นายวรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยถึงแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 55 ว่า ธอส.ประเมินว่าตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัยจะเติบโตขึ้นประมาณ 10% หรือคิดเป็นวงเงินสินเชื่อภาพรวมที่ 377,000 ล้านบาท ขณะที่วงเงินสินเชื่อในปี 54 อยู่ที่ประมาณ 340,000 ล้านบาท เนื่องจากปัญหาอุทกภัยครั้งรุนแรงที่เกิดขึ้น
"สินเชื่อบ้านในไตรมาสสุดท้ายของปี 54 ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมหนัก ส่งผลทำให้ยอดสินเชื่อน่าจะหายไปประมาณ 40% และทำให้ทั้งปีวงเงินสินเชื่อรวมอยู่ที่ 340,000 ล้านบาท แต่สำหรับในปี 55 ธอส.ประเมินว่าตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัยน่าจะเติบโตได้มากขึ้น" นายวรวิทย์ กล่าว
ทั้งนี้ ภายหลังจากปัญหาน้ำท่วมได้คลี่คลายลงไปและกลับเข้าสู่ภาวะปกตินั้น ธอส.คาดว่าไตรมาสแรกของปี 55 พฤติกรรมของผู้ที่สนใจจะซื้อที่อยู่อาศัยน่าจะชะลอลงเพื่อรอดูโปรโมชั่นและแคมเปญจากผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ก่อน ขณะที่ด้านผู้ประกอบการธุรกิจบ้านและที่อยู่อาศัยเองนั้นก็เริ่มมีการออกแคมเปญโปรโมชั่นเกี่ยวกับบ้านเพื่อแข่งขันและดึงดูดใจลูกค้าในตลาด โดยเฉพาะในพื้นที่ซึ่งเคยประสบปัญหาน้ำท่วมและได้รับการปรับปรุงซ่อมแซมให้กลับคืนสู่สภาพปกติ
"ในไตรมาสแรกของปี 55 คาดว่าธุรกิจอสังหาฯ ที่เกี่ยวกับบ้านและที่อยู่อาศัยจะมีการแข่งขันกันอย่างคึกคัก โดยคาดว่าแต่ละค่ายจะเร่งออก แคมเปญบ้านเพื่อดึงดูดใจลูกค้าภายหลังจากต้องเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมอย่างรุนแรงในช่วงปลายปีก่อน" นายวรวิทย์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ธอส.ประเมินว่าเมื่อผ่านพ้นช่วงไตรมาสแรกของปีมาแล้ว ธุรกิจการซื้อขายที่อยู่อาศัยจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ผู้ซื้อจะเปลี่ยนซื้อแนวสูงมากขึ้น โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมติดแนวรถไฟฟ้าทั้งบนดินและใต้ดิน ส่วนทางด้านราคาที่ดินปีนี้ แม้จะเป็นพื้นที่น้ำท่วมเชื่อว่ายังคงอิงตามประกาศราคาประเมินใหม่ของกรมธนารักษ์ ไม่ปรับลดลงแต่อย่างใด
นายวรวิทย์ กล่าวว่า ในส่วนกลยุทธ์ทำตลาดของ ธอส.จะกลับมาทำแคมเปญในโครงการบ้านหลังแรก อัตราดอกเบี้ย 0% นาน 3 ปี อีกครั้ง เนื่องจากที่ผ่านมามียอดปล่อยสินเชื่อดังกล่าวเพียงระดับพันล้านบาทเท่านั้น เพราะในช่วงที่มีการเปิดตัวโครงการดังกล่าวเป็นช่วงที่เกิดปัญหาอุทกภัยรุนแรงพอดี จึงทำให้โครงการบ้านหลังแรกค่อนข้างเงียบเหงา
ที่มา: หนังสือพิมพ์บ้านเมือง
"สินเชื่อบ้านในไตรมาสสุดท้ายของปี 54 ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมหนัก ส่งผลทำให้ยอดสินเชื่อน่าจะหายไปประมาณ 40% และทำให้ทั้งปีวงเงินสินเชื่อรวมอยู่ที่ 340,000 ล้านบาท แต่สำหรับในปี 55 ธอส.ประเมินว่าตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัยน่าจะเติบโตได้มากขึ้น" นายวรวิทย์ กล่าว
ทั้งนี้ ภายหลังจากปัญหาน้ำท่วมได้คลี่คลายลงไปและกลับเข้าสู่ภาวะปกตินั้น ธอส.คาดว่าไตรมาสแรกของปี 55 พฤติกรรมของผู้ที่สนใจจะซื้อที่อยู่อาศัยน่าจะชะลอลงเพื่อรอดูโปรโมชั่นและแคมเปญจากผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ก่อน ขณะที่ด้านผู้ประกอบการธุรกิจบ้านและที่อยู่อาศัยเองนั้นก็เริ่มมีการออกแคมเปญโปรโมชั่นเกี่ยวกับบ้านเพื่อแข่งขันและดึงดูดใจลูกค้าในตลาด โดยเฉพาะในพื้นที่ซึ่งเคยประสบปัญหาน้ำท่วมและได้รับการปรับปรุงซ่อมแซมให้กลับคืนสู่สภาพปกติ
"ในไตรมาสแรกของปี 55 คาดว่าธุรกิจอสังหาฯ ที่เกี่ยวกับบ้านและที่อยู่อาศัยจะมีการแข่งขันกันอย่างคึกคัก โดยคาดว่าแต่ละค่ายจะเร่งออก แคมเปญบ้านเพื่อดึงดูดใจลูกค้าภายหลังจากต้องเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมอย่างรุนแรงในช่วงปลายปีก่อน" นายวรวิทย์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ธอส.ประเมินว่าเมื่อผ่านพ้นช่วงไตรมาสแรกของปีมาแล้ว ธุรกิจการซื้อขายที่อยู่อาศัยจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ผู้ซื้อจะเปลี่ยนซื้อแนวสูงมากขึ้น โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมติดแนวรถไฟฟ้าทั้งบนดินและใต้ดิน ส่วนทางด้านราคาที่ดินปีนี้ แม้จะเป็นพื้นที่น้ำท่วมเชื่อว่ายังคงอิงตามประกาศราคาประเมินใหม่ของกรมธนารักษ์ ไม่ปรับลดลงแต่อย่างใด
นายวรวิทย์ กล่าวว่า ในส่วนกลยุทธ์ทำตลาดของ ธอส.จะกลับมาทำแคมเปญในโครงการบ้านหลังแรก อัตราดอกเบี้ย 0% นาน 3 ปี อีกครั้ง เนื่องจากที่ผ่านมามียอดปล่อยสินเชื่อดังกล่าวเพียงระดับพันล้านบาทเท่านั้น เพราะในช่วงที่มีการเปิดตัวโครงการดังกล่าวเป็นช่วงที่เกิดปัญหาอุทกภัยรุนแรงพอดี จึงทำให้โครงการบ้านหลังแรกค่อนข้างเงียบเหงา
ที่มา: หนังสือพิมพ์บ้านเมือง