คมนาคมชง "ยิ่งลักษณ์" ตั้งคณะกรรมการเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟไทย-จีน เพื่อเจรจาลงทุนรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ในโอกาสเดินทางไปเยือนจีนปลาย ม.ค.นี้ หวังให้คณะกรรมการชุดนี้เป็นตัวแทนประสานงานกับจีน และถือโอกาสเรียนรู้ด้านเทคนิค เพื่อเป็นองค์ความรู้ในการพัฒนาบุคลากรในอนาคต
พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้เสนอเรื่องการแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ฝ่ายไทยแก่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อนำเสนอให้นายกรัฐมนตรีเห็นชอบต่อไป โดยการแต่งตั้งคณะกรรมการชุดดังกล่าวนั้น ได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นประธาน พร้อมด้วยผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ อาทิ กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ร่วมเป็นคณะกรรมการและผู้อำนวยการสำนักความร่วมมือระหว่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นเลขานุการคณะกรรมการเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ฝ่ายไทยในครั้งนี้ด้วย
สำหรับกรอบการทำงานของคณะกรรมการชุดดังกล่าว เป็นการร่างองค์ประกอบเจรจารายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับการพัฒนารถไฟความเร็วสูงที่จะมีการก่อสร้างในประเทศไทยและเชื่อมโยงไปสู่ประเทศจีนเพื่อประโยชน์ด้านการโดยสารและขนส่งสินค้า การออกแบบ ที่เหมาะสมกับการใช้งานในประเทศไทย โดยคณะกรรมการชุดดังกล่าวสามารถตั้งอนุกรรมการตามที่เห็นสมควรต่อไปได้ โดยเฉพาะเรื่องการลงทุนที่นโยบายนายกรัฐมนตรีต้องการให้มีการแลกเปลี่ยนสินค้าหรือบาร์เตอร์เทรดมากกว่าการใช้เงินกู้ นอกจากนั้นยังให้เกิดการแลกเปลี่ยนแนวคิดระหว่างจีนและไทยในเรื่องรถไฟความเร็วสูงมากขึ้น
"เนื่องจากไทยยังไม่มีประสบการณ์และไม่มีความเชี่ยวชาญการเดินรถไฟฟ้าความเร็วสูง จึงต้องมีการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อศึกษาเรื่องนี้ด้วยการหารือร่วมกับประเทศจีนต่อไป นอกจากนั้นยังศึกษาเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อไม่ต้องการให้ไทยถูกครอบงำโครงการทั้งหมด ซึ่งวิศวกรไทยควรได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้โดยเฉพาะการเรียนรู้ทางด้านเทคนิคควบคู่กันไปด้วยเพราะในเร็ว ๆ นี้ประเทศไทยจะมีโครงการรถไฟและรถไฟฟ้าความเร็วสูงเปิดให้บริการหลายเส้นทาง จึงจำเป็นต้องมีการศึกษาในเรื่องต่างๆที่เกี่ยวข้องรองรับไว้ตั้งแต่วันนี้ นอกจากนั้นยังต้องมีการผลิตบุคลากรผู้เชี่ยวชาญที่รอบรู้เป็นของไทยเอง โดยไม่ต้องไปพึ่งบุคลากรจากต่างประเทศ เนื่องจากเล็งเห็นว่าอาจเกิดความล่าช้าและมีปัญหาต่าง ๆ ตามมา เช่น เรื่องลิขสิทธิ์ เป็นต้น ประการสำคัญในอนาคตไทยควรจะมีโรงงานผลิตหรือโรงงานประกอบเป็นของตนเอง จึงต้องเริ่มให้มีการศึกษาไว้ก่อน"
นายศิลปชัย จารุเกษมรัตนะ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะรักษาราชการแทนปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ประมาณปลายเดือนมกราคมนี้ นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปเยือนจีน จึงสามารถนำเรื่องความพร้อมการแต่งตั้งคณะกรรมการเจรจารถไฟความเร็วสูงของไทยไปหารือกับผู้นำประเทศจีนได้ทันที ซึ่งหลังจากนั้น จีนจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการมาหารือร่วมกับฝ่ายไทย เพื่อศึกษาเรื่องนี้ได้ทันที ตามแผนนั้นคาดว่า 1-2 เดือนนี้น่าจะเห็นความชัดเจนของคณะกรรมการทั้ง 2 ฝ่ายเพื่อเร่งรัดดำเนินการศึกษาให้แล้วเสร็จโดยเร็วต่อไป"นายศิลปชัยกล่าว
