คมนาคมหนุนสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรลในเขตเมืองหลักทั่วประเทศ หวังแก้ปัญหาจราจรในภาพรวมและลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว สนข.เร่งดันโมโนเรลเมืองพัทยา ใช้เป็นต้นแบบนำร่องก่อนเตรียมขยายสู่เชียงใหม่ ภูเก็ต โคราช นครสวรรค์ ชี้รัฐควรส่งเสริมการลงทุนแบบ PPP เพื่อดึงจีน เกาหลีที่มีความเชี่ยวชาญเข้ามาลงทุน เผยต้นแบบเมืองพัทยาคาดใช้งบ 1 หมื่นล้านบาท มี 10-11 สถานี ระยะ 12 กิโลเมตร เล็งให้ได้ข้อยุติภายในปีนี้
นายศิลปชัย จารุเกษมรัตนะ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะรักษาการปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า มีนโยบายสนับสนุนให้มีการศึกษาความเหมาะสมในการสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรลขึ้นในหัวเมืองหลัก เช่น เชียงใหม่ นครสวรรค์ นครราชสีมา และภูเก็ต เพื่อแก้ไขปัญหาจราจรในภาพรวมได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกับลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลลงให้ได้มากที่สุด เพื่อส่งเสริมให้หันมาใช้ระบบขนส่งมวลชนกันมากขึ้น โดยเตรียมเร่งผลักดันที่เมืองพัทยาก่อน หลังจากที่พบว่าประสบปัญหาการสร้างความเข้าใจประชาชน แต่คิดว่าในเร็วๆ นี้เมืองพัทยาจะมีปัญหาจราจรไม่ต่างกับเมืองอื่นๆ จึงควรวางแผนแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนตั้งแต่วันนี้
"คิดว่าโมโนเรลน่าจะช่วยแก้ไขปัญหาได้ดีกว่า แต่ต้องศึกษาความเหมาะสมในแต่ละพื้นที่แต่ละเมืองอีกครั้ง เพราะต้องการให้ลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวลงไปให้มากที่สุด แม้บางพื้นที่จะใช้รถเมล์โดยสาร แต่ก็ยังพบว่าปริมาณการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นหากสามารถช่วยให้ประชาชนหันมาใช้ระบบขนส่งมวลชน โดยเฉพาะระบบรางแล้วไปกำหนดมาตรการในการจำกัดรถเข้าไปในพื้นที่นั้นๆ เช่นเดียวกับต่างประเทศที่ดำเนินการ ก็น่าจะทำให้เมืองไทยโดยเฉพาะหัวเมืองหลักน่าอยู่มากขึ้น ไม่แออัดจนเกิดปัญหาจราจร"
รองปลัดคมนาคม กล่าวอีกว่า หากมองไปถึงเรื่องศักยภาพการลงทุน ภาครัฐควรเข้าไปสนับสนุน เนื่องจากงบประมาณของท้องถิ่นยังมีจำนวนไม่มาก แต่หากรัฐส่งเสริมให้มีการบริหารจัดการที่ดี เปิดโอกาสให้นักลงทุนจากต่างประเทศ เช่น จีน เกาหลี ญี่ปุ่นที่มีความชำนาญในเรื่องระบบรถไฟฟ้าโมโนเรลเข้ามาร่วมลงทุนแบบภาครัฐและเอกชน หรือPPP: public-private partnership ก็จะสามารถผลักดันโครงการให้ประสบความสำเร็จได้
"ส่งเสริมให้มีการบริหารจัดการที่ดี จัดงบประมาณในเบื้องต้นให้เหมาะสมจนสามารถเลี้ยงตนเองได้อย่างไม่เป็นภาระรัฐบาล โดยเทศบาลเมืองนั้นๆ รับผิดชอบและเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้าไปสนับสนุน ก็จะสามารถปรับเปลี่ยนการบริหารจัดการระบบขนส่งมวลชนรูปแบบใหม่เพื่อสนองความต้องการของประชาชนในพื้นที่นั้นๆ ได้อย่างแน่นอน"
