สมาคมนายหน้าอสังหาฯ ชี้บ้านมือสองโซนซีบีดีรับอานิสงส์ราคาที่ดินพุ่ง ย่านสาทร สีลม แพงเว่อร์ ปัจจุบันซื้อขายตารางวาละ 1 ล้านบาท เข้าซอยลึกราคาเฉียดล้านบาท คาดปีหน้าราคาขยับเพิ่ม 10-15% แย้มบ้านมือสองโซนส่วนต่อขยายลาซาล-แบริ่งน่าจับตามอง เหตุเส้นทางรถไฟฟ้าเอื้อ
น.พ.สมศักดิ์ มุนีพีระกุล นายกสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ตลาดที่อยู่อาศัยบ้านมือสองในปัจจุบันมีทิศทางการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ปลายไตรมาส 2 เป็นต้นมา เนื่องจากประชาชนมีความมั่นใจในมาตรการของรัฐบาลเกี่ยวกับการป้องกันน้ำท่วม ประกอบกับบ้านใหม่มีราคาเพิ่มสูงขึ้นจากราคาที่ดินมีการขยับตัว และปัญหาแรงงานขาดแคลน ซึ่งอาจส่งผลให้ผู้ประกอบการเกิดความล่าช้าในการส่งมอบงาน ผู้บริโภคจึงหันไปมองที่อยู่อาศัยมือสองมากขึ้น โดยพื้นที่ที่มีการเคลื่อนไหวด้านราคาที่ชัดเจนที่สุดคือ ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าเดิมและส่วนต่อขยายอย่างบริเวณ ลาซาล-แบริ่ง รวมถึงโซนซีบีดีแถว สาทร , สีลม ฯลฯ
"ปัจจุบันราคาขายที่อยู่อาศัยมือสองมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแม้ว่าบ้านมือสองจะอยู่ในซอยลึก 100-200 เมตร ก็มีการซื้อขายกันในราคาสูงถึง 5 หมื่นบาท-1 แสนบาทต่อตารางวา จากเดิมขายกันอยู่ที่ 2-5 หมื่นบาทต่อตารางวา ซึ่งต้องยอมรับว่าเส้นทางรถไฟฟ้าช่วยดันราคาที่อยู่อาศัยในย่านดังกล่าวให้สูงขึ้น ในขณะที่บ้านมือสองโซนซีบีดีอย่าง สาทร , สีลม ปัจจุบันมีการซื้อขายกันในราคา 1 ล้านบาทต่อตารางวา โดยคาดว่าปีหน้าราคาจะมีการขยับเพิ่มขึ้นสูงถึง 1.1-1.2 ล้านบาทต่อตารางวา ตามการขึ้นราคาของบ้านใหม่"
น.พ.สมศักดิ์ กล่าวย้ำว่าแม้ว่าตลาดบ้านมือสองจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อเทียบกับบ้านใหม่แล้ว บ้านมือสองก็ยังมีความเสียเปรียบในหลายๆ ด้าน เช่น ความไม่เสมอภาคของมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐ เช่นเดียวกับตลาดรถยนต์ที่รัฐบาลสนับสนุนเฉพาะรถยนต์ใหม่ ในขณะที่ตลาดรถยนต์มือสองก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน อีกทั้งมาตรการช่วยเหลือเรื่องอสังหาริมทรัพย์ที่ยังไม่ครอบคลุมบ้านมือสอง ทั้งที่มาตรการบ้านหลังแรก มาตรการดอกเบี้ย 0% นาน 3 ปี ไม่ได้มีส่วนกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อ ในส่วนของอสังหาริมทรัพย์มือสองนั้น หากได้รับการช่วยเหลืออย่างเสมอภาคกันเชื่อว่าจะทำให้ตลาดดีกว่านี้อย่างแน่นอน เนื่องจากส่วนใหญ่มีความได้เปรียบด้านทำเลที่ตั้ง และมีความหลากหลายกว่าบ้านใหม่ แต่ยังไม่ได้รับการสนับสนุนตลาดจึงยังไม่ดีเท่าที่ควร
ทั้งนี้ นายกสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ได้แนะผู้ประกอบการธุรกิจบ้านมือสองว่า จะต้องให้ความสำคัญ และใส่ใจในเรื่องการตลาดเป็นพิเศษ รวมทั้งหากลยุทธ์ใหม่ๆ และต้องติดตามผลการทำการตลาดในแนวทางต่างๆ ให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุดเพื่อให้คุ้มค่ากับเม็ดเงินที่ลงทุนสำหรับการตลาด หากกลยุทธ์ใดไม่ได้ผลต้องรีบปรับเปลี่ยน หรือแก้ไขทันที เพื่อประหยัดงบประมาณ และต้องทำความเข้าใจปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่อผลประกอบการ คือ เรื่องรายรับ และรายจ่าย ซึ่งจะทำให้แต่ละบริษัทรับรู้เรื่องผลกำไร หรือขาดทุนนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม บ้านมือสองในตลาดรวมทั่วประเทศแสนหน่วยสภาพกลางเก่ากลางใหม่และหากรวมบ้านมือสองทั้งในกรมบังคับคดี สถาบันการเงินต่างๆ เฉลี่ย 3-4 แสนหน่วยที่รอการขาย
