การท่าเรือฯชงคมนาคมดันแผนพัฒนาท่าเรือพื้นที่กว่า 2,000 ไร่ย่านคลองเตย นำร่องเฟส 1 บนพื้นที่ 17 ไร่มูลค่าการลงทุน 4,000 ล้านบาท รูปแบบอาคารสำนักงานให้เช่า หวังสร้างมูลค่าเพิ่มที่ดินในอนาคต เตรียมพร้อมต่อการเปิดเชิญชวนเอกชนร่วมลงทุนแบบ BOT ระยะยาว 30 ปี รอ "ชัจจ์" ไฟเขียวเสนอสคร. คาดปลายปีนี้ประกาศเชิญชวนนักพัฒนาที่ดินได้แน่
นายเฉลิมชัย มีคุณเอี่ยม ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย(กทท.) เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าได้นำเสนอแผนการพัฒนาพื้นที่การท่าเรือแห่งประเทศไทยตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.)ให้คำแนะนำ โดยได้ส่งเรื่องดังกล่าวให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาต่อไปแล้ว ขณะนี้จึงรอเพียงพล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ผู้ควบคุมดูแลกทท.จะนำเสนอไปยังนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่ออนุมัติให้ดำเนินการ หลังจากนั้นจะนำไปสู่การประกาศขายซองประกวดราคาเพื่อหาเอกชนร่วมลงทุนพัฒนาโครงการต่อไป
"ได้มีการหารือกับสคร.แล้วเห็นว่าหากเสนอในภาพรวมทั้ง 4 แปลงจะเกิดความล่าช้าเพราะมีปัจจัยเกี่ยวข้องมากมาย เช่น สิ่งแวดล้อม ดังนั้นจึงจะนำเสนอในแปลงที่ 1 หรือเฟสแรกก่อนที่มีความพร้อมมากที่สุด ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด รูปแบบอาคารสำนักงานให้เช่า เมื่อดำเนินการสำเร็จจะสร้างมูลค่าเพิ่มที่ดินแปลงดังกล่าวสูงขึ้นจากการเป็นเพียงลานจอดรถเท่านั้น โดยเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนร่วมลงทุนในรูปแบบ BOT มีมูลค่าลงทุนประมาณ 4,000 ล้านบาท เป็นการพัฒนาจากการได้รับสัมปทานเพื่อนำไปให้เช่าพัฒนาต่อไป ส่วนรายได้จะเกิดจากค่าเช่าระยะยาว 30 ปี และค่าหน้าดินที่จัดเก็บแต่ละแปลงตามขนาดพื้นที่ ซึ่งในส่วนนี้คณะกรรมการพิจารณาตามพ.ร.บ.ร่วมทุนตามมาตรา 13 จะพิจารณารายละเอียดต่อไป"
ด้านนางลาวัลย์ อังคีรส ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สายพัฒนาธุรกิจ กทท.กล่าวว่าได้มองภาพในมุมที่ต้องการพัฒนาพื้นที่ที่กำหนดไว้ในเฟสที่ 1 จากจำนวนทั้งหมด 223 ไร่นอกเขตพื้นที่เท่านั้นเพราะต้องดำเนินการตามพ.ร.บ.ร่วมทุน รูปแบบBOT ระยะยาว 30 ปี โดยเมื่อได้รับไฟเขียวก็จะได้เร่งหาผู้สนใจมาลงทุนพัฒนาพื้นที่ต่อไป คาดว่าจะสามารถเปิดประกาศเชิญชวนได้ในช่วงปลายปีนี้และน่าจะสนองความต้องการของนักพัฒนาที่ดินชั้นนำทั่วไปได้อย่างโดนใจเพราะปัจจุบันความต้องการมีมากขึ้นอย่างต่อเนื่องจึงต้องเร่งดำเนินการให้เพียงพอเนื่องจากทำเลดังกล่าวอยู่ใจกลางการคมนาคมขนส่งจึงสามารถอำนวยความสะดวกได้เป็นอย่างดี
สำหรับแผนการพัฒนาพื้นที่จำนวน 223 จะเลือกพัฒนาเฟสแรกในแปลง 1 จากทั้ง 4 แปลงที่กทท.ต้องการเร่งพัฒนาประกอบด้วย แปลงที่ 1 พื้นที่ว่างบริเวณอาคารที่ทำการ กทท. จำนวน 17 ไร่ โดยจะมีการบริหารงานเป็นลักษณะอาคารศูนย์ธุรกิจพาณิชยนาวี และจัดตั้งเป็นสถาบันการศึกษาศูนย์ฝึกอบรมด้านพาณิชยนาวี โลจิสติกส์ แปลงที่ 2 บริเวณอาคารทวิช สำนักแพทย์และอนามัย จำนวน 54 ไร่ จะบริหารเป็นศูนย์โลจิสติกส์ แปลงที่ 3บริเวณตลาดคลองเตย ถึงอู่รถ ขสมก. จำนวน 137 ไร่ จะบริหารเป็นศูนย์การค้า และแปลงที่ 4 บริเวณคลังสินค้าผ่านแดน จำนวน 15 ไร่ จะใช้เป็นอาคารสำนักงาน