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,705 15-18 มกราคม พ.ศ. 2555
พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้เสนอเรื่องการแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ฝ่ายไทยแก่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อนำเสนอให้นายกรัฐมนตรีเห็นชอบต่อไป โดยการแต่งตั้งคณะกรรมการชุดดังกล่าวนั้น ได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นประธาน พร้อมด้วยผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ อาทิ กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ร่วมเป็นคณะกรรมการและผู้อำนวยการสำนักความร่วมมือระหว่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นเลขานุการคณะกรรมการเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ฝ่ายไทยในครั้งนี้ด้วย
สำหรับกรอบการทำงานของคณะกรรมการชุดดังกล่าว เป็นการร่างองค์ประกอบเจรจารายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับการพัฒนารถไฟความเร็วสูงที่จะมีการก่อสร้างในประเทศไทยและเชื่อมโยงไปสู่ประเทศจีนเพื่อประโยชน์ด้านการโดยสารและขนส่งสินค้า การออกแบบ ที่เหมาะสมกับการใช้งานในประเทศไทย โดยคณะกรรมการชุดดังกล่าวสามารถตั้งอนุกรรมการตามที่เห็นสมควรต่อไปได้ โดยเฉพาะเรื่องการลงทุนที่นโยบายนายกรัฐมนตรีต้องการให้มีการแลกเปลี่ยนสินค้าหรือบาร์เตอร์เทรดมากกว่าการใช้เงินกู้ นอกจากนั้นยังให้เกิดการแลกเปลี่ยนแนวคิดระหว่างจีนและไทยในเรื่องรถไฟความเร็วสูงมากขึ้น
"เนื่องจากไทยยังไม่มีประสบการณ์และไม่มีความเชี่ยวชาญการเดินรถไฟฟ้าความเร็วสูง จึงต้องมีการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อศึกษาเรื่องนี้ด้วยการหารือร่วมกับประเทศจีนต่อไป นอกจากนั้นยังศึกษาเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อไม่ต้องการให้ไทยถูกครอบงำโครงการทั้งหมด ซึ่งวิศวกรไทยควรได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้โดยเฉพาะการเรียนรู้ทางด้านเทคนิคควบคู่กันไปด้วยเพราะในเร็ว ๆ นี้ประเทศไทยจะมีโครงการรถไฟและรถไฟฟ้าความเร็วสูงเปิดให้บริการหลายเส้นทาง จึงจำเป็นต้องมีการศึกษาในเรื่องต่างๆที่เกี่ยวข้องรองรับไว้ตั้งแต่วันนี้ นอกจากนั้นยังต้องมีการผลิตบุคลากรผู้เชี่ยวชาญที่รอบรู้เป็นของไทยเอง โดยไม่ต้องไปพึ่งบุคลากรจากต่างประเทศ เนื่องจากเล็งเห็นว่าอาจเกิดความล่าช้าและมีปัญหาต่าง ๆ ตามมา เช่น เรื่องลิขสิทธิ์ เป็นต้น ประการสำคัญในอนาคตไทยควรจะมีโรงงานผลิตหรือโรงงานประกอบเป็นของตนเอง จึงต้องเริ่มให้มีการศึกษาไว้ก่อน"
นายศิลปชัย จารุเกษมรัตนะ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะรักษาราชการแทนปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ประมาณปลายเดือนมกราคมนี้ นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปเยือนจีน จึงสามารถนำเรื่องความพร้อมการแต่งตั้งคณะกรรมการเจรจารถไฟความเร็วสูงของไทยไปหารือกับผู้นำประเทศจีนได้ทันที ซึ่งหลังจากนั้น จีนจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการมาหารือร่วมกับฝ่ายไทย เพื่อศึกษาเรื่องนี้ได้ทันที ตามแผนนั้นคาดว่า 1-2 เดือนนี้น่าจะเห็นความชัดเจนของคณะกรรมการทั้ง 2 ฝ่ายเพื่อเร่งรัดดำเนินการศึกษาให้แล้วเสร็จโดยเร็วต่อไป"นายศิลปชัยกล่าว
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,705 15-18 มกราคม พ.ศ. 2555