กรุงเทพฯ : ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด หรือ AREA เปิดเผยถึงการพัฒนาศูนย์การค้าในกรุงเทพมหานครของกลุ่มทุนจีนว่า โครงการ Yiwu International Trade City หรือ China City Complex มีมูลค่า 6,200 ล้านหยวน (28,415 ล้านบาท) โดยในส่วนของศูนย์การค้าจะจัดสร้างศูนย์การค้าส่งออกขนาด 500,000-700,000 ตารางเมตร มูลค่า 1,500 ล้านหยวน (6,875 ล้านบาท) สำหรับที่ตั้งของโครงการดังกล่าวจะอยู่บริเวณ ถ.บางนา-ตราด กม.9 ขนาดที่ดินประมาณ 64 ไร่ ซึ่งตามแผนจะมีร้านค้าถึง 10,000 ร้าน แบ่งเป็นส่วนที่ขายสินค้าไทย 30% และสินค้าจีน 70% เช่น เครื่องนุ่งห่ม เครื่องใช้ไฟฟ้า อัญมณีและเครื่องประดับ อะไหล่รถยนต์ ของแต่งบ้าน ของเล่น สินค้าไลฟ์สไตล์ อาหารและสินค้าแปรรูป เป็นต้น ทั้งนี้ จะเริ่มก่อสร้างในเดือนมีนาคม 2554 และเสร็จในไตรมาส 2 ปี 2555
“หากจีนพัฒนาศูนย์การค้าขนาดใหญ่เสร็จในปี 2555 จะเปลี่ยนโฉมตลาดค้าปลีกไทย อาจกลายเป็นแชมป์ตลาดค้าปลีกใหม่ และส่งผลให้ศูนย์การค้าย่านถนนบางนา-ตราดและใกล้เคียงซบเซาลงได้ เนื่องจากจะเกิดการแข่งขันกันอย่างรุนแรง ไม่ใช่ดึงดูดเฉพาะคนในพื้นที่ แต่ยังรวมถึงผู้บริโภคในพื้นที่อื่นอีกด้วย ดังนั้น ศูนย์การค้าท้องถิ่นในบริเวณใกล้เคียงจึงต้องเตรียมรับกับการแข่งขันที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่ถึง 2 ปีข้างหน้า หากศูนย์การค้าแห่งนี้สร้างเสร็จ”
นอกจากนี้ในระยะที่ 2 ของการพัฒนายังจะมีการย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทย พื้นที่ย่านถนนบางนา-ตราดจะเป็นแหล่งสร้างเมืองของคนจีนตามมา ซึ่งจะมีพ่อค้าชาวจีนมาอาศัยอยู่ในพื้นที่นี้อีกเป็นจำนวนมาก อาจเป็นโอกาสดีที่การเคหะแห่งชาติจะขายบ้านเอื้ออาทรแบบยกชุดในโครงการใกล้เคียงให้กลายเป็นเมืองคนจีนเช่นที่ปรากฏในดูไบ และในกลุ่มพ่อค้าเหล่านี้ย่อมมีพ่อค้าระดับที่มีฐานะดีเข้ามา การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยราคาแพงก็อาจเกิดขึ้นได้ ทำให้พื้นที่นี้กลับมาคึกคักขึ้นอีกครั้งหนึ่งในอนาคตอันใกล้
“หากโครงการศูนย์การค้าจีนเกิดขึ้นได้ในย่านบางนา-ตราด แม้ในแง่หนึ่งจะเป็นการรุกทางเศรษฐกิจของจีนมาสู่ภูมิภาคนี้ แต่ทำให้กรุงเทพฯและพื้นที่บางนา-ตราดคึกคักขึ้นมาเป็นอย่างมาก แต่คู่แข่งศูนย์การค้าใกล้เคียงอาจประสบปัญหาหนักในการแข่งขันได้”
ที่มา หนังสือพิมพ์โลกวันนี้
“หากจีนพัฒนาศูนย์การค้าขนาดใหญ่เสร็จในปี 2555 จะเปลี่ยนโฉมตลาดค้าปลีกไทย อาจกลายเป็นแชมป์ตลาดค้าปลีกใหม่ และส่งผลให้ศูนย์การค้าย่านถนนบางนา-ตราดและใกล้เคียงซบเซาลงได้ เนื่องจากจะเกิดการแข่งขันกันอย่างรุนแรง ไม่ใช่ดึงดูดเฉพาะคนในพื้นที่ แต่ยังรวมถึงผู้บริโภคในพื้นที่อื่นอีกด้วย ดังนั้น ศูนย์การค้าท้องถิ่นในบริเวณใกล้เคียงจึงต้องเตรียมรับกับการแข่งขันที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่ถึง 2 ปีข้างหน้า หากศูนย์การค้าแห่งนี้สร้างเสร็จ”
นอกจากนี้ในระยะที่ 2 ของการพัฒนายังจะมีการย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทย พื้นที่ย่านถนนบางนา-ตราดจะเป็นแหล่งสร้างเมืองของคนจีนตามมา ซึ่งจะมีพ่อค้าชาวจีนมาอาศัยอยู่ในพื้นที่นี้อีกเป็นจำนวนมาก อาจเป็นโอกาสดีที่การเคหะแห่งชาติจะขายบ้านเอื้ออาทรแบบยกชุดในโครงการใกล้เคียงให้กลายเป็นเมืองคนจีนเช่นที่ปรากฏในดูไบ และในกลุ่มพ่อค้าเหล่านี้ย่อมมีพ่อค้าระดับที่มีฐานะดีเข้ามา การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยราคาแพงก็อาจเกิดขึ้นได้ ทำให้พื้นที่นี้กลับมาคึกคักขึ้นอีกครั้งหนึ่งในอนาคตอันใกล้
“หากโครงการศูนย์การค้าจีนเกิดขึ้นได้ในย่านบางนา-ตราด แม้ในแง่หนึ่งจะเป็นการรุกทางเศรษฐกิจของจีนมาสู่ภูมิภาคนี้ แต่ทำให้กรุงเทพฯและพื้นที่บางนา-ตราดคึกคักขึ้นมาเป็นอย่างมาก แต่คู่แข่งศูนย์การค้าใกล้เคียงอาจประสบปัญหาหนักในการแข่งขันได้”
ที่มา หนังสือพิมพ์โลกวันนี้