นายกิตติ พัฒนพงศ์พิบูล ประธานกรรมการสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย เปิดเผยว่า ปัญหาน้ำท่วมในหลายพื้นที่จะส่งผลให้ราคาประเมินที่ดินสำหรับการปล่อยสินเชื่อของระบบธนาคารในปี 2555 จะลดลง แม้ว่าราคาประเมินที่ดินใหม่ของกรมธนารักษ์ที่ประกาศใช้ในปี 2555 จะทำให้ราคาที่ดินในบางพื้นที่สูงเกินกว่าราคาตลาดก็ตาม เนื่องจากผลการประเมินราคาที่ดินของกรมธนารักษ์นั้นเป็นการสำรวจระดับราคาซื้อขายก่อนที่มีเหตุการณ์น้ำท่วม
อย่างไรก็ตาม การประเมินสินเชื่อของระบบธนาคารไม่ได้คำนึงมูลค่าหลักทรัพย์เพียงอย่างเดียว แต่ต้องคำนึงถึงความสามารถการชำระหนี้ รายได้ของผู้กู้ และความมั่นคงในหน้าที่การงานของผู้ขอสินเชื่อประกอบด้วย ทำให้ช่วยลูกค้าได้บ้าง ส่วนราคาอสังหาริมทรัพย์ในปีหน้านั้นคาดว่าจะไม่มีการปรับเพิ่มขึ้นมาก เนื่องจากต้นทุนการผลิตต่างๆ ไม่ได้การปรับเพิ่มขึ้น
นายกิตติ คาดว่า ในปี 2555 การปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยของระบบธนาคารจะอยู่ที่ประมาณ 3.1แสนล้านบาท หรือลดลง 10% จากปี 2554 ที่คาดว่าน่าจะมียอดสินเชื่อ 3.5 แสนล้านบาท เพราะลูกค้าชะลอการตัดสินใจซื้อบ้านออกไปเนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจ แม้ว่าทิศทางอัตราดอกเบี้ยจะมีแนวโน้มที่ลดลงก็ตาม
ประธานกรรมการสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย กล่าวว่า ปัจจัยที่จูงใจให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อบ้านนอกจากอัตราดอกเบี้ยแล้ว ยังขึ้นอยู่กับรายได้และความมั่นคงในหน้าที่การงาน ประกอบกับเศรษฐกิจปีหน้ามีอัตราการขยายตัวเพียง 4% ซึ่งซบเซาตามภาวะเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจยุโรปที่คาดว่าครึ่งปีแรกของปีหน้าจะยังไม่เห็นความชัดเจนในการแก้ปัญหา เช่นเดียวกับเศรษฐกิจสหรัฐที่ยังอยู่ในภาวะซบเซา ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมของไทยที่ประสบปัญหาน้ำท่วมก็ยังอยู่ในช่วงฟื้นฟูการผลิตให้กลับสู่ปกติ
สำหรับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่คาดว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปี2555 อัตราดอกเบี้ยยังคงทรงตัว แม้ที่ผ่านมาธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจาก 3.5% เป็น 3.25% ก็ตามแต่ธนาคารส่วนใหญ่ไม่ลดดอกเบี้ยเงินกู้ตาม ชี้ให้เห็นว่าสภาพคล่องในระบบเริ่มมากขึ้นแล้ว
ที่มา : หนังสือพิมพ์โลกวันนี้ 19 ธ.ค. 54
อย่างไรก็ตาม การประเมินสินเชื่อของระบบธนาคารไม่ได้คำนึงมูลค่าหลักทรัพย์เพียงอย่างเดียว แต่ต้องคำนึงถึงความสามารถการชำระหนี้ รายได้ของผู้กู้ และความมั่นคงในหน้าที่การงานของผู้ขอสินเชื่อประกอบด้วย ทำให้ช่วยลูกค้าได้บ้าง ส่วนราคาอสังหาริมทรัพย์ในปีหน้านั้นคาดว่าจะไม่มีการปรับเพิ่มขึ้นมาก เนื่องจากต้นทุนการผลิตต่างๆ ไม่ได้การปรับเพิ่มขึ้น
นายกิตติ คาดว่า ในปี 2555 การปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยของระบบธนาคารจะอยู่ที่ประมาณ 3.1แสนล้านบาท หรือลดลง 10% จากปี 2554 ที่คาดว่าน่าจะมียอดสินเชื่อ 3.5 แสนล้านบาท เพราะลูกค้าชะลอการตัดสินใจซื้อบ้านออกไปเนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจ แม้ว่าทิศทางอัตราดอกเบี้ยจะมีแนวโน้มที่ลดลงก็ตาม
ประธานกรรมการสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย กล่าวว่า ปัจจัยที่จูงใจให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อบ้านนอกจากอัตราดอกเบี้ยแล้ว ยังขึ้นอยู่กับรายได้และความมั่นคงในหน้าที่การงาน ประกอบกับเศรษฐกิจปีหน้ามีอัตราการขยายตัวเพียง 4% ซึ่งซบเซาตามภาวะเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจยุโรปที่คาดว่าครึ่งปีแรกของปีหน้าจะยังไม่เห็นความชัดเจนในการแก้ปัญหา เช่นเดียวกับเศรษฐกิจสหรัฐที่ยังอยู่ในภาวะซบเซา ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมของไทยที่ประสบปัญหาน้ำท่วมก็ยังอยู่ในช่วงฟื้นฟูการผลิตให้กลับสู่ปกติ
สำหรับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่คาดว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปี2555 อัตราดอกเบี้ยยังคงทรงตัว แม้ที่ผ่านมาธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจาก 3.5% เป็น 3.25% ก็ตามแต่ธนาคารส่วนใหญ่ไม่ลดดอกเบี้ยเงินกู้ตาม ชี้ให้เห็นว่าสภาพคล่องในระบบเริ่มมากขึ้นแล้ว
ที่มา : หนังสือพิมพ์โลกวันนี้ 19 ธ.ค. 54