
ผลสำรวจดัชนีราคาที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล 3 จังหวัด (นนท บุรี ปทุมธานี และสมุทร ปราการ) ในช่วงครึ่งแรกของ ปี 2555 โดยศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ พบว่ามีการ ปรับตัวดีขึ้นในทุกเซกเมนต์
จากการสำรวจโครงการบ้านจัดสรรสร้างใหม่ที่อยู่ระหว่างการขายจำนวน 245 ตัวอย่าง แบบเจาะจงบ้านเดี่ยว 2 ชั้น และทาวน์เฮาส์ 2-3 ชั้น แสดงให้เห็นว่าในช่วงครึ่งแรกของปี 2555 ดัชนีราคาบ้านเดี่ยวในเขตกรุงเทพฯและปริมณ ฑลทั้ง 3 จังหวัดอยู่ที่ 107.28 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียว กันของปีก่อน 3.34% จากเดิม 103.82 โดยราคาบ้านเดี่ยวในเขตกรุงเทพฯปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 3.29% และจังหวัดปริมณฑล 3 จังหวัดราคาขายปรับตัวเพิ่ม ขึ้นประมาณ 3.38%
จากการสำรวจโครงการบ้านจัดสรรสร้างใหม่ที่อยู่ระหว่างการขายจำนวน 245 ตัวอย่าง แบบเจาะจงบ้านเดี่ยว 2 ชั้น และทาวน์เฮาส์ 2-3 ชั้น แสดงให้เห็นว่าในช่วงครึ่งแรกของปี 2555 ดัชนีราคาบ้านเดี่ยวในเขตกรุงเทพฯและปริมณ ฑลทั้ง 3 จังหวัดอยู่ที่ 107.28 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียว กันของปีก่อน 3.34% จากเดิม 103.82 โดยราคาบ้านเดี่ยวในเขตกรุงเทพฯปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 3.29% และจังหวัดปริมณฑล 3 จังหวัดราคาขายปรับตัวเพิ่ม ขึ้นประมาณ 3.38%
ส่วนดัชนีราคาทาวน์เฮาส์ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล 3 จังหวัดอยู่ที่ 111.88 ปรับเพิ่มขึ้นจากช่วง เดียวกันของปีก่อน 4.66% จากเดิม 106.90 โดยราคาทาวน์เฮาส์ในเขตกรุงเทพฯปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียว กันของปีก่อน 4.89% ส่วนใน 3 จังหวัดปริมณฑลราคา ขายปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.51% ดัชนีราคาคอนโดฯปรับเพิ่มขึ้น
ดัชนีห้องชุดทุกระดับราคาในช่วงครึ่งแรกของปี 2555 ภาพรวมมีการปรับเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่ม ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะผู้บริโภคมีความสนใจคอนโดฯกลางเมืองมากขึ้น เนื่องจากต้อง การบ้านหลังที่ 2 หลังจากเกิดอุทกภัยเมื่อปลายปี 2554 โดยห้องชุดระดับราคาขายตั้งแต่ 50,000-79,999 บาทต่อตารางเมตร เพิ่มขึ้นในระดับสม่ำเสมอเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นตลาดระดับกลาง ผู้บริโภคส่วนมากซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงมากกว่าการลงทุน ทำให้มีการปรับราคา ขึ้นตามตลาด ขณะที่ห้องชุดที่มีราคาขายต่อตารางเมตรสูงกว่า 80,000 บาท มีการปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เล็กน้อย
