นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทยจำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2555 จะเริ่มเห็นผู้ประกอบการออกไปในพื้นที่ต่างจังหวัดมากขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะลูกค้ามองหาบ้านหลังที่ 2 สำรองในยามฉุกเฉิน ซึ่งเป็นโอกาสในการทำตลาดกลุ่มบ้านหลังที่ 2 ของธนาคารด้วย แต่ตลาดสินเชื่อบ้านโดยรวมยังชะลอตัว ทั้งนี้ในปีหน้าจะยังเห็นธนาคารใช้อัตราดอกเบี้ย0% ในการกระตุ้นสินเชื่ออยู่บ้าง โดยอาจจะเป็นการจัดแคมเปญประมาณ 6-9 เดือน
นายอลงกต บุญมาสุข ผู้อำนวยการฝ่าย ผู้บริหารฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์และการตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัย ธนาคารกสิกรไทย จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า การปรับผังเมืองใหม่ในปีหน้าจะส่งผลให้ราคาที่ดินในกรุงเทพฯปรับสูงขึ้น โดยเฉพาะราคาที่ดินโครงการแนวรถไฟฟ้าอาจจะปรับขึ้นประมาณ 40-50% รวมทั้งความหนาแน่นของพื้นที่ในเมือง เป็นปัจจัยทำให้ผู้ประกอบการเริ่มออกไปเปิดโครงการในต่างจังหวัดมากขึ้น ซึ่งเริ่มเห็นก่อนที่จะเกิดภาวะน้ำท่วมระยะหนึ่ง โดยพื้นที่ต่างจังหวัดที่ได้รับความนิยมคือ หัวหิน พัทยาหาดใหญ่ ชลบุรี ภูเก็ต เชียงใหม่ขอนแก่น นครราชสีมา
นายอลงกตกล่าวว่า สำหรับเกณฑ์ในการพิจารณาสำหรับผู้ที่ซื้อบ้านหลังที่ 2 ไม่ได้เข้มงวดมากขึ้นเนื่องจากธนาคารมีระบบคัดกรองที่มีประสิทธิภาพ และจะพิจารณาจากวัตถุประสงค์ในการซื้อบ้านด้วย ซึ่งจะเป็นเครื่องมือช่วยให้มั่นใจว่าลูกค้าจะไม่ทิ้งบ้านหลังที่ 2 กลางทางแน่นอน
"ความต้องการในต่างจังหวัดที่มีมากขึ้น ทำให้ราคาที่อยู่อาศัยในต่างจังหวัดปรับราคาเพิ่มขึ้น14-16%ในปี 2555 โดยธนาคารคาดว่าสัดส่วนของสินเชื่อบ้านจากพื้นที่ต่างจังหวัดในปีหน้าจะเพิ่มเป็น20-25%ของสินเชื่อปล่อยใหม่ ทั้งนี้ ตลาดในต่างจังหวัดไม่มีกลุ่มที่หนีน้ำท่วมอย่างเดียว เพราะกลุ่มนี้จะเกิดจากความตระหนกและหลังจากนั้นจะซาลงแต่ตลาดในต่างจังหวัดบางพื้นที่เริ่มมีความสะดวกสบายคล้ายสังคมเมืองมากขึ้น เช่น ขอนแก่น ซึ่งเป็นศูนย์กลางของอีสาน" นายอลงกตกล่าว
นายฐากร ปิยะพันธ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าผู้ที่สามารถซื้อบ้านหลังที่ 2 ได้เป็นกลุ่มที่มีรายได้ค่อนข้างสูง ซึ่งกลุ่มนี้จะมีศักยภาพทางการเงินดีมากอยู่แล้ว โดยพฤติกรรมการซื้อที่อยู่อาศัยของลูกค้ากลุ่มนี้จะวางเงินดาวน์มากกว่าปกติและจะผ่อนสั้นกว่าการผ่อนที่อยู่อาศัยปกติหรือบางรายมีการซื้อสด ส่งผลให้ลูกค้าในกลุ่มนี้ซื้อบ้านหลังที่ 2 ไม่มีความเสี่ยงเรื่องทิ้งที่อยู่อาศัยอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ในปีหน้าการปล่อยสินเชื่อในพื้นที่ต่างจังหวดเป็นกลยุทธ์ของธนาคารที่วางไว้ โดยสินเชื่อใหม่ที่จะปล่อยในปีหน้ามาจากต่างจังหวัด40-45% จากปกติอยู่ที่ 33-35%ของสินเชื่อปล่อยใหม่2.6 หมื่นล้านบาท
ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน
นายอลงกต บุญมาสุข ผู้อำนวยการฝ่าย ผู้บริหารฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์และการตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัย ธนาคารกสิกรไทย จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า การปรับผังเมืองใหม่ในปีหน้าจะส่งผลให้ราคาที่ดินในกรุงเทพฯปรับสูงขึ้น โดยเฉพาะราคาที่ดินโครงการแนวรถไฟฟ้าอาจจะปรับขึ้นประมาณ 40-50% รวมทั้งความหนาแน่นของพื้นที่ในเมือง เป็นปัจจัยทำให้ผู้ประกอบการเริ่มออกไปเปิดโครงการในต่างจังหวัดมากขึ้น ซึ่งเริ่มเห็นก่อนที่จะเกิดภาวะน้ำท่วมระยะหนึ่ง โดยพื้นที่ต่างจังหวัดที่ได้รับความนิยมคือ หัวหิน พัทยาหาดใหญ่ ชลบุรี ภูเก็ต เชียงใหม่ขอนแก่น นครราชสีมา
นายอลงกตกล่าวว่า สำหรับเกณฑ์ในการพิจารณาสำหรับผู้ที่ซื้อบ้านหลังที่ 2 ไม่ได้เข้มงวดมากขึ้นเนื่องจากธนาคารมีระบบคัดกรองที่มีประสิทธิภาพ และจะพิจารณาจากวัตถุประสงค์ในการซื้อบ้านด้วย ซึ่งจะเป็นเครื่องมือช่วยให้มั่นใจว่าลูกค้าจะไม่ทิ้งบ้านหลังที่ 2 กลางทางแน่นอน
"ความต้องการในต่างจังหวัดที่มีมากขึ้น ทำให้ราคาที่อยู่อาศัยในต่างจังหวัดปรับราคาเพิ่มขึ้น14-16%ในปี 2555 โดยธนาคารคาดว่าสัดส่วนของสินเชื่อบ้านจากพื้นที่ต่างจังหวัดในปีหน้าจะเพิ่มเป็น20-25%ของสินเชื่อปล่อยใหม่ ทั้งนี้ ตลาดในต่างจังหวัดไม่มีกลุ่มที่หนีน้ำท่วมอย่างเดียว เพราะกลุ่มนี้จะเกิดจากความตระหนกและหลังจากนั้นจะซาลงแต่ตลาดในต่างจังหวัดบางพื้นที่เริ่มมีความสะดวกสบายคล้ายสังคมเมืองมากขึ้น เช่น ขอนแก่น ซึ่งเป็นศูนย์กลางของอีสาน" นายอลงกตกล่าว
นายฐากร ปิยะพันธ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าผู้ที่สามารถซื้อบ้านหลังที่ 2 ได้เป็นกลุ่มที่มีรายได้ค่อนข้างสูง ซึ่งกลุ่มนี้จะมีศักยภาพทางการเงินดีมากอยู่แล้ว โดยพฤติกรรมการซื้อที่อยู่อาศัยของลูกค้ากลุ่มนี้จะวางเงินดาวน์มากกว่าปกติและจะผ่อนสั้นกว่าการผ่อนที่อยู่อาศัยปกติหรือบางรายมีการซื้อสด ส่งผลให้ลูกค้าในกลุ่มนี้ซื้อบ้านหลังที่ 2 ไม่มีความเสี่ยงเรื่องทิ้งที่อยู่อาศัยอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ในปีหน้าการปล่อยสินเชื่อในพื้นที่ต่างจังหวดเป็นกลยุทธ์ของธนาคารที่วางไว้ โดยสินเชื่อใหม่ที่จะปล่อยในปีหน้ามาจากต่างจังหวัด40-45% จากปกติอยู่ที่ 33-35%ของสินเชื่อปล่อยใหม่2.6 หมื่นล้านบาท
ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน