ความคืบหน้างานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง พร้อมกับกำหนดการที่คาดว่าจะแล้วเสร็จ และเปิดให้บริการได้ในปลายปี 2558 ส่งผลให้ราคาที่ดินบริเวณบางใหญ่-บางซื่อขยับขึ้นต่อเนื่องทั้งราคาซื้อขายจริงและราคาประเมินจากราชการ จนในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณแคราย-รัตนาธิเบศร์ เริ่มยากที่จะพัฒนาบ้านแนวราบระดับกลางล่างไม่เกิน3 ล้านบาท และเริ่มแทนที่ด้วยที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียม
"ฟันธงได้เลยว่า ทำเลเกาะรถไฟฟ้าสายสีม่วงนับจากนี้จะมีอนาคตที่สดใสมาก โดยเฉพาะกลุ่มคอนโดมิเนียมจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง"สัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ กล่าว
นอกจากนี้ ยังมีโอกาสที่จะเกิดตลาดใหม่ในกลุ่มคอนโดมิเนียมริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งรัตนาธิเบศร์ เช่นเดียวกับทางฝั่งสาทร และพระราม 3 ซึ่งเป็นตลาดหลักของคอนโดมิเนียมริมแม่น้ำเจ้าพระยาในปัจจุบัน โดยประเมินว่าพื้นที่บริเวณ 2-3 สถานีแรกของรถไฟฟ้าสายสีม่วงนับจากบริเวณที่ใกล้สี่แยกแคราย จะเป็นทำเลที่มีการกระจุกตัวของคอนโดมิเนียมมากที่สุด
"ฟันธงได้เลยว่า ทำเลเกาะรถไฟฟ้าสายสีม่วงนับจากนี้จะมีอนาคตที่สดใสมาก โดยเฉพาะกลุ่มคอนโดมิเนียมจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง"สัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ กล่าว
นอกจากนี้ ยังมีโอกาสที่จะเกิดตลาดใหม่ในกลุ่มคอนโดมิเนียมริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งรัตนาธิเบศร์ เช่นเดียวกับทางฝั่งสาทร และพระราม 3 ซึ่งเป็นตลาดหลักของคอนโดมิเนียมริมแม่น้ำเจ้าพระยาในปัจจุบัน โดยประเมินว่าพื้นที่บริเวณ 2-3 สถานีแรกของรถไฟฟ้าสายสีม่วงนับจากบริเวณที่ใกล้สี่แยกแคราย จะเป็นทำเลที่มีการกระจุกตัวของคอนโดมิเนียมมากที่สุด
ด้านเส้นทางที่ออกเมืองไปทางรัตนาธิเบศร์ตลอดเส้นทางดังกล่าวเริ่มมีคอนโดมิเนียมกระจายตัวต่อเนื่องแต่บางลงในช่วงใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนฝั่งที่ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปแล้ว ปัจจุบันยังมีคอนโดมิเนียม เพราะความต้องการหลักยังคงเป็นบ้านแนวราบ
สำหรับภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง บางใหญ่-บางซื่อในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2551 จนถึง ส.ค.2555 นี้ มีคอนโดมิเนียมเกิดใหม่ 22 โครงการรวม 13,800 หน่วย เป็นหน่วยที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ 9 โครงการ รวม 6,350 หน่วย เป็นหน่วยที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง 8 โครงการประมาณ 3,550 หน่วย ส่วนที่เหลืออีก 5 โครงการ ยังไม่ได้เริ่มก่อสร้าง รวมประมาณ3,900 หน่วย ซึ่งคาดว่าจะสร้างแล้วเสร็จทุกโครงการภายในปี 2558
