กทม. กระทุ้งรฟม.ขยับแนวรถไฟฟ้าหมอชิต-สะพานใหม่ ให้เชื่อมกับบีทีเอสสถานีหมอชิตที่เปิดให้บริการในปัจจุบัน เผยทิ้งระยะห่างให้ผู้โดยสารเดินไกลถึง 800 เมตร เพื่อเชื่อมส่วนต่อขยายไปสะพานใหม่ ชี้ที่ผ่านมายังไร้แววเจรจา ด้านเอกชนกระทุ้ง รถไฟฟ้าใต้ดินสถานีบางซื่อ ไม่เชื่อมกับสายสีม่วง บางซื่อ-บางใหญ่ ห่างกัน 500 เมตร ชี้รัฐควรหาทางออก ช่วยให้คนเดินทางสะดวกขึ้น
นายจุมพล สำเภาพล รองปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ"ว่า โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) แนวสายทางไม่เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าบีทีเอส สายสีลม กับสายสุขุมวิท ที่อยู่ในการดูแลของกทม.แต่อย่างใด ทั้งนี้ประเมินว่ามีระยะห่างที่ต้องทำให้ผู้โดยสารเกิดความไม่สะดวกต่อการเดินทาง เป็นระยะทางถึง 500-800 เมตร หากจะต้องเชื่อมต่อกับโครงการ ส่วนต่อขยายไปยังสะพานใหม่และลำลูกกาในอนาคตอย่างไรก็ดี ที่ผ่านมา ทั้งบีทีเอส และกทม.ยังไม่ได้รับการติดต่อจากรฟม. ที่จะเจรจาว่าจะดำเนินการร่วมกันอย่างไร แต่ในเบื้องต้นมองว่า เป็นคนละหน่วยงาน จะต่างคนต่างทำโดย ไม่คำนึงถึงประชาชนว่า จะมีผลกระทบอย่างไร ส่วนกทม.เอง ไม่สามารถดำเนิน การอะไรได้ เพราะเนื่องจากได้มีการก่อสร้างและเปิดใช้รถไฟฟ้าบีทีเอสมาก่อน
ทางออกที่ดีที่สุด เพื่ออำนวยความสะดวกต่อการเดินทางในภาพรวม รฟม. ควรขยับแนวใหม่ให้ใกล้ หรือต่อเชื่อมกับสถานีหมอชิตเพื่อรับกับรถไฟฟ้าปัจจุบัน ทั้งบีทีเอสเองและรถไฟฟ้าใต้ดินของรฟม.ที่เปิดใช้เส้นทางในปัจจุบัน แทนที่จะเริ่มต้นก่อสร้างโครงการบริเวณด้านหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว ขณะที่ กทม.เองก็ไม่มีหน้าที่ที่จะก่อสร้างทางเชื่อม อย่างทางเดินลอยฟ้า หรือขยายแนวต่อเชื่อมระบบรางไปบริการถึงโครงการส่วนต่อขยายของรฟม.ได้ ทางออก รฟม.ต้องลงทุนทำทางต่อเชื่อมเอง เพื่อให้บริการประชาชน
สำหรับแผนก่อสร้างส่วนต่อขยายสายสีเขียว สายหมอชิต-สะพานใหม่ระยะทาง 11.4 กิโลเมตร เดิมทีอยู่ในแผนการดำเนินงานของกทม. หากอยู่ใน ความรับผิดชอบแล้วเชื่อว่าประชาชนจะได้รับความสะดวกมากขึ้นและการก่อสร้าง น่าจะเริ่มได้นานแล้ว หากเปลี่ยนให้คนละหน่วยงานทำเท่ากับว่า ระบบต่างๆ ต้อง ปรับแบบใหม่ และทำให้เสียเวลา
นายวสันต์ คงจันทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โมเดิร์น พร็อพเพอร์ตี้ คอนซัลแตนท์ จำกัด กล่าวว่า ผลกระทบโครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ กับรถไฟฟ้าบีทีเอส สายสุขุมวิท-สายสีลม และ รถไฟฟ้าใต้ดินสายสีน้ำเงิน ที่เปิดให้บริการในปัจจุบัน ไม่เชื่อมต่อกัน เช่นเดียวกับรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีน้ำเงินบริเวณสถานีบางซื่อกับโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง-บางซื่อ-บางใหญ่ ที่รฟม. เป็นผู้รับผิดชอบ ก็ทิ้งช่อง ว่างถึง 500 เมตรไม่เชื่อมต่อกัน อย่างไรก็ดีมองว่ากระทบแน่นอนต่อการเดินทางและต้องเชื่อมต่อรถไฟฟ้า และโครงการบางแห่งที่เปิดขายอยู่กึ่งกลางระหว่างจุดเชื่อมต่อ
อย่างไรก็ดี ทั้งสองฝ่ายน่าจะหันหน้าเข้าหากัน เพื่อแก้ปัญหาไม่ให้ชาว บ้านผู้ใช้เส้นทางต้องเหนื่อยกับการเดินต่อเชื่อม โดยเฉพาะ สายหมอชิต-สะพานใหม่ กับ บีทีเอสและรถไฟฟ้าใต้ดิน น่าจะกระทบมากที่สุด เพราะบริเวณ 5 แยกลาดพร้าว ปัญหาจราจรค่อนข้างมาก
