Sittichai Real Estate Agent
  • Home
  • About us
  • Property for sale
    • Land >
      • Beachfront 2 Rai, Jao Samran Beach
      • Beachfront 56.5 Rai, Puektian Beach
      • 3-1-50 Rai, Ratchada 36
      • 3.5 Rai, Lasalle
      • 4 Rai, Buddhabucha 39
      • 7 Rai, Prachauthit
      • 8.5 Rai, Buddhabucha 39
      • 38 Rai, Pathumthani
      • 102 sq.w. Prachauthit 79
      • 223 sq.w. Buddhabucha 39
      • 200 sq.w. Sukhumvit 70/3
    • House >
      • 2 flr. 31sq.w. Lad Proa 71
      • 2 flr. 64 sq.w. Chalearmprakiatlor 9
      • Villa 223 sq.w. Phetchaburi
      • Villa 3-1-50 Rai, Chiang Mai
    • Townhouse >
      • Ratchada Arkadian 29.9 sq.w. Kanjanapisek
      • Bangkok Green Park 36 sq.w. Jaroennakorn
    • Condominium >
      • The Bangkok Narathiwat 75 sq.m. 2 bedroom, Narathiwat Ratchanakarin
      • Baan Nubkluen 62.11 sq.m. Hua Hin
      • Lang Suan Ville 191.72 sq.m. 3 bedroom near BTS Chidlom
      • Liberty Park 252.99 sq.m. 3 bedroom Sukhumwitt 23
      • Prestige Towers 254 sq.m. 3 bedroom Sukhumwitt 23
    • Home Office >
      • 2 Unit 3 flr. 32 sq.w. Sukhumvit 70/3
      • 2 Unit 4 flr. 34 sq.w. Sukhumvit 48
    • Office Building >
      • 5 flr. 576 sq.m. Ratchada 26
    • Factory >
      • 5,936 sq.m. 12 Rai Samutprakarn
    • All
  • Property News
  • Real Estate Tips
  • Contact
085-255-5565

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างฉุดแผนปฏิรูปภาษีทั้งระบบค้างเติ่งเงียบเพื่อรอคลอดหรือตอกฝา

4/17/2015

Comments

 
ตีฆ้องร้องป่าวเรื่องการปฏิรูปภาษีของกระทรวงการคลัง มาตั้งแต่เป็นคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แต่สุดท้ายแผนปฏิรูปภาษีต้องสะดุดกึก เพราะมีเสียงคัดค้านที่หนักหน่วงกรณีเรื่องภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
          เดิมทีร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อเห็นชอบ และส่งต่อไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สชน.) ตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม 2558 แต่สุดท้ายถูก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สั่งให้ชะลอนำเสนอ ครม.ในระหว่างการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนเมื่อวันที่ 12 มีนาคม

          รวมภาษีสรรพสามิตรอเก้อ

          ภาษีตัวต่อมาที่ต้องชะลอตามภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างคือ การรวมภาษีของกรมสรรพสามิต 7 ฉบับให้เหลือฉบับเดียว จากเดิมมีกำหนดเข้า ครม.หลังภาษีที่ดิน ซึ่งเรื่องได้จ่อรอเข้า ครม.ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา แต่สุดท้ายต้องรอไปก่อน เพราะกฎหมายสรรพสามิตใหม่ที่จะปรับวิธีการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตใหม่เป็นใช้อิงราคาขายปลีกแนะนำ จากปัจจุบันใช้ราคาหน้าโรงงาน และราคาขายส่งช่วงสุดท้ายในการคิดภาษี ซึ่งจะมีผลทำให้ราคาสินค้าที่นำมาคิดภาษีปรับเพิ่มขึ้น 30%  ช่วงนั้นมีข่าวว่าสินค้าอาจปรับเพิ่มขึ้นตามภาษี ทั้งที่กรมสรรพสามิตเสนอฝ่ายนโยบายแล้วว่าจะต้องมีการปรับลดอัตราภาษีในสินค้าหลักๆ อาทิ ยาสูบ น้ำมัน รถยนต์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ลง เพื่อเป็นการดูแลประชาชน

