2 บริษัทอสังหาฯรายเล็กไม่หวั่นกระแสตลาดต่างจังหวัดซบ เดินหน้าเปิดโครงการใหม่ต่อเนื่อง พร้อมขยายธุรกิจครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ เครืออาภาสิริ ขอยึดพื้นที่นครศรีขยายอาณาจักร ตั้งเป้า 5 ปี ก้าวสู่ 1 ใน 3 อสังหาฯ รายใหญ่ภาคใต้ ด้าน ฟิฟธ์ ดีเวลลอปเมนท์ เปิดใหม่ 2 โครงการ จังหวัดชลบุรี ฝันเข้าตลาดปี 61 ด้วยยอดขายกว่า 2 พันล้านบาท
นายกฤต นามเกิด กรรมการบริหาร เครืออาภาสิริ กลุ่มบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในจังหวัดนครศรีธรรมราช และพื้นที่ภาคใต้ กล่าวถึงทิศทางและแผนการดำเนินธุรกิจสำหรับปี 2558 ว่า บริษัท ตั้งเป้ารายได้รวม 700 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทเติบโตเพิ่มขึ้นเกือบ 20% จากปี 2557 ที่มีรายได้ 600 ล้านบาท โดยนโยบายหลักในปีนี้คือการเร่งโอนกรรมสิทธิ์ส่งมอบบ้านที่เปิดขายไปในปี 2556-2557 พร้อมวางแผนเปิดโครงการใหม่ เพื่อกระตุ้นยอดขายในปี 2559 จำนวน 3 โครงการ มูลค่ากว่า 1.5 พันล้านบาท โดยยังคงมุ่งพัฒนาโครงการในจังหวัดนครศรีธรรมราชและพื้นที่ภาคใต้
สำหรับโครงการใหม่ที่จะเปิดตัวในปี 2558 ประกอบด้วย โครงการทาวน์โฮม แบรนด์ คาซ่า (CASA) มูลค่าโครงการ 235 ล้านบาท และ โครงการดีทาวน์ (DTOWN) ทาวน์โฮมและอาคารพาณิชย์ มูลค่าโครงการ 400 ล้านบาท โดยทั้ง 2 โครงการตั้งอยู่ในจ.นครศรีธรรมราช นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนทำธุรกิจโรงแรมเพิ่ม เพื่อสร้างการรับรู้รายได้ในระยะยาวและเป็นการลดความเสี่ยงของธุรกิจ โดยในปีนี้มีแผนเปิดโรงแรมระดับ 4 ดาวจำนวน 3 แห่ง มูลค่าการลงทุนกว่า 1.1 พันล้านบาท
"ตลาดอสังหาฯนครศรีธรรมราช ช่วงที่ผ่านมา พบว่า ยังอยู่ในภาวะชะลอตัวซึ่งสะท้อนได้จากยอดขายที่ลดลง แต่บริษัทมองว่าในวิกฤติยังมีโอกาสซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทุนจากส่วนกลางชะลอตัว เราก็หันมาลงทุนเพื่อสร้างแบรนด์ให้มีความแข็งแกร่ง เตรียมพร้อมเมื่อตลาดฟื้นตัว พร้อมกันนี้ยังได้วางเป้าการเติบโตในช่วง 5 ปีว่าจะก้าวสู่ 1 ใน 3 อสังหาฯ รายใหญ่ของภาคใต้ จากปัจจุบันอยู่ 1 ใน 10"
ด้าน นายบุญชัย มหาทรัพย์สิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟิฟธ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด กล่าวว่า ในปี 2558 บริษัทมีแผนเปิดตัว 2 โครงการใหม่ได้แก่ 1.โครงการ 123 เรสซิเดนซ์ ศรีราชา ตั้งอยู่บนพื้นที่ 40 ไร่ พัฒนาใน 4 รูปแบบ ประกอบด้วย บ้านแฝด จำนวน 66 ยูนิต บ้านเดี่ยว 5 ยูนิต อาคารชุด สูง 8 ชั้น จำนวน 7 อาคาร รวม 1,333 ยูนิต และอาคารพาณิชย์ จำนวน 40 ยูนิต โดยเฟสแรก จะเปิดขายในส่วนของบ้านแฝดจำนวน 26 ยูนิต ราคาเริ่มต้นที่ 3.99 ล้านบาท และบ้านเดี่ยว จำนวน 2 ยูนิต ราคาตั้งแต่ 5.2 ล้านบาทขึ้นไป ส่วนเฟส 2 จะเปิดขายในไตรมาส 4/2558 ซึ่งประกอบไปด้วยโครงการแนวราบและอาคารชุด โดยอาคารชุด ขนาดเริ่มต้นที่ 26-51 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นที่ 1.4 ล้านบาท และ 2.โครงการ เดอะ วัลเล่ย์ บ่อวิน 1 ตั้งอยู่บนพื้นที่ 99 ไร่ เป็นทาวน์เฮาส์ ขนาด 21 ตร.ว. ราคา 1.1 ล้านบาท จำนวน 900 ยูนิต และบ้านเดี่ยว ขนาด 50 ตร.ว. ราคา 2.2 ล้านบาท รวมมูลค่าโครงการ 1.5 พันล้านบาท