ทั้งนี้ ค่าดัชนีราคาห้องชุดในช่วงครึ่งปีแรกอยู่ที่ 115.56 ปรับเพิ่มขึ้น 6.44% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 109.12 และเมื่อแยกพิจารณาในแต่ละช่วงราคา พบว่าห้อง ชุดที่มีราคาขายต่ำกว่า 50,000 บาทต่อตารางเมตร ปรับเพิ่มขึ้น 5.88% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ห้องชุดที่มีระดับราคาขายตั้งแต่ 50,000-79,999 บาทต่อตารางเมตร มีค่าดัชนีเท่ากับ 115.19 เพิ่มขึ้น 5.22% ส่วนห้องชุดระดับราคา 80,000 บาทต่อตารางเมตร มีค่าดัชนีเท่ากับ 105.02 ปรับเพิ่มขึ้น 1.51% สต็อกอสังหาฯนนทบุรีเหลือบาน
เมื่อพิจารณาประเด็นการเปิดตัวโครงการใน 6 เดือนแรกของปีนี้เฉพาะในจังหวัดนนทบุรี พบว่าผลสำรวจทั้ง 6 อำเภอพบว่าผลสำรวจทั้ง 6 อำเภอคือ อำเภอเมืองนนทบุรี บางบัว ทอง บางใหญ่ บางกรวย ปาก เกร็ด และไทรน้อย มีโครงการบ้านจัดสรรและคอนโดฯเปิดตัวใหม่เพียง 23 โครงการ 8,685 ยูนิต ในจำนวนนี้เป็นบ้านจัด สรร 15 โครงการ 2,355 ยูนิตส่วนใหญ่อยู่ในอำเภอเมืองและบางกรวย โดยมียอดขายแล้ว 16% ถือว่าค่อนข้างต่ำ ส่วนคอน โดฯมีการเปิดตัวใหม่ 8 โครง การ 6,230 ยูนิต อยู่ในพื้นที่อำเภอเมืองและปากเกร็ด ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 56%
นอกจากนี้โครงการบ้านจัดสรรเก่าที่อยู่ระหว่างเปิดขาย (เหลือขายไม่ต่ำกว่า 6 ยูนิต และคอนโดฯที่อยู่ระหว่างเปิดขาย) พบว่ามีทั้งหมด 181 โครง การ ประมาณ 45,900 ยูนิต แบ่งเป็นบ้านจัดสรร 160 โครง การ 34,300 ยูนิต รวมมูลค่าโครงการ 126,300 ล้านบาท มีการ 34,300 ยูนิต รวมมูลค่าโครงการ 126,300 ล้านบาท มียอดขายแล้ว 56% หรือประ มาณ 19,500 ยูนิต รวมมูลค่า 72,600 ล้านบาท จึงถือว่ามีบ้านเหลือขายค่อนข้างมาก โดย เฉพาะอำเภอบางบัวทองและบางใหญ่มีบ้านเหลือขายรวมกันประมาณ 11,550 ยูนิต ส่วนอาคารชุดมีทั้งหมด 21 โครงการ ประมาณ 11,600 ยูนิต รวมมูลค่า 21,100 ล้านบาท มียอดขายแล้ว 58% หรือ 6,800 ยูนิต รวมมูลค่า 11,600 ล้านบาท
สำหรับประเด็นที่น่าพิจาร ณาในพื้นที่จังหวัดนนทบุรีคือ อัตราดูดซับของตลาดบ้านจัด สรรช่วงครึ่งหลังของปี 2554 ที่เกิดอุทกภัยลดลงค่อนข้างต่ำเหลือ 1.6% หรือต้องใช้เวลาประมาณ 60 เดือนกว่าจะขายได้หมด ขณะที่ช่วงครึ่งแรก ของปี 2554 อัตราการดูดซับอยู่ที่ 5% หรือใช้เวลาประมาณ 20 เดือนจึงขายได้หมด ส่วนตลาดคอนโดฯอัตราดูดซับช่วงครึ่งหลังของปี 2554 อยู่ที่ 5% แต่ยังต่ำกว่าช่วงก่อนเกิดอุทก ภัยซึ่งอยู่ที่ 10% ต้องใช้เวลา 10 เดือนจึงขายได้หมด สะท้อน ว่าการเกิดอุทกภัยส่งผลกระ ทบต่อทั้งโครงการแนวราบและแนวสูง
