จากผลการสำรวจการเติบโตของตลาดคอนโดมิเนียมย่านสถานศึกษาของ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ พบว่า ผู้ปกครองหันมานิยมซื้อให้ลูกหลานอาศัยระหว่างศึกษาเพิ่มขึ้น ซึ่งครองส่วนแบ่งทางการตลาด ณ ปัจจุบัน ประมาณ 15% ทั้งยังมีกลุ่มนักลงทุนที่หันมาให้ความสำคัญเพิ่มขึ้นเพราะมองเห็นศักยภาพการลงทุนในระยะยาว
โดยในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา คอนโดมิเนียมในย่านสถานศึกษามีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนและมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นในอนาคตเพื่อดูดซับกำลังซื้อที่มากขึ้นด้วยเช่นกัน โดยกลุ่มผู้ซื้อหลักยังคงเป็นกลุ่มผู้ซื้อเพื่อที่อยู่อาศัย เพราะความครบครันในเรื่องระบบสาธารณูปโภคเพราะสถานศึกษาถือเป็นแหล่งชุมชนขนาดใหญ่ รองลงมาคือ กลุ่มผู้ซื้อที่มีทุนระยะยาวและหวังจะซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อลงทุนปล่อยเช่าให้กลุ่มนักเรียนนักศึกษาตลอดจน บุคลากรในสถาบันการศึกษา เพื่อตัดปัญหาด้านการเดินทาง และที่สำคัญคือกลุ่มลูกค้ากลุ่มใหม่ในส่วนของผู้ปกครองที่เล็งเห็นความคุ้มค่ายิ่งกว่าเมื่อเทียบกับการเช่าที่อยู่อาศัยให้ลูก และหากลูกสำเร็จการศึกษาก็สามารถนำห้องชุดดังกล่าวปล่อยเช่าให้แก่นักศึกษารุ่นใหม่ๆ ต่อไปได้ ซึ่งมีให้เห็นเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยปัจจัยแรกที่ทำให้ผู้ปกครองตัดสินใจซื้อ คือ การประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางและการอาศัยในคอนโดมิเนียมมีความปลอดภัยสูงกว่า ทั้งยังมีส่วนสันทนาการที่มากกว่าหอพักโดยทั่วไป
โดยในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา คอนโดมิเนียมในย่านสถานศึกษามีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนและมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นในอนาคตเพื่อดูดซับกำลังซื้อที่มากขึ้นด้วยเช่นกัน โดยกลุ่มผู้ซื้อหลักยังคงเป็นกลุ่มผู้ซื้อเพื่อที่อยู่อาศัย เพราะความครบครันในเรื่องระบบสาธารณูปโภคเพราะสถานศึกษาถือเป็นแหล่งชุมชนขนาดใหญ่ รองลงมาคือ กลุ่มผู้ซื้อที่มีทุนระยะยาวและหวังจะซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อลงทุนปล่อยเช่าให้กลุ่มนักเรียนนักศึกษาตลอดจน บุคลากรในสถาบันการศึกษา เพื่อตัดปัญหาด้านการเดินทาง และที่สำคัญคือกลุ่มลูกค้ากลุ่มใหม่ในส่วนของผู้ปกครองที่เล็งเห็นความคุ้มค่ายิ่งกว่าเมื่อเทียบกับการเช่าที่อยู่อาศัยให้ลูก และหากลูกสำเร็จการศึกษาก็สามารถนำห้องชุดดังกล่าวปล่อยเช่าให้แก่นักศึกษารุ่นใหม่ๆ ต่อไปได้ ซึ่งมีให้เห็นเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยปัจจัยแรกที่ทำให้ผู้ปกครองตัดสินใจซื้อ คือ การประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางและการอาศัยในคอนโดมิเนียมมีความปลอดภัยสูงกว่า ทั้งยังมีส่วนสันทนาการที่มากกว่าหอพักโดยทั่วไป
กระแสนิยมในการซื้อคอนโดมิเนียมในย่านสถานศึกษาไม่ได้มีเฉพาะในส่วนพื้นที่กรุงเทพฯ เท่านั้น แต่ได้กระจายไปตามจังหวัดต่างๆ ที่มีสถาบันการศึกษาขนาดใหญ่ตั้งอยู่อาทิ ชลบุรี เชียงใหม่ ขอนแก่น สงขลา พิษณุโลก ซึ่งถือเป็นสัญญาณแห่งการเติบโตของตลาดคอนโดมิเนียมในมิติใหม่ และต้องจับตากระแสดังกล่าว เพราะมั่นใจว่าอนาคตจะเป็นกลุ่มคอนโดนฯ หลักที่จะพัฒนาเพื่อเพิ่มการออกแบบที่รองรับกลุ่มนักศึกษาใหม่เพิ่มขึ้น และจะเป็นตลาดที่กลุ่มทุนอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่หันมาให้ความสนใจเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
