
ผอ.การท่าเรือฯคนใหม่ฟิตสั่งทบทวนแผนพัฒนาพื้นที่ทั้ง 4 โซนรอบใหม่ ภายหลังคลังตีกลับให้จัดทำอีไอเอและกระบวนการอื่นๆให้ครบถ้วนก่อนเสนอครม.ชี้ชัด เชื่อรัฐบาล "ยิ่งลักษณ์" พร้อมหนุน ให้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจแห่งใหม่หวังยกระดับเศรษฐกิจไทย นำร่องแปลงแรกใกล้อาคารสำนักงานใหญ่กทท.ผุดมารีนไทม์บิสิเนส เซ็นเตอร์ มีทั้งอาคารสำนักงาน ศูนย์รวมการให้บริการด้านการนำเข้า-ส่งออก การพาณิชย์และโลจิสติกส์ครบวงจร
ร.ต.วิโรจน์ จงชาณสิทโธ ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย(กทท.)คนใหม่ เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าตามที่ได้ส่งเรื่องแผนการพัฒนาท่าเรือกรุงเทพพื้นที่ 4 โซนไปยังกระทรวงการคลังพิจารณาเห็นชอบให้ดำเนินการนั้นขณะนี้ได้รับรายงานในเบื้องต้นว่าน่าจะต้องดำเนินการตามผลการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ)และกระบวนการอื่นๆให้ครบถ้วนก่อนที่จะนำเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณาให้ดำเนินการตามแผนพัฒนาต่อไป
ดังนั้นจึงสั่งให้มีการทบทวนผลการศึกษารอบใหม่อีกครั้งเนื่องจากผลการศึกษาเดิมดำเนินการมานานแล้วจึงไม่น่าจะสอดคล้องกับปัจจุบัน ดังนั้นควรเติมเต็มให้ครบไม่ว่าจะเป็นผลการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อม ด้านสังคม ด้านเศรษฐศาสตร์ การรับฟังความเห็นชุมชน ตลอดจนพ.ร.บ.ร่วมทุนเพื่อให้เห็นความชัดเจนครบถ้วนกระบวนการ พร้อมกับมองไปอีก 30 ปีข้างหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างในพื้นที่ทั้ง 2,000 ไร่แล้วมาวางพื้นฐานขึ้นไปให้ชัดเจน ในระยะ 3-5 ปีและ 10-20 ปีแต่ละเฟส แต่ละพื้นที่ย่อมแตกต่างกันแต่ต้องสอดคล้องกัน
ร.ต.วิโรจน์ จงชาณสิทโธ ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย(กทท.)คนใหม่ เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าตามที่ได้ส่งเรื่องแผนการพัฒนาท่าเรือกรุงเทพพื้นที่ 4 โซนไปยังกระทรวงการคลังพิจารณาเห็นชอบให้ดำเนินการนั้นขณะนี้ได้รับรายงานในเบื้องต้นว่าน่าจะต้องดำเนินการตามผลการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ)และกระบวนการอื่นๆให้ครบถ้วนก่อนที่จะนำเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณาให้ดำเนินการตามแผนพัฒนาต่อไป
ดังนั้นจึงสั่งให้มีการทบทวนผลการศึกษารอบใหม่อีกครั้งเนื่องจากผลการศึกษาเดิมดำเนินการมานานแล้วจึงไม่น่าจะสอดคล้องกับปัจจุบัน ดังนั้นควรเติมเต็มให้ครบไม่ว่าจะเป็นผลการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อม ด้านสังคม ด้านเศรษฐศาสตร์ การรับฟังความเห็นชุมชน ตลอดจนพ.ร.บ.ร่วมทุนเพื่อให้เห็นความชัดเจนครบถ้วนกระบวนการ พร้อมกับมองไปอีก 30 ปีข้างหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างในพื้นที่ทั้ง 2,000 ไร่แล้วมาวางพื้นฐานขึ้นไปให้ชัดเจน ในระยะ 3-5 ปีและ 10-20 ปีแต่ละเฟส แต่ละพื้นที่ย่อมแตกต่างกันแต่ต้องสอดคล้องกัน
"ต้องการให้เป็นท่าเรือศูนย์กลางเมืองหลักเช่นเมืองใหญ่ ๆ ของโลกทำให้ประเทศชาติได้ประโยชน์ให้มากที่สุด รูปแบบกรีนพอร์ตซิตีที่ครบครัน โดยไม่มองข้ามการอยู่ร่วมกันของผู้คนในชุมชน โดยกว่า 200 ไร่ที่จะนำมาพัฒนาในช่วงแรกต้องให้เกิดประโยชน์จริง ๆ ดังนั้นการทบทวนจึงน่าจะทำให้โครงการมีความชัดเจนและสามารถพัฒนาให้เป็นไปตามแผนได้จริงเช่นกัน ทั้งนี้ในเบื้องต้นทราบว่าในส่วนที่กระทรวงคมนาคมนำเสนอให้มีการแก้ไขก็ได้ดำเนินการศึกษาไปเรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่หลังจากปรับเปลี่ยนพื้นที่ของท่าเรือกรุงเทพ(คลองเตย)แล้วได้พิจารณาว่าจะย้ายการขนส่งสินค้าทั้งหมดไปที่ท่าเรือแหลมฉบัง หรือจะให้คงอยู่ที่เดิม ใช้งบประมาณเท่าไหร่ ในส่วนเกี่ยวกับระบบการคมนาคมขนส่งโดยรวมนั้นมีแผนจัดการอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะเพื่อรองรับหน่วยงานที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นกรมศุลกากร หรือองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) หน่วยงานด้านการแพทย์ ฯลฯ ทั้งนี้ได้มีหารือสรุปร่วมกับสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.)และบริษัทที่ปรึกษา A49 จำกัด แล้วเช่นกัน โดย กทท.ต้องการนำร่องแปลงแรกใกล้ ๆ อาคารสำนักงานใหญ่บนพื้นที่ประมาณ 17 ไร่ก่อนที่จะขยายในระยะต่อไป