นายประณต สุริยะ รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) กล่าวว่า เรื่องการส่งเสริมระบบขนส่งมวลชนและรถโดยสารสาธารณะในเมืองหลักปัจจุบันเริ่มมีความสำคัญมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรถไฟ รถไฟฟ้า รถเมล์โดยสาร รถสองแถว รถแท็กซี่สาธารณะ เช่น ในพื้นที่เมืองเชียงใหม่ ขอนแก่น ภูเก็ต และนครราชสีมา
"ต้องมีการศึกษาความเหมาะสมก่อน โดยเฉพาะรูปแบบว่ามีความเหมาะสมกับพื้นที่นั้นๆ อย่างไร ต่อจากนั้นจึงจะไปพิจารณาเรื่องงบประมาณการลงทุน และเรื่องการรับฟังความคิดเห็นประชาชน เพื่อเป็นทางเลือกในการเดินทาง สิ่งสำคัญต้องพิจารณาเรื่องวินัย การรับรู้ ระเบียบกฎหมาย การบริหารจัดการ โดยเฉพาะนโยบายรัฐบาลต้องชัดเจน เรื่องการผลักดันระบบขนส่งมวลชนและรถโดยสารสาธารณะเพื่อให้เกิดการเชื่อมโยง โดยตัวอย่างที่น่าจะเห็นภาพชัดมากขึ้นคือที่เชียงใหม่และขอนแก่น โดยเฉพาะขอนแก่นที่จะมีโครงการรถเมล์บีอาร์ที ซึ่งบริหารจัดการโดยเทศบาลเมืองขอนแก่นและเอกชนในพื้นที่เข้าไปสนับสนุน พร้อมกับคณะอนุกรรมการจัดระบบจราจรทางบกจังหวัด ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน ก็ให้ความสำคัญกับโครงการนี้จึงน่าจะเป็นต้นแบบให้เมืองอื่นๆ นำไปพัฒนาต่อไป"
นายประณต ยังได้ยกตัวอย่างผลการศึกษาระบบโมโนเรลของเมืองพัทยาว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการเปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชน เพื่อให้เห็นประโยชน์ต่อการแก้ไขปัญหาจราจรในอนาคต เนื่องจากเมืองพัทยาปัจจุบันก้าวหน้าไปมาก จึงควรมีระบบขนส่งมวลชนเข้ามารองรับโดยเฉพาะโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรลในพื้นที่เมืองพัทยาตามนโยบายของคณะกรรมการพัฒนาเมืองพัทยาชุดปัจจุบัน เนื่องจากเมืองมีพื้นที่จำกัด โดยตามแผนเดิมจะมีการก่อสร้างแนวเส้นทางอยู่บนถนนสาย 1 และพื้นที่ริมชายหาด แต่ได้รับการท้วงติงจากหลายฝ่ายว่าน่าจะไม่ผ่านการรับรองสิ่งแวดล้อม จึงได้ปรับเปลี่ยนแนวเส้นทางใหม่ไปอยู่บนถนนพัทยาสาย 2 แทน
"ขณะนี้ได้ความชัดเจนเรื่องรูปแบบ เส้นทาง และแผนการบริหารจัดการจราจรแล้วอยู่ระหว่างการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม ดีเทล ดีไซน์ และเปิดรับฟังความเห็นประชาชนอย่างเป็นทางการ ซึ่งภายในปี 2555 นี้จะต้องชัดเจน ส่วนการก่อสร้างคาดว่าจะใช้งบลงทุนไม่เกิน 10,000 ล้านบาท โดยต้องการเปิดให้เอกชนร่วมลงทุนระยะเวลา 30 ปี ส่วนเมืองพัทยาเป็นผู้จัดหาเดโป้ คาดว่าจะมีประมาณ 10-11 สถานี ระยะทางประมาณ 12 กิโลเมตร รูปแบบซิงเกิลแท็กบนตอม่อเดียว"
