รัชดาภิเษก : นายวิศิษฎ์ เลาหพูนรังษี ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ A เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานของบริษัทในปี 2554 ว่าจะมุ่งเน้นการทำตลาดสินค้าประเภททาวน์เฮาส์มากขึ้น โดยจะเปิดตัวประมาณ 3-4 โครงการ มูลค่าโครงการละ 1,000 ล้านบาท ซึ่งเม็ดเงินลงทุนส่วนหนึ่งจะมาจากหลายช่องทาง อาทิ การกู้เงินจากสถาบันการเงิน และกระแสเงินสดของบริษัท
ทั้งนี้ ทาวน์เฮาส์จะมีทั้งแบบ 2-4 ชั้น ระดับราคาตั้งแต่กว่าล้านบาทขึ้นไป ตั้งอยู่ใกล้เขตเมือง การเดินทางไปมาสะดวก ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ต้องการของตลาด ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก
เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2554 นายวิศิษฎ์ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่าบริษัทได้ทำการลงทุนในบริษัทย่อยใหม่ภายใต้ชื่อบริษัท ชิลล์สเปซ จำกัด เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2553 มีทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรองรับการขยายตัวทางธุรกิจของบริษัทในกลุ่มสินค้าประเภททาวน์เฮาส์ และเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารและดำเนินโครงการของบริษัทให้ดียิ่งขึ้น โดยบริษัทถือหุ้น 100% โดยใช้แหล่งเงินจากเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท
ทั้งนี้ ในปี 2553 ผลกำไรของบริษัทไม่ถึงเป้าหมายที่วางไว้ 600-700 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขหรือเป้าค่อนข้างสูง แต่เชื่อว่าผู้ถือหุ้นน่าจะพอใจ โดย 9 เดือนแรกของปี 2553 บริษัทมีกำไรสุทธิ 404 ล้านบาท
ส่วนผลประกอบการในปีนี้ทั้งรายได้และกำไรน่าจะใกล้เคียงปี 2553 ส่วนราคาหุ้น A นั้นนายวิศิษฎ์ให้ความเห็นว่า หากผลประกอบการของบริษัทออกมาดีเชื่อว่านักลงทุนคงจะเข้ามาซื้อขาย ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาหุ้นอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปแล้ว
ที่มา หนังสือพิมพ์โลกวันนี้
ทั้งนี้ ทาวน์เฮาส์จะมีทั้งแบบ 2-4 ชั้น ระดับราคาตั้งแต่กว่าล้านบาทขึ้นไป ตั้งอยู่ใกล้เขตเมือง การเดินทางไปมาสะดวก ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ต้องการของตลาด ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก
เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2554 นายวิศิษฎ์ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่าบริษัทได้ทำการลงทุนในบริษัทย่อยใหม่ภายใต้ชื่อบริษัท ชิลล์สเปซ จำกัด เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2553 มีทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรองรับการขยายตัวทางธุรกิจของบริษัทในกลุ่มสินค้าประเภททาวน์เฮาส์ และเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารและดำเนินโครงการของบริษัทให้ดียิ่งขึ้น โดยบริษัทถือหุ้น 100% โดยใช้แหล่งเงินจากเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท
ทั้งนี้ ในปี 2553 ผลกำไรของบริษัทไม่ถึงเป้าหมายที่วางไว้ 600-700 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขหรือเป้าค่อนข้างสูง แต่เชื่อว่าผู้ถือหุ้นน่าจะพอใจ โดย 9 เดือนแรกของปี 2553 บริษัทมีกำไรสุทธิ 404 ล้านบาท
ส่วนผลประกอบการในปีนี้ทั้งรายได้และกำไรน่าจะใกล้เคียงปี 2553 ส่วนราคาหุ้น A นั้นนายวิศิษฎ์ให้ความเห็นว่า หากผลประกอบการของบริษัทออกมาดีเชื่อว่านักลงทุนคงจะเข้ามาซื้อขาย ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาหุ้นอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปแล้ว
ที่มา หนังสือพิมพ์โลกวันนี้