          แต่ในเมื่อในเรื่องภาษียังเป็นเรื่องที่แสลงใจคนในรัฐบาล ทำให้กระทรวงการคลังต้องถอยกลับมาตั้งหลักใหม่ และวางกลยุทธ์ในการเสนอภาษีใหม่ โดยมีการตั้งคณะกรรมการปฏิรูปภาษีขึ้นมาเมื่อเดือนมีนาคม ซึ่งมีตัวแทนทั้งข้าราชการในกระทรวงการคลัง และตัวแทนจากภาคเอกชนร่วมเป็นคณะกรรมการ มี นาย สมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน โดยคณะกรรมการปฏิรูปภาษีจะเข้ามาพิจารณาการปฏิรูปภาษีของกระทรวงการคลังทำไว้แล้วอีกครั้ง แม้จะไม่ใช่การนับ 1 กันใหม่ แต่แผนทั้งหมดต้องล่าช้าออกไปอีกเพราะคณะกรรมการปฏิรูปมีประชุมเดือนละครั้งเท่านั้น ที่ผ่านมาประชุมไปแล้วเพียง 2 ครั้ง

          รอจังหวะเดินหน้าภาษีที่ดิน

          แม้ภาษีที่ดินจะถูกเบรก นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยืนยันว่าจะพยายามผลักดันภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างภายในรัฐบาลชุดนี้ และสามารถเสนอกฎหมายนี้ได้จนกว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่ เหตุผลที่ต้องเร่งผลักดันกฎหมายนี้ เพราะรัฐบาลชุดนี้ที่เป็นรัฐบาลที่มาจากการปฏิวัติ ดังนั้น สามารถทำอะไรในสิ่งที่รัฐบาลจากการเลือกตั้งทำไม่ได้ ซึ่งกฎหมายนี้ถูกเสนอมาจากข้าราชการกระทรวงการคลังมาตั้งแต่ปี 2539 และเป็นรูปเป็นร่างมากที่สุดเข้าสู่การพิจารณาของรัฐบาลประชาธิปัตย์เมื่อช่วงปี 2553 แต่ก็เกิดการยุบสภา ทำให้กฎหมายนี้ต้องมาเริ่มต้นใหม่

          การให้ความเห็นของนายสมหมายนั้นเกิดขึ้นก่อนที่จะมีคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษรจาก พล.อ.ประยุทธ์ ขอให้ผู้บริหารกระทรวงการคลังงดให้ข่าวเรื่องภาษี จนกว่าจะผ่าน ครม. เพราะบทเรียนจากภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างถูกพูดถึงทุกวันก่อนเข้า ครม. น่าจะสิ่งสำคัญที่ทำให้นายกฯต้องสั่งเบรกการพูดถึงเรื่องภาษี

          สศค.ชี้ไทยเก็บภาษีต่ำ

          ในระหว่างที่กระทรวงการคลังผลักดันภาษีที่ดินมีกลุ่มผู้คัดค้านว่าประเทศไทยจัดเก็บภาษีสูงมาก เรื่องนี้ นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ยืนยันว่า ภาระภาษีที่คนไทยจ่ายโดยรวมถือว่ายังอยู่ระดับที่ต่ำโดยพบว่าการจัดเก็บภาษีของไทยอยู่ที่ 20.6% ของจีดีพี ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มประเทศในองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา หรือโออีซีดี ที่อยู่ในระดับ 40.1% ของจีดีพี และค่าเฉลี่ยของกลุ่มประเทศอาเซียนอยู่ที่ 24.5% ของจีดีพี ทั้งนี้ หากเรียงลำดับจากประเทศที่มีสัดส่วนดังกล่าวจากสูงไปต่ำแล้ว จะพบว่าประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 153 จาก 180 ประเทศทั่วโลก และอยู่ในลำดับที่ 5 ของกลุ่มประเทศอาเซียน

          "ไทยยังต้องมีการพัฒนาลงทุนโครง สร้างพื้นฐานอีกมาก ขณะที่ภาระภาษีที่คนไทยจ่ายโดยรวมถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์ต่ำ นอกจากนี้ การจัดเก็บรายได้ของท้องถิ่นเองก็เก็บได้น้อย และรัฐบาลส่วนกลางยังต้องจัดสรรเงินปีละกว่า 2 แสนล้านบาท ไปให้ท้องถิ่น ซึ่งคลังยังหวังว่าภาษีที่ดินจะถูกหยิบยกมาพิจารณาอีกครั้ง เพราะภาษีนี้จะเป็นเครื่องมือในการจัดหารายได้ของท้องถิ่นที่สำคัญ" นายกฤษฎากล่าว

