงแทบทุกภูมิภาค ยกเว้นมลรัฐแถวมหาสมุทรแอตแลนติกใต้ คือ ฟลอริดาและบริเวณโดยรอบที่ราคาเพิ่มขึ้น 0.9% ส่วนกลุ่มมลรัฐที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงราคาในรอบเดือนกรกฎาคม – สิงหาคม เลยก็คือ มลรัฐทางภาคกลางค่อนมาทางตะวันตกเฉียงใต้ ได้แก่ มลรัฐโอกลาโฮมา อาคันซอส์ เท็กซัสและหลุยเซียนา
จากคามเห็นของนางวินเตอร์ส์ วุฒิสมาชิกมลรัฐออรีกอน สหรัฐอเมริกา ซึ่งมาบรรยายให้กับการเสวนาของโรงเรียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย ซึ่งเป็นองค์กรการศึกษาของศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ทราบความว่า ราคาที่อยู่อาศัยในสหรัฐอเมริกายังไม่ดีขึ้น แม้ผ่านเวลามาถึง 4 ปีแล้วนับจากวิกฤติที่ผ่านมา และยังอาจมีความเสี่ยงที่ราคาจะตกต่ำลงอีก
สำหรับสถานการณ์ในอังกฤษโดยสถาบันที่อยู่อาศัยทั่วราชอาณาจักรของอังกฤษพบว่า ราคาบ้านในเดือนตุลาคม 2554 เพิ่มขึ้น 0.4% ทำให้ราคาบ้านในอังกฤษเพิ่มขึ้นประมาณ 2.9% ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา แม้จะยังไม่มากนัก แต่หากเทียบกับประเทศอื่นในยุโรป อังกฤษยังถือว่าดีกว่าอีกหลายประเทศทั้งยุโรปใต้ ประเทศแถบสแกนดิเนเวียหรือฝรั่งเศส
ในรายละเอียดพบว่าราคาบ้านในอังกฤษ ณ เดือนตุลาคม 2554 เป็นเงิน 8.139 ล้านบาท ในขณะที่เมื่อเดือนตุลาคม ปีที่แล้วราคา 8.072 ล้านบาท และราคาเมื่อเดือนตุลาคม 2552 เป็นเงิน 7.961 ล้านบาท แสดงว่าราคาบ้านกลับฟื้นตัวขึ้นตามลำดับ ประเด็นสำคัญที่ทำให้ราคาบ้านเพิ่มขึ้นเพราะการจ้างงานมากขึ้น โดยการจ้างงานเพิ่มขึ้นประมาณ 6% ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ในขณะที่อัตราการว่างงานในสหรัฐอเมริกายังอยู่ในระดับสูง นอกจากนี้อังกฤษยังมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่สำคัญก็คืองานโอลิมปิคในปีหน้าที่จะจัดขึ้น ณ กรุงลอนดอน ทำให้ราคาบ้านในกรุงลอนดอนเพิ่มสูงขึ้นไปตามกิจกรรมสำคัญนี้ด้วย
ประเด็นที่น่าจับตามองอีกประเด็นหนึ่งก็คือการแก้ไขปัญหาเรื่องสินเชื่อของอังกฤษน่าจะดีกว่าสหรัฐอเมริกาที่อ่อนวินัยทางการเงินเป็นอย่างยิ่ง จากการอำนวยสินเชื่อถึง 100% - 120% ตลอดจนการสร้างระบบตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย (Secondary Mortgage Corporation) ทำให้ระบบการเงินเคหะการเสียหายจนยากแก่การแก้ไข ดังนั้นการอำนวยสินเชื่อโดยไม่มีเงินดาวน์ หรือเงินดาวน์ต่ำ ๆ จึงเป็นการสร้างความเสี่ยงให้กับระบบสถาบันการเงินและฐานะทางการเงินของประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ข่าวจากโพสทูเดย์ 11 พ.ย. 2554