จากข้อมูลของฝ่ายวิจัย พบว่า ปริมาณของกลุ่มพ่อแม่ที่ต้องการซื้อคอนโดมิเนียมให้บุตรหลานอาศัยระหว่างศึกษามีประมาณ 15% ของกลุ่มกำลังซื้อโดยรวม ซึ่งมีทั้งเป็นคนกรุงเทพฯ แต่บ้านอยู่นอกเมือง และคนที่มีภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัดส่วนใหญ่มีงบประมาณสำหรับห้องขนาดเล็ก สตูดิโอ หรือ 1 ห้องนอน ราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท แต่เน้นทำเลที่ใกล้ เดินทางสะดวกยิ่งติดสถานีรถไฟฟ้าเลยยิ่งดี
แต่นอกเหนือจากกลุ่มของนักเรียนหรือนักศึกษาที่มองหาคอนโดทำเลใกล้สถานศึกษาแล้ว ยังมีความต้องการของตลาดอีกกลุ่มหนึ่งที่จำเป็นต้องพักอาศัยใกล้สถานที่เรียนคือ กลุ่มคนทำงานในโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย ซึ่งปัจจุบันจะมีกำลังซื้อจากอาจารย์สำหรับโรงเรียนนานาชาติหรืออาจารย์พิเศษที่มหาวิทยาลัยที่ต้องมองหาที่พักอาศัยเองให้ใกล้กับสถานศึกษาเน้นเดินทางสะดวก โดยส่วนใหญ่งบประมาณในการเช่าของบุคลากรกลุ่มนี้ จะอยู่ระหว่าง 15,000 - 35,000 บาทต่อเดือน ซึ่งในส่วนนี้จะครองส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 10% ด้านตลาดเช่า ส่วนใหญ่เป็นบุคลากรที่ไม่มีครอบครัว และไม่เน้นในเรื่องของห้องขนาดใหญ่นักเพราะต้องการใช้พักอาศัยตอนเย็นเท่านั้น และไม่ต้องการที่จอดรถมักจะเดินทางด้วยรถไฟฟ้าหรือรถโดยสารสาธารณะเพื่อความสะดวก คนในกลุ่มนี้จะมองหาทำเลที่ใกล้รถไฟฟ้า และใกล้แหล่งความเจริญ
ที่มา: หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
จากข้อมูลของฝ่ายวิจัย พบว่า ปริมาณของกลุ่มพ่อแม่ที่ต้องการซื้อคอนโดมิเนียมให้บุตรหลานอาศัยระหว่างศึกษามีประมาณ 15% ของกลุ่มกำลังซื้อโดยรวม ซึ่งมีทั้งเป็นคนกรุงเทพฯ แต่บ้านอยู่นอกเมือง และคนที่มีภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัดส่วนใหญ่มีงบประมาณสำหรับห้องขนาดเล็ก สตูดิโอ หรือ 1 ห้องนอน ราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท แต่เน้นทำเลที่ใกล้ เดินทางสะดวกยิ่งติดสถานีรถไฟฟ้าเลยยิ่งดี
แต่นอกเหนือจากกลุ่มของนักเรียนหรือนักศึกษาที่มองหาคอนโดทำเลใกล้สถานศึกษาแล้ว ยังมีความต้องการของตลาดอีกกลุ่มหนึ่งที่จำเป็นต้องพักอาศัยใกล้สถานที่เรียนคือ กลุ่มคนทำงานในโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย ซึ่งปัจจุบันจะมีกำลังซื้อจากอาจารย์สำหรับโรงเรียนนานาชาติหรืออาจารย์พิเศษที่มหาวิทยาลัยที่ต้องมองหาที่พักอาศัยเองให้ใกล้กับสถานศึกษาเน้นเดินทางสะดวก โดยส่วนใหญ่งบประมาณในการเช่าของบุคลากรกลุ่มนี้ จะอยู่ระหว่าง 15,000 - 35,000 บาทต่อเดือน ซึ่งในส่วนนี้จะครองส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 10% ด้านตลาดเช่า ส่วนใหญ่เป็นบุคลากรที่ไม่มีครอบครัว และไม่เน้นในเรื่องของห้องขนาดใหญ่นักเพราะต้องการใช้พักอาศัยตอนเย็นเท่านั้น และไม่ต้องการที่จอดรถมักจะเดินทางด้วยรถไฟฟ้าหรือรถโดยสารสาธารณะเพื่อความสะดวก คนในกลุ่มนี้จะมองหาทำเลที่ใกล้รถไฟฟ้า และใกล้แหล่งความเจริญ
ที่มา: หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์