แบงก์มองสัญญาณลงทุนโครงการอสังหาริมทรัพย์เริ่มฟื้น อานิสงส์ความเชื่อมั่นรายย่อยถูกปลุก คาดทั้งปีตลาดพลิกโต 5-6% "เกียรตินาคิน" จ่อปล่อยกู้ 100 โครงการ ดันสินเชื่อโตตามเป้า 2 หมื่นล้านบาท "กสิกรไทย" ล้อหมุนตามภาวะตลาด มองกลุ่มแนวราบ-ออฟฟิศขยายตัว
นายวิศรุต ปัญญาภิญโญผล ผู้อำนวยการฝ่ายสินเชื่อธุรกิจอสังหา ริมทรัพย์ สายสินเชื่อธุรกิจ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) (บมจ.) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ปัจจุบันเริ่มเห็นสัญญาณความเชื่อมั่นจากผู้บริโภครายย่อยกลับคืนมามากขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณดีต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ที่เริ่มขยับตัวและลงทุนเพิ่มเติมหลังจากครึ่งปีแรกตลาดค่อนข้างเงียบ ซึ่งศูนย์วิจัย ธนาคารประเมินว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์จะกลับมาขยายตัวได้ที่ระดับ 5-6% โดยคาดว่า 1-2 เดือนข้างหน้าจะเห็นการลงทุนชัดเจนมากขึ้น เพราะปัจจุบันผู้ประกอบการเริ่มกลับมาขอวงเงินสินเชื่อ เพื่อหาซื้อที่ดินและว่าจ้างบริษัทก่อสร้าง และเริ่มทำสัญญาทางการเงินกับธนาคารมากขึ้น ซึ่งแตกต่างจากช่วงครึ่งปีแรกที่เบิกใช้วงเงินน้อยตามการชะลอตัวของลูกค้ารายย่อย
นายวิศรุต ปัญญาภิญโญผล ผู้อำนวยการฝ่ายสินเชื่อธุรกิจอสังหา ริมทรัพย์ สายสินเชื่อธุรกิจ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) (บมจ.) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ปัจจุบันเริ่มเห็นสัญญาณความเชื่อมั่นจากผู้บริโภครายย่อยกลับคืนมามากขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณดีต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ที่เริ่มขยับตัวและลงทุนเพิ่มเติมหลังจากครึ่งปีแรกตลาดค่อนข้างเงียบ ซึ่งศูนย์วิจัย ธนาคารประเมินว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์จะกลับมาขยายตัวได้ที่ระดับ 5-6% โดยคาดว่า 1-2 เดือนข้างหน้าจะเห็นการลงทุนชัดเจนมากขึ้น เพราะปัจจุบันผู้ประกอบการเริ่มกลับมาขอวงเงินสินเชื่อ เพื่อหาซื้อที่ดินและว่าจ้างบริษัทก่อสร้าง และเริ่มทำสัญญาทางการเงินกับธนาคารมากขึ้น ซึ่งแตกต่างจากช่วงครึ่งปีแรกที่เบิกใช้วงเงินน้อยตามการชะลอตัวของลูกค้ารายย่อย
สำหรับเป้าหมายการปล่อยสินเชื่ออยู่ที่ 2 หมื่นล้านบาท หรือประมาณ 100 โครงการ ซึ่งเติบโตน้อยกว่าปีก่อนที่ปล่อยสินเชื่อสูงถึง 3.2 หมื่นล้านบาท หรือประมาณ 140 โครงการ โดยเฉลี่ยวงเงินกู้ในพื้นที่กรุงเทพฯ รายละ 300-400 ล้านบาท ต่างจังหวัดอยู่ที่ 200 ล้านบาท ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งปีแรกธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อได้แล้ว 1 หมื่นล้านบาท ถือว่าต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อย แต่ก็เป็นผลมาจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและรายย่อยขาดความเชื่อมั่น แต่คาดว่าทั้งปีจะสามารถปล่อยสินเชื่อได้ตามเป้าหมาย โดยภายในสิ้นปีจะมียอดสินเชื่อคงค้างกว่า 3 หมื่นล้านบาท
ส่วนกลยุทธ์ปีนี้ ธนาคารมีแผนจะรุกตลาดในต่างจังหวัดเพิ่มมากขึ้น เพราะเชื่อว่าตลาดในต่างจังหวัดยังสามารถขยายตัวได้ตามความต้องการและขนาดเศรษฐกิจที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ โดยจะร่วมมือกับผู้ประกอบการพันธมิตรท้องถิ่นมุ่งเน้นไปยังหัวเมืองขนาดใหญ่ เช่น เชียงใหม่ และภาคอีสาน ซึ่งเป้าหมายระยะยาวภายใน 3-5 ปี ต้องการเพิ่มฐานลูกค้าในต่างจังหวัดเป็น 50% จากปัจจุบันมีอยู่ 40% และฐานลูกค้ากรุงเทพฯ มีอยู่ 60%
"สัญญาณต้นปีการเปิดโครงการใหม่ชะลอการใช้เงินกู้ก็ไม่เยอะ แต่ครึ่งปีหลังการกลับมาลงทุนเพิ่มเติมจะมีมากขึ้น แต่เราคงไม่ปรับเป้า เพราะเรามองว่าปีนี้คงไม่ขยายตัวเท่าปีก่อน แต่ปีนี้เราจะไปมุ่งออกสู่ตลาดจังหวัดมากขึ้น อาจจะไปขอแบ่งมาร์เก็ตแชร์มาบ้าง"