ทั้งนี้ ในภาพรวมดังกล่าวหากดูเฉพาะตัวเลข 9 เดือนแรกของปีนี้ จะพบว่ามีคอนโดมิเนียมเกิดใหม่ตามแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงมากถึง 7,000 หน่วย ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเกินกว่า 50% ของจำนวนหน่วยเกิดใหม่ตลอด5 ปีที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นว่า ยิ่งใกล้กำหนดที่รถไฟฟ้าสายสีม่วงจะเปิดให้บริการ ความร้อนแรงของคอนโดมิเนียมในย่านนี้ยิ่งเพิ่มขึ้นและมีแนวโน้มที่จะเติบโตต่อเนื่องทะลุถึงหมื่นหน่วยก่อนรถไฟฟ้าสายสีม่วงเปิดให้บริการในปี 2558 ด้วย
สัมมา ประเมินว่า จนถึงสิ้นปีนี้คาดว่าในบริเวณนี้จะมีอาคารชุดเปิดใหม่ประมาณ8,000-9,000 หน่วย ส่วนปี 2556 คาดว่าจะเพิ่มเป็น 1 หมื่นหน่วยและในปี 2557 จะมีจำนวนหน่วยเปิดใหม่เพิ่มเป็น 1.2 หมื่นหน่วยโดยจะเห็นว่าในช่วง 5 ปีแรกที่เริ่มมีกระแสข่าวโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ราคาที่ดินเติบโต ตลาดบ้านแนวราบบูมมาก แต่ตลาดคอนโดมิเนียมยังเกิดไม่มากนัก เพราะพฤติกรรมคนซื้อคอนโดมิเนียมต้องการความสะดวกในการเดินทาง ตราบใดที่ยังไม่มีรถไฟฟ้า ผู้บริโภคกลุ่มนี้ก็มองว่าไม่จำเป็นต้องรีบซื้อไว้ล่วงหน้า
ขณะที่นับจากนี้ รถไฟฟ้ามีความคืบหน้าไปมาก การเปิดตัวคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงจะเพิ่มขึ้น เช่นเดิมกับระดับราคาที่จะขยับขึ้นตามความคืบหน้าของงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า โดยปัจจุบันราคาขายห้องชุดในย่านนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 5 หมื่นบาทต่อตร.ม. และเริ่มมีโครงการของผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์เข้าไปเปิดขายในราคาสูงถึง 6 หมื่นบาทต่อตร.ม. ซึ่งคาดว่าในอีก 2 ปีราคาคอนโดมิเนียมย่านนี้จะทะยานขึ้นไปถึง 7-8 หมื่นบาทต่อตร.ม. โดยราคาเมื่อปี2551 เริ่มต้นเพียง 4.1 หมื่นบาทต่อตร.ม.เท่านั้น
ส่วนพื้นที่ในย่านนี้ ที่ผู้ประกอบการนิยมเปิดโครงการคอนโดมิเนียมมากที่สุดในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา คือ บริเวณสี่แยกแคราย ถึงสะพานพระนั่งเกล้า ครอบคลุมถนนรัตนาธิเบศร์ มีโครงการทั้งสิ้น 12 โครงการ รวม 1 หมื่นหน่วยราคาขายเฉลี่ย 4.5 หมื่นบาทต่อตร.ม. มียอดจองแล้ว 90% รองลงมาคือ บริเวณแยกติวานนท์ มีจำนวน 8 โครงการ รวม 3,600 หน่วย ราคาขายเฉลี่ย 5.15 หมื่นบาทต่อตร.ม.มียอดจองแล้ว 70% โดยภาพรวมอัตราการดูดซับ หรือยอดขายเฉลี่ยอยู่ที่ 80% ของจำนวนหน่วยเปิดใหม่ ซึ่งถือว่ามีอัตราการดูดซับที่ดีมาก เป็นไปในทิศทางขยายตัวของเมือง
นี่เป็นเพียงการเริ่มต้นของตลาดคอนโดมิเนียมบนทำเลเกาะแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงบางใหญ่-บางซื่อที่ส่งสัญญาณการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น ตามแนวโน้มการเกิดใหม่ของจำนวนห้องชุดที่เข้าสู่ตลาดต่อเนื่อง
ที่มา: หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
สำหรับภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง บางใหญ่-บางซื่อในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2551 จนถึง ส.ค.2555 นี้ มีคอนโดมิเนียมเกิดใหม่ 22 โครงการรวม 13,800 หน่วย เป็นหน่วยที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ 9 โครงการ รวม 6,350 หน่วย เป็นหน่วยที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง 8 โครงการประมาณ 3,550 หน่วย ส่วนที่เหลืออีก 5 โครงการ ยังไม่ได้เริ่มก่อสร้าง รวมประมาณ3,900 หน่วย ซึ่งคาดว่าจะสร้างแล้วเสร็จทุกโครงการภายในปี 2558