เรืออากาศกรี เดชชัย ประธานเจ้าหน้าที่ด้านปฏิบัติการ บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC กล่าวแสดงความเห็นว่า แม้ว่าช่วงหลังน้ำท่วมตลาดบ้านจัด ช่วงหลังน้ำท่วมตลาดบ้านจัด สรรในนนทบุรียังชะลอตัว แต่ไม่อยากให้ตกใจ เพราะที่ผ่านมานนทบุรีเป็นพระเอกของตลาด บ้านจัดสรรมาตลอด การพัฒนาโครงการใหม่ๆจึงต้องมองทำเลและวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคให้ดี โดยเฉพาะทำเลแจ้งวัฒนะต้องระวังการพัฒนาบ้านเดี่ยวหรือทาวน์เฮาส์ เนื่อง จาก SC เคยทำทาวน์เฮาส์ในทำเลหลังเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ ขายราคาหลังละกว่า 3 ล้านบาท ปรากฏว่าลูกค้ายอมจ่ายเงินเพิ่มเป็น 4-5 ล้านบาท เพื่อไปซื้อบ้านเดี่ยวบนถนนสาย 345
ดังนั้น จึงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดว่าตลาดอสังหาฯในจังหวัดปริมณฑล โดยเฉพาะจังหวัดนนทบุรีจะเริ่มฟื้นตัวเมื่อไร แต่โชคดีที่โครงการเปิดตัวใหม่ยังมีอัตราดูดซับที่ดีหากอยู่ในทำเลที่ดีหรือใกล้โครงการรถไฟฟ้า ส่วน โครงการเก่าที่ยังขายไม่หมด ผู้ประกอบการจะมีกลยุทธ์เด็ดอย่างไรในการดึงความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคกลับมาซื้อโครงการ
ที่มา: โลกวันนี้วันสุข
ดัชนีห้องชุดทุกระดับราคาในช่วงครึ่งแรกของปี 2555 ภาพรวมมีการปรับเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่ม ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะผู้บริโภคมีความสนใจคอนโดฯกลางเมืองมากขึ้น เนื่องจากต้อง การบ้านหลังที่ 2 หลังจากเกิดอุทกภัยเมื่อปลายปี 2554 โดยห้องชุดระดับราคาขายตั้งแต่ 50,000-79,999 บาทต่อตารางเมตร เพิ่มขึ้นในระดับสม่ำเสมอเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นตลาดระดับกลาง ผู้บริโภคส่วนมากซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงมากกว่าการลงทุน ทำให้มีการปรับราคา ขึ้นตามตลาด ขณะที่ห้องชุดที่มีราคาขายต่อตารางเมตรสูงกว่า 80,000 บาท มีการปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เล็กน้อย
ทั้งนี้ ค่าดัชนีราคาห้องชุดในช่วงครึ่งปีแรกอยู่ที่ 115.56 ปรับเพิ่มขึ้น 6.44% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 109.12 และเมื่อแยกพิจารณาในแต่ละช่วงราคา พบว่าห้อง ชุดที่มีราคาขายต่ำกว่า 50,000 บาทต่อตารางเมตร ปรับเพิ่มขึ้น 5.88% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ห้องชุดที่มีระดับราคาขายตั้งแต่ 50,000-79,999 บาทต่อตารางเมตร มีค่าดัชนีเท่ากับ 115.19 เพิ่มขึ้น 5.22% ส่วนห้องชุดระดับราคา 80,000 บาทต่อตารางเมตร มีค่าดัชนีเท่ากับ 105.02 ปรับเพิ่มขึ้น 1.51% สต็อกอสังหาฯนนทบุรีเหลือบาน
เมื่อพิจารณาประเด็นการเปิดตัวโครงการใน 6 เดือนแรกของปีนี้เฉพาะในจังหวัดนนทบุรี พบว่าผลสำรวจทั้ง 6 อำเภอพบว่าผลสำรวจทั้ง 6 อำเภอคือ อำเภอเมืองนนทบุรี บางบัว ทอง บางใหญ่ บางกรวย ปาก เกร็ด และไทรน้อย มีโครงการบ้านจัดสรรและคอนโดฯเปิดตัวใหม่เพียง 23 โครงการ 8,685 ยูนิต ในจำนวนนี้เป็นบ้านจัด สรร 15 โครงการ 2,355 ยูนิตส่วนใหญ่อยู่ในอำเภอเมืองและบางกรวย โดยมียอดขายแล้ว 16% ถือว่าค่อนข้างต่ำ ส่วนคอน โดฯมีการเปิดตัวใหม่ 8 โครง การ 6,230 ยูนิต อยู่ในพื้นที่อำเภอเมืองและปากเกร็ด ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 56%