ขณะที่นายทวิช ธนะชานันท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ.ธนาคารกสิกรไทย กล่าวถึงสัญญาณเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวดีขึ้น และความเชื่อมั่นที่เริ่มกลับมา ทำให้ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวดีขึ้นกว่าช่วงครึ่งแรกของปี โดยผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ทยอยเปิดโครงการมากขึ้น ซึ่งธนาคารประเมินว่าธุรกิจอสังหา ริมทรัพย์ทั้งระบบในปีนี้จะขยายตัวได้ที่ระดับ 5-6% จากครึ่งปีแรกมีอัตราการขยายตัวติดลบที่ 13.1% โดยในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะมีจำนวนที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลขยายตัวถึง 3.4% โดยเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อจะสอดคล้องกับภาวะตลาดที่ขยายตัว จากปัจจุบันธนาคารมียอดสินเชื่อคงค้างภาคอสังหาริมทรัพย์ 2-3 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ ในช่วงเดือนที่ผ่านมามีการเปิดโครงการมูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท และจะมีเปิดต่อเนื่องอีกหลายโครงการ และสัญญาณการลงทุนจะเน้นหนักไปในกลุ่มบ้านแนวราบมากกว่าคอนโดมิเนียม เนื่องจากในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาผู้ประกอบการจะเน้นเปิดโครงการคอนโด มิเนียมค่อนข้างมาก ปีนี้จึงจะเห็นโครง การแนวราบมากขึ้น รวมถึงการลงทุนในส่วนของอาคารออฟฟิศและสำนักงาน จะเริ่มเห็นสัญญาณมากขึ้น เพราะต่างประเทศที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยจะย้ายสำนักงานมาตั้งเพิ่มขึ้น
ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
ส่วนกลยุทธ์ปีนี้ ธนาคารมีแผนจะรุกตลาดในต่างจังหวัดเพิ่มมากขึ้น เพราะเชื่อว่าตลาดในต่างจังหวัดยังสามารถขยายตัวได้ตามความต้องการและขนาดเศรษฐกิจที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ โดยจะร่วมมือกับผู้ประกอบการพันธมิตรท้องถิ่นมุ่งเน้นไปยังหัวเมืองขนาดใหญ่ เช่น เชียงใหม่ และภาคอีสาน ซึ่งเป้าหมายระยะยาวภายใน 3-5 ปี ต้องการเพิ่มฐานลูกค้าในต่างจังหวัดเป็น 50% จากปัจจุบันมีอยู่ 40% และฐานลูกค้ากรุงเทพฯ มีอยู่ 60%
"สัญญาณต้นปีการเปิดโครงการใหม่ชะลอการใช้เงินกู้ก็ไม่เยอะ แต่ครึ่งปีหลังการกลับมาลงทุนเพิ่มเติมจะมีมากขึ้น แต่เราคงไม่ปรับเป้า เพราะเรามองว่าปีนี้คงไม่ขยายตัวเท่าปีก่อน แต่ปีนี้เราจะไปมุ่งออกสู่ตลาดจังหวัดมากขึ้น อาจจะไปขอแบ่งมาร์เก็ตแชร์มาบ้าง"
ขณะที่นายทวิช ธนะชานันท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ.ธนาคารกสิกรไทย กล่าวถึงสัญญาณเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวดีขึ้น และความเชื่อมั่นที่เริ่มกลับมา ทำให้ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวดีขึ้นกว่าช่วงครึ่งแรกของปี โดยผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ทยอยเปิดโครงการมากขึ้น ซึ่งธนาคารประเมินว่าธุรกิจอสังหา ริมทรัพย์ทั้งระบบในปีนี้จะขยายตัวได้ที่ระดับ 5-6% จากครึ่งปีแรกมีอัตราการขยายตัวติดลบที่ 13.1% โดยในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะมีจำนวนที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลขยายตัวถึง 3.4% โดยเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อจะสอดคล้องกับภาวะตลาดที่ขยายตัว จากปัจจุบันธนาคารมียอดสินเชื่อคงค้างภาคอสังหาริมทรัพย์ 2-3 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ ในช่วงเดือนที่ผ่านมามีการเปิดโครงการมูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท และจะมีเปิดต่อเนื่องอีกหลายโครงการ และสัญญาณการลงทุนจะเน้นหนักไปในกลุ่มบ้านแนวราบมากกว่าคอนโดมิเนียม เนื่องจากในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาผู้ประกอบการจะเน้นเปิดโครงการคอนโด มิเนียมค่อนข้างมาก ปีนี้จึงจะเห็นโครง การแนวราบมากขึ้น รวมถึงการลงทุนในส่วนของอาคารออฟฟิศและสำนักงาน จะเริ่มเห็นสัญญาณมากขึ้น เพราะต่างประเทศที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยจะย้ายสำนักงานมาตั้งเพิ่มขึ้น
ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