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,714 16-18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555
นายเฉลิมชัย มีคุณเอี่ยม ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย(กทท.) เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าได้นำเสนอแผนการพัฒนาพื้นที่การท่าเรือแห่งประเทศไทยตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.)ให้คำแนะนำ โดยได้ส่งเรื่องดังกล่าวให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาต่อไปแล้ว ขณะนี้จึงรอเพียงพล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ผู้ควบคุมดูแลกทท.จะนำเสนอไปยังนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่ออนุมัติให้ดำเนินการ หลังจากนั้นจะนำไปสู่การประกาศขายซองประกวดราคาเพื่อหาเอกชนร่วมลงทุนพัฒนาโครงการต่อไป
"ได้มีการหารือกับสคร.แล้วเห็นว่าหากเสนอในภาพรวมทั้ง 4 แปลงจะเกิดความล่าช้าเพราะมีปัจจัยเกี่ยวข้องมากมาย เช่น สิ่งแวดล้อม ดังนั้นจึงจะนำเสนอในแปลงที่ 1 หรือเฟสแรกก่อนที่มีความพร้อมมากที่สุด ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด รูปแบบอาคารสำนักงานให้เช่า เมื่อดำเนินการสำเร็จจะสร้างมูลค่าเพิ่มที่ดินแปลงดังกล่าวสูงขึ้นจากการเป็นเพียงลานจอดรถเท่านั้น โดยเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนร่วมลงทุนในรูปแบบ BOT มีมูลค่าลงทุนประมาณ 4,000 ล้านบาท เป็นการพัฒนาจากการได้รับสัมปทานเพื่อนำไปให้เช่าพัฒนาต่อไป ส่วนรายได้จะเกิดจากค่าเช่าระยะยาว 30 ปี และค่าหน้าดินที่จัดเก็บแต่ละแปลงตามขนาดพื้นที่ ซึ่งในส่วนนี้คณะกรรมการพิจารณาตามพ.ร.บ.ร่วมทุนตามมาตรา 13 จะพิจารณารายละเอียดต่อไป"
ด้านนางลาวัลย์ อังคีรส ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สายพัฒนาธุรกิจ กทท.กล่าวว่าได้มองภาพในมุมที่ต้องการพัฒนาพื้นที่ที่กำหนดไว้ในเฟสที่ 1 จากจำนวนทั้งหมด 223 ไร่นอกเขตพื้นที่เท่านั้นเพราะต้องดำเนินการตามพ.ร.บ.ร่วมทุน รูปแบบBOT ระยะยาว 30 ปี โดยเมื่อได้รับไฟเขียวก็จะได้เร่งหาผู้สนใจมาลงทุนพัฒนาพื้นที่ต่อไป คาดว่าจะสามารถเปิดประกาศเชิญชวนได้ในช่วงปลายปีนี้และน่าจะสนองความต้องการของนักพัฒนาที่ดินชั้นนำทั่วไปได้อย่างโดนใจเพราะปัจจุบันความต้องการมีมากขึ้นอย่างต่อเนื่องจึงต้องเร่งดำเนินการให้เพียงพอเนื่องจากทำเลดังกล่าวอยู่ใจกลางการคมนาคมขนส่งจึงสามารถอำนวยความสะดวกได้เป็นอย่างดี
สำหรับแผนการพัฒนาพื้นที่จำนวน 223 จะเลือกพัฒนาเฟสแรกในแปลง 1 จากทั้ง 4 แปลงที่กทท.ต้องการเร่งพัฒนาประกอบด้วย แปลงที่ 1 พื้นที่ว่างบริเวณอาคารที่ทำการ กทท. จำนวน 17 ไร่ โดยจะมีการบริหารงานเป็นลักษณะอาคารศูนย์ธุรกิจพาณิชยนาวี และจัดตั้งเป็นสถาบันการศึกษาศูนย์ฝึกอบรมด้านพาณิชยนาวี โลจิสติกส์ แปลงที่ 2 บริเวณอาคารทวิช สำนักแพทย์และอนามัย จำนวน 54 ไร่ จะบริหารเป็นศูนย์โลจิสติกส์ แปลงที่ 3บริเวณตลาดคลองเตย ถึงอู่รถ ขสมก. จำนวน 137 ไร่ จะบริหารเป็นศูนย์การค้า และแปลงที่ 4 บริเวณคลังสินค้าผ่านแดน จำนวน 15 ไร่ จะใช้เป็นอาคารสำนักงาน
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,714 16-18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555