นอกจากนี้โครงการบ้านจัดสรรเก่าที่อยู่ระหว่างเปิดขาย (เหลือขายไม่ต่ำกว่า 6 ยูนิต และคอนโดฯที่อยู่ระหว่างเปิดขาย) พบว่ามีทั้งหมด 181 โครง การ ประมาณ 45,900 ยูนิต แบ่งเป็นบ้านจัดสรร 160 โครง การ 34,300 ยูนิต รวมมูลค่าโครงการ 126,300 ล้านบาท มีการ 34,300 ยูนิต รวมมูลค่าโครงการ 126,300 ล้านบาท มียอดขายแล้ว 56% หรือประ มาณ 19,500 ยูนิต รวมมูลค่า 72,600 ล้านบาท จึงถือว่ามีบ้านเหลือขายค่อนข้างมาก โดย เฉพาะอำเภอบางบัวทองและบางใหญ่มีบ้านเหลือขายรวมกันประมาณ 11,550 ยูนิต ส่วนอาคารชุดมีทั้งหมด 21 โครงการ ประมาณ 11,600 ยูนิต รวมมูลค่า 21,100 ล้านบาท มียอดขายแล้ว 58% หรือ 6,800 ยูนิต รวมมูลค่า 11,600 ล้านบาท
สำหรับประเด็นที่น่าพิจาร ณาในพื้นที่จังหวัดนนทบุรีคือ อัตราดูดซับของตลาดบ้านจัด สรรช่วงครึ่งหลังของปี 2554 ที่เกิดอุทกภัยลดลงค่อนข้างต่ำเหลือ 1.6% หรือต้องใช้เวลาประมาณ 60 เดือนกว่าจะขายได้หมด ขณะที่ช่วงครึ่งแรก ของปี 2554 อัตราการดูดซับอยู่ที่ 5% หรือใช้เวลาประมาณ 20 เดือนจึงขายได้หมด ส่วนตลาดคอนโดฯอัตราดูดซับช่วงครึ่งหลังของปี 2554 อยู่ที่ 5% แต่ยังต่ำกว่าช่วงก่อนเกิดอุทก ภัยซึ่งอยู่ที่ 10% ต้องใช้เวลา 10 เดือนจึงขายได้หมด สะท้อน ว่าการเกิดอุทกภัยส่งผลกระ ทบต่อทั้งโครงการแนวราบและแนวสูง
เรืออากาศกรี เดชชัย ประธานเจ้าหน้าที่ด้านปฏิบัติการ บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC กล่าวแสดงความเห็นว่า แม้ว่าช่วงหลังน้ำท่วมตลาดบ้านจัด ช่วงหลังน้ำท่วมตลาดบ้านจัด สรรในนนทบุรียังชะลอตัว แต่ไม่อยากให้ตกใจ เพราะที่ผ่านมานนทบุรีเป็นพระเอกของตลาด บ้านจัดสรรมาตลอด การพัฒนาโครงการใหม่ๆจึงต้องมองทำเลและวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคให้ดี โดยเฉพาะทำเลแจ้งวัฒนะต้องระวังการพัฒนาบ้านเดี่ยวหรือทาวน์เฮาส์ เนื่อง จาก SC เคยทำทาวน์เฮาส์ในทำเลหลังเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ ขายราคาหลังละกว่า 3 ล้านบาท ปรากฏว่าลูกค้ายอมจ่ายเงินเพิ่มเป็น 4-5 ล้านบาท เพื่อไปซื้อบ้านเดี่ยวบนถนนสาย 345
ดังนั้น จึงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดว่าตลาดอสังหาฯในจังหวัดปริมณฑล โดยเฉพาะจังหวัดนนทบุรีจะเริ่มฟื้นตัวเมื่อไร แต่โชคดีที่โครงการเปิดตัวใหม่ยังมีอัตราดูดซับที่ดีหากอยู่ในทำเลที่ดีหรือใกล้โครงการรถไฟฟ้า ส่วน โครงการเก่าที่ยังขายไม่หมด ผู้ประกอบการจะมีกลยุทธ์เด็ดอย่างไรในการดึงความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคกลับมาซื้อโครงการ
ที่มา: โลกวันนี้วันสุข