''พลัส'' เผยตลาดอสังหาฯ แนวราบ ไตรมาส 2 คึกคัก บ้านเดี่ยวเริ่มกลับมา พบย่านตะวันตก ติดโผ ''ทำเลสุดฮอต'' จากการขยายเส้นทางรถไฟฟ้า และเป็นทางเชื่อมกับประเทศเพื่อนบ้านรองรับเออีซี ชี้ผังเมืองกรุงเทพฯ ฉบับใหม่ จะส่งผลให้เกิดการกระจายความเจริญออกนอกเมือง...
นายอนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายบริหารสินทรัพย์ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด คาดว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้จะเริ่มเปลี่ยนทิศทางการเสนอขายไปอยู่ในโซนทางทิศตะวันตกของกรุงเทพฯ มากขึ้น ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ในโซนเพชรเกษม-กัลปพฤกษ์ บางใหญ่-รัตนาธิเบศร์ บางบัวทอง-ไทรน้อย และบรมราชชนนี-พุทธมณฑล ตามการขยายตัวของเส้นทางรถไฟฟ้าในอนาคต และยังเป็นเส้นทางเชื่อมไปยังประเทศเพื่อนบ้านที่กำลังมีการลงทุนเมกะโปรเจกต์ ภายใต้ยุทธศาสตร์ทางการค้าระหว่างประเทศที่สอดรับการเปิดประชาคมอาเซียน (AEC) ที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี 2558 คาดว่าจะมีส่วนส่งเสริมสนับสนุนให้พื้นที่นี้ได้รับความสนใจ ทำให้ความต้องการที่อยู่อาศัยในพื้นที่มีจำนวนมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดบ้านเดี่ยวจะเริ่มกลับมาจับกลุ่มตลาดบน ราคา 10-20 ล้านบาทในโซนเพชรเกษม-กัลปพฤกษ์ เพิ่มขึ้น ส่วนตลาดระดับกลางจะเน้นในโซนบางใหญ่-รัตนาธิเบศร์ และโซนบรมราชชนนี-พุทธมณฑล
นายอนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายบริหารสินทรัพย์ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด คาดว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้จะเริ่มเปลี่ยนทิศทางการเสนอขายไปอยู่ในโซนทางทิศตะวันตกของกรุงเทพฯ มากขึ้น ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ในโซนเพชรเกษม-กัลปพฤกษ์ บางใหญ่-รัตนาธิเบศร์ บางบัวทอง-ไทรน้อย และบรมราชชนนี-พุทธมณฑล ตามการขยายตัวของเส้นทางรถไฟฟ้าในอนาคต และยังเป็นเส้นทางเชื่อมไปยังประเทศเพื่อนบ้านที่กำลังมีการลงทุนเมกะโปรเจกต์ ภายใต้ยุทธศาสตร์ทางการค้าระหว่างประเทศที่สอดรับการเปิดประชาคมอาเซียน (AEC) ที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี 2558 คาดว่าจะมีส่วนส่งเสริมสนับสนุนให้พื้นที่นี้ได้รับความสนใจ ทำให้ความต้องการที่อยู่อาศัยในพื้นที่มีจำนวนมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดบ้านเดี่ยวจะเริ่มกลับมาจับกลุ่มตลาดบน ราคา 10-20 ล้านบาทในโซนเพชรเกษม-กัลปพฤกษ์ เพิ่มขึ้น ส่วนตลาดระดับกลางจะเน้นในโซนบางใหญ่-รัตนาธิเบศร์ และโซนบรมราชชนนี-พุทธมณฑล
สำหรับตลาดทาวน์เฮาส์ยังเน้นเสนอขายในกลุ่มราคา 1-3 ล้านบาท และอาจเริ่มจับกลุ่มทาวน์เฮาส์ในพื้นที่ทางทิศใต้ของกรุงเทพฯ มากขึ้น เช่น ในโซนรอบนอกวงแหวน และเอกชัย-พระราม 2 ในขณะเดียวกันพื้นที่ทางทิศเหนือแม้อาจถูกลดทอนส่วนแบ่งการเสนอขายลง ทั้งตลาดบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ แต่ยังคงปริมาณไว้เช่นเดิม สำหรับราคาเสนอขายโครงการใหม่ในอนาคตคาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 7-10% เนื่องจากราคาวัสดุก่อสร้างปรับตัวสูงขึ้น ภายหลังผ่านช่วงการตรึงราคาเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ผู้ประกอบการยังต้องเตรียมรับมือกับสถานการณ์น้ำในอนาคต และปัญหาจากการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำของแรงงานในภาคอสังหาฯ ทำให้ต้นทุนการดำเนินการเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ดังนั้น มีแนวโน้มที่ผู้ประกอบการจะเริ่มกลับมาจับกลุ่มบ้านเดี่ยวระดับบนเพิ่มขึ้น เช่น ในกลุ่ม 10-20 ล้านบาท และกลุ่ม 7-10 ล้านบาท ส่วนตลาดทาวน์เฮาส์ คาดว่าจะขยายในกลุ่มราคา 3-5 ล้านบาทมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงที่ไม่แน่นอนจากปัจจัยทางเศรษฐกิจและสังคม
ด้านพฤติกรรมผู้บริโภคในตลาดแนวราบและปัจจัยที่มีผลต่อการซื้อบ้านใหม่และบ้านมือสองในปีนี้และปีหน้านั้น พฤติกรรมผู้บริโภคในปีนี้คาดว่าจะไม่เปลี่ยนไปจากเดิม แม้ว่าในช่วงปลายปี 2554 กรุงเทพมหานครจะเกิดมหาอุทกภัยครั้งใหญ่ โดยเฉพาะทำเล ในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิม เพราะผู้บริโภคยังยึดติดกับสถานที่เดิม และความสะดวกในการเดินทางปัจจุบัน แม้พื้นที่นั้นจะได้รับผลกระทบจากอุทกภัยก็ตาม ส่วนบ้านมือสอง ผู้บริโภคต่างให้ความสำคัญและลงรายละเอียดมากขึ้นกว่าในอดีต โดยเฉพาะพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย ซึ่งจะพิจารณาถึงแนวทางการป้องกัน
นอกจากนี้ มาตรการทางด้านอสังหาริมทรัพย์ เช่น การเลื่อนระยะเวลาการกำหนด LTV ไม่เกิน 95% สำหรับตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบจากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายสถาบันการเงิน (กนส.) คาดว่าจะส่งผลให้ตลาดแนวราบเพิ่มขึ้นได้ในปีนี้ รวมถึงแผนพัฒนาฟลัดเวย์ (Floodway) ในถนน 2 เส้นทางทั้งฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก หากมีความชัดเจนมากขึ้นจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ อีกทั้งผังเมืองกรุงเทพมหานครฉบับใหม่ที่จะเข้ามาแทนผังเมืองเดิมที่สิ้นสุดลงในวันที่ 15 พ.ค.2555 จะส่งผลให้เกิดการกระจายความเจริญออกนอกเมืองอีกด้วย
ที่มา: ไทยรัฐ
ด้านพฤติกรรมผู้บริโภคในตลาดแนวราบและปัจจัยที่มีผลต่อการซื้อบ้านใหม่และบ้านมือสองในปีนี้และปีหน้านั้น พฤติกรรมผู้บริโภคในปีนี้คาดว่าจะไม่เปลี่ยนไปจากเดิม แม้ว่าในช่วงปลายปี 2554 กรุงเทพมหานครจะเกิดมหาอุทกภัยครั้งใหญ่ โดยเฉพาะทำเล ในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิม เพราะผู้บริโภคยังยึดติดกับสถานที่เดิม และความสะดวกในการเดินทางปัจจุบัน แม้พื้นที่นั้นจะได้รับผลกระทบจากอุทกภัยก็ตาม ส่วนบ้านมือสอง ผู้บริโภคต่างให้ความสำคัญและลงรายละเอียดมากขึ้นกว่าในอดีต โดยเฉพาะพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย ซึ่งจะพิจารณาถึงแนวทางการป้องกัน
นอกจากนี้ มาตรการทางด้านอสังหาริมทรัพย์ เช่น การเลื่อนระยะเวลาการกำหนด LTV ไม่เกิน 95% สำหรับตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบจากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายสถาบันการเงิน (กนส.) คาดว่าจะส่งผลให้ตลาดแนวราบเพิ่มขึ้นได้ในปีนี้ รวมถึงแผนพัฒนาฟลัดเวย์ (Floodway) ในถนน 2 เส้นทางทั้งฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก หากมีความชัดเจนมากขึ้นจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ อีกทั้งผังเมืองกรุงเทพมหานครฉบับใหม่ที่จะเข้ามาแทนผังเมืองเดิมที่สิ้นสุดลงในวันที่ 15 พ.ค.2555 จะส่งผลให้เกิดการกระจายความเจริญออกนอกเมืองอีกด้วย
ที่มา: ไทยรัฐ