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,680 20 - 22 ตุลาคม พ.ศ. 2554
นายจุมพล สำเภาพล รองปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ"ว่า โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) แนวสายทางไม่เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าบีทีเอส สายสีลม กับสายสุขุมวิท ที่อยู่ในการดูแลของกทม.แต่อย่างใด ทั้งนี้ประเมินว่ามีระยะห่างที่ต้องทำให้ผู้โดยสารเกิดความไม่สะดวกต่อการเดินทาง เป็นระยะทางถึง 500-800 เมตร หากจะต้องเชื่อมต่อกับโครงการ ส่วนต่อขยายไปยังสะพานใหม่และลำลูกกาในอนาคตอย่างไรก็ดี ที่ผ่านมา ทั้งบีทีเอส และกทม.ยังไม่ได้รับการติดต่อจากรฟม. ที่จะเจรจาว่าจะดำเนินการร่วมกันอย่างไร แต่ในเบื้องต้นมองว่า เป็นคนละหน่วยงาน จะต่างคนต่างทำโดย ไม่คำนึงถึงประชาชนว่า จะมีผลกระทบอย่างไร ส่วนกทม.เอง ไม่สามารถดำเนิน การอะไรได้ เพราะเนื่องจากได้มีการก่อสร้างและเปิดใช้รถไฟฟ้าบีทีเอสมาก่อน
ทางออกที่ดีที่สุด เพื่ออำนวยความสะดวกต่อการเดินทางในภาพรวม รฟม. ควรขยับแนวใหม่ให้ใกล้ หรือต่อเชื่อมกับสถานีหมอชิตเพื่อรับกับรถไฟฟ้าปัจจุบัน ทั้งบีทีเอสเองและรถไฟฟ้าใต้ดินของรฟม.ที่เปิดใช้เส้นทางในปัจจุบัน แทนที่จะเริ่มต้นก่อสร้างโครงการบริเวณด้านหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว ขณะที่ กทม.เองก็ไม่มีหน้าที่ที่จะก่อสร้างทางเชื่อม อย่างทางเดินลอยฟ้า หรือขยายแนวต่อเชื่อมระบบรางไปบริการถึงโครงการส่วนต่อขยายของรฟม.ได้ ทางออก รฟม.ต้องลงทุนทำทางต่อเชื่อมเอง เพื่อให้บริการประชาชน
สำหรับแผนก่อสร้างส่วนต่อขยายสายสีเขียว สายหมอชิต-สะพานใหม่ระยะทาง 11.4 กิโลเมตร เดิมทีอยู่ในแผนการดำเนินงานของกทม. หากอยู่ใน ความรับผิดชอบแล้วเชื่อว่าประชาชนจะได้รับความสะดวกมากขึ้นและการก่อสร้าง น่าจะเริ่มได้นานแล้ว หากเปลี่ยนให้คนละหน่วยงานทำเท่ากับว่า ระบบต่างๆ ต้อง ปรับแบบใหม่ และทำให้เสียเวลา
นายวสันต์ คงจันทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โมเดิร์น พร็อพเพอร์ตี้ คอนซัลแตนท์ จำกัด กล่าวว่า ผลกระทบโครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ กับรถไฟฟ้าบีทีเอส สายสุขุมวิท-สายสีลม และ รถไฟฟ้าใต้ดินสายสีน้ำเงิน ที่เปิดให้บริการในปัจจุบัน ไม่เชื่อมต่อกัน เช่นเดียวกับรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีน้ำเงินบริเวณสถานีบางซื่อกับโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง-บางซื่อ-บางใหญ่ ที่รฟม. เป็นผู้รับผิดชอบ ก็ทิ้งช่อง ว่างถึง 500 เมตรไม่เชื่อมต่อกัน อย่างไรก็ดีมองว่ากระทบแน่นอนต่อการเดินทางและต้องเชื่อมต่อรถไฟฟ้า และโครงการบางแห่งที่เปิดขายอยู่กึ่งกลางระหว่างจุดเชื่อมต่อ
อย่างไรก็ดี ทั้งสองฝ่ายน่าจะหันหน้าเข้าหากัน เพื่อแก้ปัญหาไม่ให้ชาว บ้านผู้ใช้เส้นทางต้องเหนื่อยกับการเดินต่อเชื่อม โดยเฉพาะ สายหมอชิต-สะพานใหม่ กับ บีทีเอสและรถไฟฟ้าใต้ดิน น่าจะกระทบมากที่สุด เพราะบริเวณ 5 แยกลาดพร้าว ปัญหาจราจรค่อนข้างมาก
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,680 20 - 22 ตุลาคม พ.ศ. 2554