ซีบีอาร์อี ชี้คอนโดกลางเมืองยังรุ่ง หลังผลสำรวจพบว่ามีปริมาณน้อย ความต้องการสูง หลังนักลงทุนแห่ซื้อปล่อยเช่าชาวต่างชาติ เผยราคาเช่าพุ่งครั้งแรกในรอบ 20 ปี
นางสาวพรพิมล พึ่งเขื่อนขันธ์ หัวหน้าแผนกซื้อขายที่พักอาศัย-รายย่อย ซีบีอาร์อี ประเทศไทย ที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า แผนกวิจัย ซีบีอาร์อี สำรวจตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ หลังจากที่หลายฝ่ายวิตกว่าจะเกิดภาวะล้นตลาด แต่พบว่าย่านใจกลางเมือง ได้แก่ สุขุมวิท ลุมพินี สาทร พญาไท และริมแม่น้ำยังมีจำนวนน้อยมาก คิดเป็นสัดส่วนต่ำกว่า 20% ของคอนโดในกรุงเทพทั้งหมด โดยมีประมาณ 1 แสนยูนิต และอยู่ระหว่างก่อสร้างอีกประมาณ 2.6 หมื่นยูนิต มีกำหนดแล้วเสร็จใน อีก 3 ปี
นางสาวพรพิมล พึ่งเขื่อนขันธ์ หัวหน้าแผนกซื้อขายที่พักอาศัย-รายย่อย ซีบีอาร์อี ประเทศไทย ที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า แผนกวิจัย ซีบีอาร์อี สำรวจตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ หลังจากที่หลายฝ่ายวิตกว่าจะเกิดภาวะล้นตลาด แต่พบว่าย่านใจกลางเมือง ได้แก่ สุขุมวิท ลุมพินี สาทร พญาไท และริมแม่น้ำยังมีจำนวนน้อยมาก คิดเป็นสัดส่วนต่ำกว่า 20% ของคอนโดในกรุงเทพทั้งหมด โดยมีประมาณ 1 แสนยูนิต และอยู่ระหว่างก่อสร้างอีกประมาณ 2.6 หมื่นยูนิต มีกำหนดแล้วเสร็จใน อีก 3 ปี
"ปัจจุบันมีคอนโดมิเนียมเหลือขายในอาคารที่การก่อสร้างแล้วเสร็จน้อยมาก" และแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมา แต่กลับพบว่าราคา ซื้อขายที่ดินสูงเป็นประวัติการณ์ในย่าน ใจกลางกรุงเทพฯ เช่น คิวเฮ้าส์ ซึ่งเป็น ผู้ประกอบการที่จดทะเบียนในตลาด หลักทรัพย์ ได้รายงานว่าได้ซื้อที่ดินขนาด 3 ไร่บริเวณหัวมุมสุขุมวิทซอย 6 ในราคา 1.7- 1.8 ล้านบาท/ตารางวา เพื่อพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียมหรู
ทั้งนี้ ซีบีอาร์อี มองว่ากรุงเทพฯ เป็นตลาดที่มีความซับซ้อน และการกำหนดราคาคอนโดมิเนียมในปัจจุบันไม่ได้มาจากทำเลที่ตั้งเพียงอย่างเดียว แต่มีปัจจัยอื่นๆ เช่น อายุของอาคาร คุณภาพการออกแบบ วัสดุที่เลือกใช้ จำนวนห้องที่มีการเสนอขาย และความเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้เช่าซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้โครงการนั้นๆ เป็นที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการซื้อเพื่อนำมาปล่อยเช่า
"ปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ ทำให้คอนโดมิเนียมที่แม้จะตั้งอยู่ในทำเลที่ใกล้เคียงกันก็อาจมีราคาที่แตกต่างกันมากได้"
ในด้านของการเช่าพบว่า การที่มีชาว ต่างชาติเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯมากขึ้น ส่งผล ให้ค่าเช่าคอนโดมิเนียมสำหรับชาวต่างชาติปรับตัวสูงขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี ทั้งนี้พบว่าผู้เช่าหลายรายต้องการเช่าห้องแบบ 2-3 ห้องนอน แต่การสำรวจพบว่าปริมาณที่พักขนาดที่ตรงกับความต้องการ ดังกล่าว ทั้งอพาร์ตเมนต์ หรือคอนโดมิเนียม ไม่ได้เพิ่มขึ้น ส่วนโครงการที่กำลังก่อสร้าง ก็มีขนาด 3 ห้องนอนในพื้นที่กลางเมืองมีเพียง 2% เท่านั้น
"ราคาเช่าปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ราคาขายคอนโดมิเนียมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหมู่ผู้เช่าชาวต่างชาติมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย"
นอกจากนี้ราคาเช่าที่เพิ่มขึ้น ยังเป็น ตัวผลักดันให้เกิดความต้องการ คอนโดมิเนียมมากขึ้นโดยเฉพาะกลุ่ม นักลงทุนที่เห็นว่าการลงทุนรูปแบบอื่นให้ผลตอบแทนต่ำ เช่น เงินฝากประจำ 12 เดือน มีสถาบันการเงินไม่กี่แห่งที่ให้อัตราที่สูงกว่า 2% ต่อปี
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
ทั้งนี้ ซีบีอาร์อี มองว่ากรุงเทพฯ เป็นตลาดที่มีความซับซ้อน และการกำหนดราคาคอนโดมิเนียมในปัจจุบันไม่ได้มาจากทำเลที่ตั้งเพียงอย่างเดียว แต่มีปัจจัยอื่นๆ เช่น อายุของอาคาร คุณภาพการออกแบบ วัสดุที่เลือกใช้ จำนวนห้องที่มีการเสนอขาย และความเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้เช่าซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้โครงการนั้นๆ เป็นที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการซื้อเพื่อนำมาปล่อยเช่า
"ปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ ทำให้คอนโดมิเนียมที่แม้จะตั้งอยู่ในทำเลที่ใกล้เคียงกันก็อาจมีราคาที่แตกต่างกันมากได้"
ในด้านของการเช่าพบว่า การที่มีชาว ต่างชาติเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯมากขึ้น ส่งผล ให้ค่าเช่าคอนโดมิเนียมสำหรับชาวต่างชาติปรับตัวสูงขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี ทั้งนี้พบว่าผู้เช่าหลายรายต้องการเช่าห้องแบบ 2-3 ห้องนอน แต่การสำรวจพบว่าปริมาณที่พักขนาดที่ตรงกับความต้องการ ดังกล่าว ทั้งอพาร์ตเมนต์ หรือคอนโดมิเนียม ไม่ได้เพิ่มขึ้น ส่วนโครงการที่กำลังก่อสร้าง ก็มีขนาด 3 ห้องนอนในพื้นที่กลางเมืองมีเพียง 2% เท่านั้น
"ราคาเช่าปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ราคาขายคอนโดมิเนียมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหมู่ผู้เช่าชาวต่างชาติมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย"
นอกจากนี้ราคาเช่าที่เพิ่มขึ้น ยังเป็น ตัวผลักดันให้เกิดความต้องการ คอนโดมิเนียมมากขึ้นโดยเฉพาะกลุ่ม นักลงทุนที่เห็นว่าการลงทุนรูปแบบอื่นให้ผลตอบแทนต่ำ เช่น เงินฝากประจำ 12 เดือน มีสถาบันการเงินไม่กี่แห่งที่ให้อัตราที่สูงกว่า 2% ต่อปี
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