นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือKBANK กล่าวว่า ลูกค้าสินเชื่อบ้านของกสิกรไทยที่ผ่อนชำระอยู่แล้ว ธนาคารมีแคมเปญพิเศษ ดอกเบี้ย 0% 6 เดือนสินเชื่อซ่อมแซมบ้าน ส่วนลูกค้าทั่วไปที่มาขอกู้ใหม่ จะได้รับดอกเบี้ย 0% 3 เดือน
“ปัจจุบันมีลูกค้าขอสินเชื่อบ้าน 800 ราย มูลค่าเฉลี่ยรายละ 1 ล้านบาท มีทั้งขอเพื่อซื้อบ้านหลังใหม่ กู้ซ่อมบ้านและขอวงเงินเพิ่ม”ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ KBANK กล่าว ผลกระทบจากปัจจัยน้ำท่วมอาจจะทำให้สินเชื่อบัตรเครดิตชะลอตัวลงไปบ้าง แต่ล่าสุดพบว่าเริ่มมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรมากขึ้นโดยเฉพาะในหมวดซ่อมแซมหลังได้รับผลกระทบน้ำท่วม เช่น วัสดุก่อสร้าง เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องทำความสะอาด และเครื่องสูบน้ำ เป็นต้น
“เดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมนี้ ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเพิ่มขึ้นได้ดีในหมวดบำรุงซ่อมแซมจากปกติที่เป็นการใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยและตามไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยว แม้โดยรวมไตรมาส 4/2554 ยอดใช้จ่ายจะลดลงไปบ้างจากปัญหาน้ำท่วม แต่สินเชื่อบัตรเครดิตทั้งปีจะเติบโตตามเป้าที่ 20-25% อย่างแน่นอน”
ขณะที่ธนาคารไทยพาณิชย์ รายงานว่า ธนาคารจัดสรร วงเงินช่วยเหลือลูกค้ารายย่อยและสินเชื่อบุคคลประมาณ 20,000 ล้านบาท คาดว่ามีลูกค้าขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยประมาณ 80% หรือมีมูลค่าสินเชื่อ 16,000 ล้านบาท เพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัยหลังน้ำลด โดยคิดอัตราดอกเบี้ย 0% ในระยะเวลา 3 เดือนแรก จากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยปกติ ขณะนี้มีลูกค้าขอปรับโครงสร้างหนี้เข้ามาแล้วคิดเป็นวงเงินสินเชื่อ 1,300-1,400 ล้านบาท
ก่อนหน้านี้นายเวทย์ นุชเจริญ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ไม่ได้จำกัดวงเงินการช่วยเหลือ ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วม โดย ลูกค้ารายใดต้องการเงินทุนหมุนเวียนหรือซ่อมแซมที่อยู่อาศัยขอติดต่อสาขาธนาคารได้ทั่วประเทศ โดยคิดดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดีหรือ MRRลบ 1.75% ในปีแรก และปีที่สองคิดดอกเบี้ยลบ 0.5% ลูกค้าผ่อนชำระได้ 60 งวด ในระยะเวลา 5 ปี แต่ยอมรับว่ามีความเป็นห่วงหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือ NPL เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะลูกค้าที่มีที่อยู่อาศัยบริเวณที่ถูกน้ำท่วม เพราะคนงาน ไม่มีรายได้ เนื่องจากโรงงานถูกปิด ยกเว้น ลูกค้าราชการมีเงินเดือนจึงไม่กังวลมาก สำหรับเอ็นพีแอลจะเพิ่มมากน้อยแค่ไหน นั้นต้องรอดูตัวเลขอีกครั้ง
ที่มา: หนังสือพิมพ์สยามธุรกิจฉบับวันที่ 26 - 29 พ.ย. 2554
“ปัจจุบันมีลูกค้าขอสินเชื่อบ้าน 800 ราย มูลค่าเฉลี่ยรายละ 1 ล้านบาท มีทั้งขอเพื่อซื้อบ้านหลังใหม่ กู้ซ่อมบ้านและขอวงเงินเพิ่ม”ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ KBANK กล่าว ผลกระทบจากปัจจัยน้ำท่วมอาจจะทำให้สินเชื่อบัตรเครดิตชะลอตัวลงไปบ้าง แต่ล่าสุดพบว่าเริ่มมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรมากขึ้นโดยเฉพาะในหมวดซ่อมแซมหลังได้รับผลกระทบน้ำท่วม เช่น วัสดุก่อสร้าง เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องทำความสะอาด และเครื่องสูบน้ำ เป็นต้น
“เดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมนี้ ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเพิ่มขึ้นได้ดีในหมวดบำรุงซ่อมแซมจากปกติที่เป็นการใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยและตามไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยว แม้โดยรวมไตรมาส 4/2554 ยอดใช้จ่ายจะลดลงไปบ้างจากปัญหาน้ำท่วม แต่สินเชื่อบัตรเครดิตทั้งปีจะเติบโตตามเป้าที่ 20-25% อย่างแน่นอน”
ขณะที่ธนาคารไทยพาณิชย์ รายงานว่า ธนาคารจัดสรร วงเงินช่วยเหลือลูกค้ารายย่อยและสินเชื่อบุคคลประมาณ 20,000 ล้านบาท คาดว่ามีลูกค้าขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยประมาณ 80% หรือมีมูลค่าสินเชื่อ 16,000 ล้านบาท เพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัยหลังน้ำลด โดยคิดอัตราดอกเบี้ย 0% ในระยะเวลา 3 เดือนแรก จากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยปกติ ขณะนี้มีลูกค้าขอปรับโครงสร้างหนี้เข้ามาแล้วคิดเป็นวงเงินสินเชื่อ 1,300-1,400 ล้านบาท
ก่อนหน้านี้นายเวทย์ นุชเจริญ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ไม่ได้จำกัดวงเงินการช่วยเหลือ ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วม โดย ลูกค้ารายใดต้องการเงินทุนหมุนเวียนหรือซ่อมแซมที่อยู่อาศัยขอติดต่อสาขาธนาคารได้ทั่วประเทศ โดยคิดดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดีหรือ MRRลบ 1.75% ในปีแรก และปีที่สองคิดดอกเบี้ยลบ 0.5% ลูกค้าผ่อนชำระได้ 60 งวด ในระยะเวลา 5 ปี แต่ยอมรับว่ามีความเป็นห่วงหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือ NPL เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะลูกค้าที่มีที่อยู่อาศัยบริเวณที่ถูกน้ำท่วม เพราะคนงาน ไม่มีรายได้ เนื่องจากโรงงานถูกปิด ยกเว้น ลูกค้าราชการมีเงินเดือนจึงไม่กังวลมาก สำหรับเอ็นพีแอลจะเพิ่มมากน้อยแค่ไหน นั้นต้องรอดูตัวเลขอีกครั้ง
ที่มา: หนังสือพิมพ์สยามธุรกิจฉบับวันที่ 26 - 29 พ.ย. 2554