"ช่วงนี้ยังสั่งการให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเรื่องการปรับพื้นที่ตามผังเมืองใหม่ควบคู่กันไปด้วย เพราะตามแผนจะมีการพัฒนาหลายโซนไปพร้อม ๆ กันให้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจแห่งใหม่หรือที่เรียกว่ามารีนไทม์บิสิเนสเซ็นเตอร์ ครบครันทั้งในส่วนสำนักงานที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้า-ส่งออก ศูนย์โลจิสติกส์ครบวงจร ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ และศูนย์รวมที่อยู่อาศัยแนวสูง ซึ่งการขับเคลื่อนต่อไปนั้นคงต้องรอฟังนโยบายของกระทรวงคมนาคมและรัฐบาลอีกทีว่าจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงอย่างใดหรือไม่ แต่คาดว่าน่าจะให้การสนับสนุนต่อไปเพราะเกิดผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศ"
นางสาวลาวัลย์ อังคีรส รองผู้อำนวยการสายบริหารธุรกิจ กทท.กล่าวว่าเนื่องจากโครงการนี้คาดว่าจะใช้งบลงทุนสูงกว่า 20,000 ล้านบาท ซึ่งเข้าเงื่อนไขการลงทุนตาม พ.ร.บ.2535 คงต้องรอฟังความเห็นของกระทรวงการคลังก่อนเดินหน้าต่อไปโดยเฉพาะเงื่อนไขการลงทุน และการชี้แนะแหล่งทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศที่คาดว่าจะมีผู้สนใจลงทุนในโครงการนี้หลายราย
"โครงการนี้ได้ทำการศึกษามาหลายครั้ง แต่ก็ยังสรุปไม่ลงตัวเสียที ดังนั้นการทบทวนในครั้งนี้จึงน่าจะเป็นผลดีมากกว่าที่ได้กลับมาทบทวนรายละเอียดต่างๆที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วนเพื่อให้สอดคล้องกับปัจจุบันและได้ดำเนินการอย่างครบกระบวนการจริง ๆ เพื่อให้แผนที่กำหนดไว้เกิดผลได้ในแนวทางปฏิบัติ โดยคงต้องใช้ระยะเวลาอีกประมาณ 1 ปี จึงจะนำเข้าสู่การพิจารณาของรัฐบาลเพื่อชี้ชัดในการดำเนินโครงการคาดว่าปี 2556 น่าจะเห็นภาพได้ชัดเจนยิ่งขึ้น"
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,751 24-27 มิถุนายน พ.ศ. 2555
"ช่วงนี้ยังสั่งการให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเรื่องการปรับพื้นที่ตามผังเมืองใหม่ควบคู่กันไปด้วย เพราะตามแผนจะมีการพัฒนาหลายโซนไปพร้อม ๆ กันให้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจแห่งใหม่หรือที่เรียกว่ามารีนไทม์บิสิเนสเซ็นเตอร์ ครบครันทั้งในส่วนสำนักงานที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้า-ส่งออก ศูนย์โลจิสติกส์ครบวงจร ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ และศูนย์รวมที่อยู่อาศัยแนวสูง ซึ่งการขับเคลื่อนต่อไปนั้นคงต้องรอฟังนโยบายของกระทรวงคมนาคมและรัฐบาลอีกทีว่าจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงอย่างใดหรือไม่ แต่คาดว่าน่าจะให้การสนับสนุนต่อไปเพราะเกิดผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศ"
นางสาวลาวัลย์ อังคีรส รองผู้อำนวยการสายบริหารธุรกิจ กทท.กล่าวว่าเนื่องจากโครงการนี้คาดว่าจะใช้งบลงทุนสูงกว่า 20,000 ล้านบาท ซึ่งเข้าเงื่อนไขการลงทุนตาม พ.ร.บ.2535 คงต้องรอฟังความเห็นของกระทรวงการคลังก่อนเดินหน้าต่อไปโดยเฉพาะเงื่อนไขการลงทุน และการชี้แนะแหล่งทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศที่คาดว่าจะมีผู้สนใจลงทุนในโครงการนี้หลายราย
"โครงการนี้ได้ทำการศึกษามาหลายครั้ง แต่ก็ยังสรุปไม่ลงตัวเสียที ดังนั้นการทบทวนในครั้งนี้จึงน่าจะเป็นผลดีมากกว่าที่ได้กลับมาทบทวนรายละเอียดต่างๆที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วนเพื่อให้สอดคล้องกับปัจจุบันและได้ดำเนินการอย่างครบกระบวนการจริง ๆ เพื่อให้แผนที่กำหนดไว้เกิดผลได้ในแนวทางปฏิบัติ โดยคงต้องใช้ระยะเวลาอีกประมาณ 1 ปี จึงจะนำเข้าสู่การพิจารณาของรัฐบาลเพื่อชี้ชัดในการดำเนินโครงการคาดว่าปี 2556 น่าจะเห็นภาพได้ชัดเจนยิ่งขึ้น"
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,751 24-27 มิถุนายน พ.ศ. 2555