ทั้งนี้โครงการรถไฟฟ้าโมโนเรลพัทยา จะผ่านจุดสำคัญ ๆ ของเมืองพัทยา ดังนี้ ถนนพัทยาใต้ เขาพระตำหนัก ถนนพัทยาเหนือ ศาลากลางเมืองพัทยา จุดชมปลาโลมา ถนนอรรถจินดา ถนนชัยพรวิถี โดยล่าสุดมีกลุ่มนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น จีน เกาหลี สวีเดน ให้ความสนใจในโครงการดังกล่าวนี้แล้ว
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,705 15-18 มกราคม พ.ศ. 2555
นายศิลปชัย จารุเกษมรัตนะ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะรักษาการปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า มีนโยบายสนับสนุนให้มีการศึกษาความเหมาะสมในการสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรลขึ้นในหัวเมืองหลัก เช่น เชียงใหม่ นครสวรรค์ นครราชสีมา และภูเก็ต เพื่อแก้ไขปัญหาจราจรในภาพรวมได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกับลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลลงให้ได้มากที่สุด เพื่อส่งเสริมให้หันมาใช้ระบบขนส่งมวลชนกันมากขึ้น โดยเตรียมเร่งผลักดันที่เมืองพัทยาก่อน หลังจากที่พบว่าประสบปัญหาการสร้างความเข้าใจประชาชน แต่คิดว่าในเร็วๆ นี้เมืองพัทยาจะมีปัญหาจราจรไม่ต่างกับเมืองอื่นๆ จึงควรวางแผนแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนตั้งแต่วันนี้
"คิดว่าโมโนเรลน่าจะช่วยแก้ไขปัญหาได้ดีกว่า แต่ต้องศึกษาความเหมาะสมในแต่ละพื้นที่แต่ละเมืองอีกครั้ง เพราะต้องการให้ลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวลงไปให้มากที่สุด แม้บางพื้นที่จะใช้รถเมล์โดยสาร แต่ก็ยังพบว่าปริมาณการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นหากสามารถช่วยให้ประชาชนหันมาใช้ระบบขนส่งมวลชน โดยเฉพาะระบบรางแล้วไปกำหนดมาตรการในการจำกัดรถเข้าไปในพื้นที่นั้นๆ เช่นเดียวกับต่างประเทศที่ดำเนินการ ก็น่าจะทำให้เมืองไทยโดยเฉพาะหัวเมืองหลักน่าอยู่มากขึ้น ไม่แออัดจนเกิดปัญหาจราจร"
รองปลัดคมนาคม กล่าวอีกว่า หากมองไปถึงเรื่องศักยภาพการลงทุน ภาครัฐควรเข้าไปสนับสนุน เนื่องจากงบประมาณของท้องถิ่นยังมีจำนวนไม่มาก แต่หากรัฐส่งเสริมให้มีการบริหารจัดการที่ดี เปิดโอกาสให้นักลงทุนจากต่างประเทศ เช่น จีน เกาหลี ญี่ปุ่นที่มีความชำนาญในเรื่องระบบรถไฟฟ้าโมโนเรลเข้ามาร่วมลงทุนแบบภาครัฐและเอกชน หรือPPP: public-private partnership ก็จะสามารถผลักดันโครงการให้ประสบความสำเร็จได้
"ส่งเสริมให้มีการบริหารจัดการที่ดี จัดงบประมาณในเบื้องต้นให้เหมาะสมจนสามารถเลี้ยงตนเองได้อย่างไม่เป็นภาระรัฐบาล โดยเทศบาลเมืองนั้นๆ รับผิดชอบและเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้าไปสนับสนุน ก็จะสามารถปรับเปลี่ยนการบริหารจัดการระบบขนส่งมวลชนรูปแบบใหม่เพื่อสนองความต้องการของประชาชนในพื้นที่นั้นๆ ได้อย่างแน่นอน"
นายประณต สุริยะ รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) กล่าวว่า เรื่องการส่งเสริมระบบขนส่งมวลชนและรถโดยสารสาธารณะในเมืองหลักปัจจุบันเริ่มมีความสำคัญมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรถไฟ รถไฟฟ้า รถเมล์โดยสาร รถสองแถว รถแท็กซี่สาธารณะ เช่น ในพื้นที่เมืองเชียงใหม่ ขอนแก่น ภูเก็ต และนครราชสีมา
"ต้องมีการศึกษาความเหมาะสมก่อน โดยเฉพาะรูปแบบว่ามีความเหมาะสมกับพื้นที่นั้นๆ อย่างไร ต่อจากนั้นจึงจะไปพิจารณาเรื่องงบประมาณการลงทุน และเรื่องการรับฟังความคิดเห็นประชาชน เพื่อเป็นทางเลือกในการเดินทาง สิ่งสำคัญต้องพิจารณาเรื่องวินัย การรับรู้ ระเบียบกฎหมาย การบริหารจัดการ โดยเฉพาะนโยบายรัฐบาลต้องชัดเจน เรื่องการผลักดันระบบขนส่งมวลชนและรถโดยสารสาธารณะเพื่อให้เกิดการเชื่อมโยง โดยตัวอย่างที่น่าจะเห็นภาพชัดมากขึ้นคือที่เชียงใหม่และขอนแก่น โดยเฉพาะขอนแก่นที่จะมีโครงการรถเมล์บีอาร์ที ซึ่งบริหารจัดการโดยเทศบาลเมืองขอนแก่นและเอกชนในพื้นที่เข้าไปสนับสนุน พร้อมกับคณะอนุกรรมการจัดระบบจราจรทางบกจังหวัด ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน ก็ให้ความสำคัญกับโครงการนี้จึงน่าจะเป็นต้นแบบให้เมืองอื่นๆ นำไปพัฒนาต่อไป"
นายประณต ยังได้ยกตัวอย่างผลการศึกษาระบบโมโนเรลของเมืองพัทยาว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการเปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชน เพื่อให้เห็นประโยชน์ต่อการแก้ไขปัญหาจราจรในอนาคต เนื่องจากเมืองพัทยาปัจจุบันก้าวหน้าไปมาก จึงควรมีระบบขนส่งมวลชนเข้ามารองรับโดยเฉพาะโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรลในพื้นที่เมืองพัทยาตามนโยบายของคณะกรรมการพัฒนาเมืองพัทยาชุดปัจจุบัน เนื่องจากเมืองมีพื้นที่จำกัด โดยตามแผนเดิมจะมีการก่อสร้างแนวเส้นทางอยู่บนถนนสาย 1 และพื้นที่ริมชายหาด แต่ได้รับการท้วงติงจากหลายฝ่ายว่าน่าจะไม่ผ่านการรับรองสิ่งแวดล้อม จึงได้ปรับเปลี่ยนแนวเส้นทางใหม่ไปอยู่บนถนนพัทยาสาย 2 แทน
"ขณะนี้ได้ความชัดเจนเรื่องรูปแบบ เส้นทาง และแผนการบริหารจัดการจราจรแล้วอยู่ระหว่างการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม ดีเทล ดีไซน์ และเปิดรับฟังความเห็นประชาชนอย่างเป็นทางการ ซึ่งภายในปี 2555 นี้จะต้องชัดเจน ส่วนการก่อสร้างคาดว่าจะใช้งบลงทุนไม่เกิน 10,000 ล้านบาท โดยต้องการเปิดให้เอกชนร่วมลงทุนระยะเวลา 30 ปี ส่วนเมืองพัทยาเป็นผู้จัดหาเดโป้ คาดว่าจะมีประมาณ 10-11 สถานี ระยะทางประมาณ 12 กิโลเมตร รูปแบบซิงเกิลแท็กบนตอม่อเดียว"
ทั้งนี้โครงการรถไฟฟ้าโมโนเรลพัทยา จะผ่านจุดสำคัญ ๆ ของเมืองพัทยา ดังนี้ ถนนพัทยาใต้ เขาพระตำหนัก ถนนพัทยาเหนือ ศาลากลางเมืองพัทยา จุดชมปลาโลมา ถนนอรรถจินดา ถนนชัยพรวิถี โดยล่าสุดมีกลุ่มนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น จีน เกาหลี สวีเดน ให้ความสนใจในโครงการดังกล่าวนี้แล้ว
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,705 15-18 มกราคม พ.ศ. 2555