          ลุ้นปฏิรูปภาษี24เรื่อง

          จริงๆ แล้วในแผนปฏิรูปภาษีของกระทรวงการคลังนั้นได้มีการเตรียมไว้ทั้งหมด 24 เรื่อง แบ่งเป็นส่วนที่ดำเนินการไปแล้ว 7-8 เรื่อง อาทิ ปรับลดการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีในการส่งเสริมการลงทุน ทยอยปรับขึ้นอัตราภาษีสรรพสามิต ปรับลดโครงสร้างอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับเอสเอ็มอี ปรับปรุงโครงสร้างอัตราภาษีศุลกากรในกลุ่มสินค้าวัตถุดิบขั้นต้น ต่ออายุอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม(แวต) 7% จากเพดาน 10% จนถึง 30 กันยายน 2558 โดยมีเรื่องใหญ่ที่อยู่ในขั้นการดำเนินการคือ ภาษีมรดกที่อยู่ในชั้นของการพิจารณา สนช. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

          ส่วนที่ยังไม่ได้เสนอไปยังรัฐบาล และอยู่ในขั้นของการพิจารณาจากกระทรวงการคลัง อาทิ การปรับขั้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และนิติบุคคลเป็นการถาวร ทบทวนแวตให้เหมาะสมว่าควรจะเป็นเท่าไหร่ การใช้ระบบเงินโอนให้คนจน (NIT) ขยายฐานภาษีมลพิษ เก็บภาษีสรรพสามิตจากสินค้าที่ทำลายสุขภาพ อาทิ เครื่องดื่มที่มีความหวาน น้ำมันหล่อลื่น ปรับปรุงภาษีศุลกากรให้สอดคล้องกับการเปิดเสรีทางการค้า

          ตอบโจทย์4เรื่องใหญ่

          การปฏิรูปภาษีของไทยนั้นคนในกระทรวงการคลังมองว่าจำเป็น เพราะสามารถตอบโจทย์ใน 4 เรื่อง คือ 1.สร้างฐานรายได้ภาษีที่ยั่งยืนในระยะยาว เพราะหากเปรียบเทียบกับต่างประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใกล้เคียงกับไทย รายได้ของรัฐบาลไทยยังต่ำกว่า จึงจำเป็นที่ต้องเพิ่มรายได้ เพื่อนำเงินไปเพิ่มสวัสดิการทั้งด้านการศึกษาและสาธารณสุขให้กับคนไทยได้เพิ่มขึ้น รวมถึงนำไปลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2-3 ล้านล้านบาท ของกระทรวงคมนาคม

          2.การสร้างความเป็นธรรม และลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม โดยภาษีที่เป็นตัวหลักในเรื่องนี้ คือ ภาษีมรดก ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รวมถึงภาษีมลพิษทางน้ำ และ NIT  ซึ่งขณะนี้ใกล้สำเร็จเพียง 1 เรื่องคือ ภาษีมรดก แต่ถูกเปลี่ยนแปลงจากร่างเดิมที่เสนอไปจากกระทรวงการคลังพอสมควร โดยเฉพาะในเรื่องของมูลค่ามรดกที่จะเริ่มเก็บภาษีจากเดิมกระทรวงการคลังเสนอที่มรดกตั้งแต่ 50 ล้านบาทขึ้นไป แต่ในชั้นของกรรมาธิการได้โหวตให้เพิ่มเป็น 100 ล้านบาท ขึ้นไป

          3.การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการและดึงดูดการลงทุน ในส่วนนี้ได้มีการดำเนินการไปมากพอสมควร ทั้งปรับปรุงภาษีเอสเอ็มอี ปรับปรุงโครงสร้างภาษีศุลกากรในกลุ่มสินค้าวัตถุดิบขั้นต้นกว่า 2,000 รายการ มีผลไปเมื่อ 1 มกราคม 2558 ยังเหลือที่ต้องดำเนินการ อาทิ ปรับปรุงภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายให้สอดคล้องกับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และนิติบุคคลที่ลดลง การปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลเหลือ 20% เป็นการถาวร