ที่มา :หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 32 ฉบับที่ 2,794 วันที่ 22-24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
"ปัจจุบันราคาขายที่อยู่อาศัยมือสองมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแม้ว่าบ้านมือสองจะอยู่ในซอยลึก 100-200 เมตร ก็มีการซื้อขายกันในราคาสูงถึง 5 หมื่นบาท-1 แสนบาทต่อตารางวา จากเดิมขายกันอยู่ที่ 2-5 หมื่นบาทต่อตารางวา ซึ่งต้องยอมรับว่าเส้นทางรถไฟฟ้าช่วยดันราคาที่อยู่อาศัยในย่านดังกล่าวให้สูงขึ้น ในขณะที่บ้านมือสองโซนซีบีดีอย่าง สาทร , สีลม ปัจจุบันมีการซื้อขายกันในราคา 1 ล้านบาทต่อตารางวา โดยคาดว่าปีหน้าราคาจะมีการขยับเพิ่มขึ้นสูงถึง 1.1-1.2 ล้านบาทต่อตารางวา ตามการขึ้นราคาของบ้านใหม่"
น.พ.สมศักดิ์ กล่าวย้ำว่าแม้ว่าตลาดบ้านมือสองจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อเทียบกับบ้านใหม่แล้ว บ้านมือสองก็ยังมีความเสียเปรียบในหลายๆ ด้าน เช่น ความไม่เสมอภาคของมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐ เช่นเดียวกับตลาดรถยนต์ที่รัฐบาลสนับสนุนเฉพาะรถยนต์ใหม่ ในขณะที่ตลาดรถยนต์มือสองก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน อีกทั้งมาตรการช่วยเหลือเรื่องอสังหาริมทรัพย์ที่ยังไม่ครอบคลุมบ้านมือสอง ทั้งที่มาตรการบ้านหลังแรก มาตรการดอกเบี้ย 0% นาน 3 ปี ไม่ได้มีส่วนกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อ ในส่วนของอสังหาริมทรัพย์มือสองนั้น หากได้รับการช่วยเหลืออย่างเสมอภาคกันเชื่อว่าจะทำให้ตลาดดีกว่านี้อย่างแน่นอน เนื่องจากส่วนใหญ่มีความได้เปรียบด้านทำเลที่ตั้ง และมีความหลากหลายกว่าบ้านใหม่ แต่ยังไม่ได้รับการสนับสนุนตลาดจึงยังไม่ดีเท่าที่ควร
ทั้งนี้ นายกสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ได้แนะผู้ประกอบการธุรกิจบ้านมือสองว่า จะต้องให้ความสำคัญ และใส่ใจในเรื่องการตลาดเป็นพิเศษ รวมทั้งหากลยุทธ์ใหม่ๆ และต้องติดตามผลการทำการตลาดในแนวทางต่างๆ ให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุดเพื่อให้คุ้มค่ากับเม็ดเงินที่ลงทุนสำหรับการตลาด หากกลยุทธ์ใดไม่ได้ผลต้องรีบปรับเปลี่ยน หรือแก้ไขทันที เพื่อประหยัดงบประมาณ และต้องทำความเข้าใจปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่อผลประกอบการ คือ เรื่องรายรับ และรายจ่าย ซึ่งจะทำให้แต่ละบริษัทรับรู้เรื่องผลกำไร หรือขาดทุนนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม บ้านมือสองในตลาดรวมทั่วประเทศแสนหน่วยสภาพกลางเก่ากลางใหม่และหากรวมบ้านมือสองทั้งในกรมบังคับคดี สถาบันการเงินต่างๆ เฉลี่ย 3-4 แสนหน่วยที่รอการขาย
ที่มา :หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 32 ฉบับที่ 2,794 วันที่ 22-24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555