นายแสนผิน สุขี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายโครงการบ้าน บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด(มหาชน) หรือ คิวเฮ้าส์ เปิดเผยว่า จากผลพวงน้ำท่วมใหญ่ตั้งแต่ปลายปีแล้ว คาดว่าจะทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2555 ซึมลง แต่กลุ่มคอนโดมิเนียมระดับ 1-2 ล้านบาท และตลาดบ้านในต่างจังหวัด จะมีการเติบโตค่อนข้างดี ทำให้กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของบริษัทในปีนี้ นอกจากจะเป็นครั้งแรกที่ลงไปรุกตลาดบ้านทาวน์เฮาส์ราคาเริ่มต้น 1 ล้านบาทเศษ และบ้านเดี่ยวราคาเริ่มต้น 2 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์ กัสโต เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคที่ไม่มีทางเลือกมากนัก หรือเป็นตลาดคนจนที่มีรสนิยม เพิ่งเริ่มทำงาน และเริ่มสร้างครอบครัว
ทั้งนี้ บริษัทได้นำระบบการก่อสร้างสำเร็จรูปแบบหล่อผนังในที่ เพื่อให้แข่งขันกับผู้นำตลาดบ้านสำหรับผู้มีรายได้น้อยอย่าง บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด(มหาชน) โดยบริษัทวางเป้าหมายภายใน 3 ปี มีส่วนแบ่งตลาด 10% จากตลาดรวมทาวน์เฮาส์ปีละ 50,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทจะใช้จุดแข็งด้านการจัดวางผังพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านที่ดีกว่า โดยเป็นทาวน์เฮาส์ หน้ากว้าง 5.5 เมตร ประกอบด้วย 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ และใช้วัสดุก่อสร้างคุณภาพดีกว่าคู่แข่ง ประกอบกับเป็นโครงการใหม่ที่เกิดขึ้นหลังเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ไปแล้ว ทำให้บริษัทได้สั่งเพิ่มระดับการถมที่ดินให้สูงขึ้นอีก 50 เซนติเมตร ซึ่งวัดจากระดับน้ำท่วมสูงสุดในรอบปีที่ผ่านมา
สำหรับในปีแรกจะเปิดพร้อมกัน 6 โครงการ ในเดือน พ.ค. ประกอบด้วยทาวน์เฮาส์ ทำเลรามคำแหง ซอยมิสทิน ราคา 2 ล้านบาท รวม 218 ยูนิต, ท่าน้ำนนทบุรี 1.9 ล้านบาท รวม 367 ยูนิต,สาทร-เทอดไท 2.1 ล้านบาท รวม 205 ยูนิต, ปิ่นเกล้า 2.2 ล้านบาท 202 ยูนิต ส่วนบ้านเดี่ยว มีทำเลสุขุมวิท 103 (อุดมสุข) 80 ยูนิต และรามคำแหง 3.5 ล้านบาท 120 ยูนิต ซึ่งทั้งหมดอยู่ภายใต้แผนธุรกิจปีนี้ ที่จะเปิดโครงการใหม่ทั้งสิ้น 23 โครงการ รวมมูลค่า 2.1 หมื่นล้านบาท รวม 5,900 ยูนิต โดยจะมีคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ เดอะทรัส ทาวน์เฮาส์แบรนด์คาซ่า ตลอดจนโครงการใน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี และบริษัทยังสนใจลงทุนในจ.อุดรธานี และอุบลราชธานี ด้วย
ที่มา: เว็บไซต์ข่าวสด
ทั้งนี้ บริษัทได้นำระบบการก่อสร้างสำเร็จรูปแบบหล่อผนังในที่ เพื่อให้แข่งขันกับผู้นำตลาดบ้านสำหรับผู้มีรายได้น้อยอย่าง บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด(มหาชน) โดยบริษัทวางเป้าหมายภายใน 3 ปี มีส่วนแบ่งตลาด 10% จากตลาดรวมทาวน์เฮาส์ปีละ 50,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทจะใช้จุดแข็งด้านการจัดวางผังพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านที่ดีกว่า โดยเป็นทาวน์เฮาส์ หน้ากว้าง 5.5 เมตร ประกอบด้วย 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ และใช้วัสดุก่อสร้างคุณภาพดีกว่าคู่แข่ง ประกอบกับเป็นโครงการใหม่ที่เกิดขึ้นหลังเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ไปแล้ว ทำให้บริษัทได้สั่งเพิ่มระดับการถมที่ดินให้สูงขึ้นอีก 50 เซนติเมตร ซึ่งวัดจากระดับน้ำท่วมสูงสุดในรอบปีที่ผ่านมา
สำหรับในปีแรกจะเปิดพร้อมกัน 6 โครงการ ในเดือน พ.ค. ประกอบด้วยทาวน์เฮาส์ ทำเลรามคำแหง ซอยมิสทิน ราคา 2 ล้านบาท รวม 218 ยูนิต, ท่าน้ำนนทบุรี 1.9 ล้านบาท รวม 367 ยูนิต,สาทร-เทอดไท 2.1 ล้านบาท รวม 205 ยูนิต, ปิ่นเกล้า 2.2 ล้านบาท 202 ยูนิต ส่วนบ้านเดี่ยว มีทำเลสุขุมวิท 103 (อุดมสุข) 80 ยูนิต และรามคำแหง 3.5 ล้านบาท 120 ยูนิต ซึ่งทั้งหมดอยู่ภายใต้แผนธุรกิจปีนี้ ที่จะเปิดโครงการใหม่ทั้งสิ้น 23 โครงการ รวมมูลค่า 2.1 หมื่นล้านบาท รวม 5,900 ยูนิต โดยจะมีคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ เดอะทรัส ทาวน์เฮาส์แบรนด์คาซ่า ตลอดจนโครงการใน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี และบริษัทยังสนใจลงทุนในจ.อุดรธานี และอุบลราชธานี ด้วย
ที่มา: เว็บไซต์ข่าวสด