          4.เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บภาษี ต้องดำเนินการทั้งในเรื่อง เร่งรัดการจัดทำระบบภาษีอากรระหว่างกรม การใส่ข้อมูลรายได้ส่วนบุคคลเข้าไปในบัตรประชาชน ทบทวนจัดกลุ่มเก็บภาษีใหม่  ถือเป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการ เพราะปัจจุบันรัฐบาลยังต้องการรายได้จากภาษีไปใช้ในการพัฒนาประเทศ นำไปใช้ในโครงการประชานิยมต่างๆ รวมถึงนำไปลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ดังนั้น หากจะปล่อยให้การจัดเก็บรายได้รับโตปีละ 6-7% อย่างที่กระทรวงการคลังตั้งเป้าหมายไว้คงจะเป็นเรื่องที่ยาก โดยมีการพูดถึงการเพิ่มรายได้ของประเทศให้เป็น 3-4 ล้านล้านบาท จากปัจจุบันจัดเก็บที่ 2.2-2.3 ล้านล้านบาท ในช่วง 4-5 ปีข้างหน้า

          แค่เฉพาะภาษี ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ตั้งเป้าหมายสร้างรายได้ 2-2.5 แสนล้านบาท รายได้ที่เกิดขึ้นตรงนี้ จะช่วยลดภาระที่รัฐบาลต้องจัดสรรงบประมาณไปสนับสนุนให้กับท้องถิ่นปีละกว่า 2 แสนล้านบาทรอประกาศต่ออายุแวต7%

          อย่างไรก็ตาม ในช่วงต่อจากนี้ไปภาษีที่ต้องดำเนินการอย่างแน่นอน คือต่ออายุแวต 7% ออกไปอีกอย่างน้อย 1-2 ปี เพราะเรื่องนี้นายกรัฐมนตรีได้มีการประกาศไปแล้วว่าจะต้องต่ออายุแวต 7% เนื่องจากเศรษฐกิจในปีนี้อยู่ในภาวะที่ไม่เอื้อต่อการขึ้นแวต โดยการประกาศต่อ อายุแวตนั้นน่าจะชัดเจนว่าจะกี่ปีช่วงเดือนกรกฎาคม เพื่อให้ทันกับที่จะหมดอายุเดือนกันยายน 2558

          ส่วนภาษีอื่นๆ นั้นคงต้องรอรัฐบาลว่าจะดำเนินการต่อหรือไม่ เพราะการชะลอภาษีที่ดิน เพราะรัฐบาลกลัวคะแนนความนิยมหาย เนื่องจากในช่วงที่มีข่าวเรื่องเก็บภาษีทั้งในเรื่องโรงเรียนกวดวิชา ภาษีคณะบุคคล ทำให้คนชั้นกลางที่เป็นฐานเสียงสำคัญของ คสช.เริ่มไม่พอใจรัฐบาล ทำให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ต้องเสนอในที่ประชุมขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ คสช.ให้ชะลอเรื่องนี้ไปก่อนอย่างไม่มีกำหนด

          จากนั้นจึงมีคำสั่งให้ดำเนินการในเรื่องภาษีให้เงียบที่สุด จนกว่าจะเข้า ครม.

          สุดท้ายต้องมาดูกันว่ารัฐบาลจะปล่อยให้เรื่องนี้เดินหน้าต่อไปเงียบๆ หรือปล่อยให้เรื่องเงียบหายไปเลยพร้อมๆ กับการหมดวาระของรัฐบาลชุดนี้!!

          "หลังจากภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างถูกสั่งชะลอทำให้การปฏิรูปภาษีของคลังทั้งระบบ ต้องชะงักตามไปด้วย เพราะภาษีทุกเรื่องมีความพัวพันกันไปหมด และข่าวภาษีที่ผ่านมา ทำให้ฐานเสียงความนิยมในรัฐบาลลดลงไปพอสมควรเพราะคนรู้สึกว่าต้องควักเงินจ่ายภาษีเพิ่ม จึงต้องติดตามว่าจากนี้ไปรัฐบาลจะเดินหน้าปฏิรูปภาษีต่อไปอย่างไร"

ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน

Comments
    Picture

    Author

    ข่าวสาร สาระน่ารู้ ที่น่าติดตามของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย

    ติดตาม @ThaiRealtyNews
    Click to Hot Line
    Picture
    Picture
    Picture
    Picture
    Picture
    Picture
    Picture
    Picture
    Picture
    Picture
    Picture
    ติดตาม @ThaiRealtyNews

    RSS Feed

    • Home
    • About us
    • Property for Sale
    • Property News
    • Real Estate Tips
    • Contact
Powered by Create your own unique website with customizable templates.