ทั้งนี้ ในภาพรวมดังกล่าวหากดูเฉพาะตัวเลข 9 เดือนแรกของปีนี้ จะพบว่ามีคอนโดมิเนียมเกิดใหม่ตามแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงมากถึง 7,000 หน่วย ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเกินกว่า 50% ของจำนวนหน่วยเกิดใหม่ตลอด5 ปีที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นว่า ยิ่งใกล้กำหนดที่รถไฟฟ้าสายสีม่วงจะเปิดให้บริการ ความร้อนแรงของคอนโดมิเนียมในย่านนี้ยิ่งเพิ่มขึ้นและมีแนวโน้มที่จะเติบโตต่อเนื่องทะลุถึงหมื่นหน่วยก่อนรถไฟฟ้าสายสีม่วงเปิดให้บริการในปี 2558 ด้วย
สัมมา ประเมินว่า จนถึงสิ้นปีนี้คาดว่าในบริเวณนี้จะมีอาคารชุดเปิดใหม่ประมาณ8,000-9,000 หน่วย ส่วนปี 2556 คาดว่าจะเพิ่มเป็น 1 หมื่นหน่วยและในปี 2557 จะมีจำนวนหน่วยเปิดใหม่เพิ่มเป็น 1.2 หมื่นหน่วยโดยจะเห็นว่าในช่วง 5 ปีแรกที่เริ่มมีกระแสข่าวโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ราคาที่ดินเติบโต ตลาดบ้านแนวราบบูมมาก แต่ตลาดคอนโดมิเนียมยังเกิดไม่มากนัก เพราะพฤติกรรมคนซื้อคอนโดมิเนียมต้องการความสะดวกในการเดินทาง ตราบใดที่ยังไม่มีรถไฟฟ้า ผู้บริโภคกลุ่มนี้ก็มองว่าไม่จำเป็นต้องรีบซื้อไว้ล่วงหน้า
ขณะที่นับจากนี้ รถไฟฟ้ามีความคืบหน้าไปมาก การเปิดตัวคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงจะเพิ่มขึ้น เช่นเดิมกับระดับราคาที่จะขยับขึ้นตามความคืบหน้าของงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า โดยปัจจุบันราคาขายห้องชุดในย่านนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 5 หมื่นบาทต่อตร.ม. และเริ่มมีโครงการของผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์เข้าไปเปิดขายในราคาสูงถึง 6 หมื่นบาทต่อตร.ม. ซึ่งคาดว่าในอีก 2 ปีราคาคอนโดมิเนียมย่านนี้จะทะยานขึ้นไปถึง 7-8 หมื่นบาทต่อตร.ม. โดยราคาเมื่อปี2551 เริ่มต้นเพียง 4.1 หมื่นบาทต่อตร.ม.เท่านั้น
ส่วนพื้นที่ในย่านนี้ ที่ผู้ประกอบการนิยมเปิดโครงการคอนโดมิเนียมมากที่สุดในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา คือ บริเวณสี่แยกแคราย ถึงสะพานพระนั่งเกล้า ครอบคลุมถนนรัตนาธิเบศร์ มีโครงการทั้งสิ้น 12 โครงการ รวม 1 หมื่นหน่วยราคาขายเฉลี่ย 4.5 หมื่นบาทต่อตร.ม. มียอดจองแล้ว 90% รองลงมาคือ บริเวณแยกติวานนท์ มีจำนวน 8 โครงการ รวม 3,600 หน่วย ราคาขายเฉลี่ย 5.15 หมื่นบาทต่อตร.ม.มียอดจองแล้ว 70% โดยภาพรวมอัตราการดูดซับ หรือยอดขายเฉลี่ยอยู่ที่ 80% ของจำนวนหน่วยเปิดใหม่ ซึ่งถือว่ามีอัตราการดูดซับที่ดีมาก เป็นไปในทิศทางขยายตัวของเมือง
นี่เป็นเพียงการเริ่มต้นของตลาดคอนโดมิเนียมบนทำเลเกาะแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงบางใหญ่-บางซื่อที่ส่งสัญญาณการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น ตามแนวโน้มการเกิดใหม่ของจำนวนห้องชุดที่เข้าสู่ตลาดต่อเนื่อง
ที่มา: หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์