"ชลบุรี เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจาก กทม. และเศรษฐกิจค่อนข้างดี มีกำลังซื้อมาก และผลจากการสำรวจพบว่า ที่อยู่อาศัยระดับราคา 1-2 ล้านบาทยังขายดีมาก โดยเฉพาะในย่านศรีราชา ที่เป็นจุดศูนย์กลางของที่พักอาศัยและแหล่งช็อปปิ้ง เป็นต้น" นายบุญชัย กล่าวและว่า
สำหรับแผนการลงทุนในอนาคต นับจากปี 2558 เป็นต้นไป บริษัทจะพัฒนาโครงการภายใต้การดำเนินงานของบริษัท ฟิฟธ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด จากเดิมที่บริหารอยู่ 3-4 บริษัท ทั้งนี้ เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ ในการนำบริษัท เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ภายในปี 2561 และจะต้องมียอดรับรู้รายได้ที่โตต่อเนื่อง โดยปี 2558 ตั้งเป้ารับรู้รายได้ไว้ที่ 1 พันล้านบาท, ปี 2559 จำนวน 1.5 พันล้านบาท, ปี 2560 จำนวน 2 พันล้านบาท และปี 2561 มากกว่า 2.1 พันล้านบาท นอกจากบริษัท ยังตั้งเป้าพัฒนาโครงการอสังหาฯได้ครบทุกเซ็กเมนต์
ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
สำหรับโครงการใหม่ที่จะเปิดตัวในปี 2558 ประกอบด้วย โครงการทาวน์โฮม แบรนด์ คาซ่า (CASA) มูลค่าโครงการ 235 ล้านบาท และ โครงการดีทาวน์ (DTOWN) ทาวน์โฮมและอาคารพาณิชย์ มูลค่าโครงการ 400 ล้านบาท โดยทั้ง 2 โครงการตั้งอยู่ในจ.นครศรีธรรมราช นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนทำธุรกิจโรงแรมเพิ่ม เพื่อสร้างการรับรู้รายได้ในระยะยาวและเป็นการลดความเสี่ยงของธุรกิจ โดยในปีนี้มีแผนเปิดโรงแรมระดับ 4 ดาวจำนวน 3 แห่ง มูลค่าการลงทุนกว่า 1.1 พันล้านบาท
"ตลาดอสังหาฯนครศรีธรรมราช ช่วงที่ผ่านมา พบว่า ยังอยู่ในภาวะชะลอตัวซึ่งสะท้อนได้จากยอดขายที่ลดลง แต่บริษัทมองว่าในวิกฤติยังมีโอกาสซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทุนจากส่วนกลางชะลอตัว เราก็หันมาลงทุนเพื่อสร้างแบรนด์ให้มีความแข็งแกร่ง เตรียมพร้อมเมื่อตลาดฟื้นตัว พร้อมกันนี้ยังได้วางเป้าการเติบโตในช่วง 5 ปีว่าจะก้าวสู่ 1 ใน 3 อสังหาฯ รายใหญ่ของภาคใต้ จากปัจจุบันอยู่ 1 ใน 10"
ด้าน นายบุญชัย มหาทรัพย์สิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟิฟธ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด กล่าวว่า ในปี 2558 บริษัทมีแผนเปิดตัว 2 โครงการใหม่ได้แก่ 1.โครงการ 123 เรสซิเดนซ์ ศรีราชา ตั้งอยู่บนพื้นที่ 40 ไร่ พัฒนาใน 4 รูปแบบ ประกอบด้วย บ้านแฝด จำนวน 66 ยูนิต บ้านเดี่ยว 5 ยูนิต อาคารชุด สูง 8 ชั้น จำนวน 7 อาคาร รวม 1,333 ยูนิต และอาคารพาณิชย์ จำนวน 40 ยูนิต โดยเฟสแรก จะเปิดขายในส่วนของบ้านแฝดจำนวน 26 ยูนิต ราคาเริ่มต้นที่ 3.99 ล้านบาท และบ้านเดี่ยว จำนวน 2 ยูนิต ราคาตั้งแต่ 5.2 ล้านบาทขึ้นไป ส่วนเฟส 2 จะเปิดขายในไตรมาส 4/2558 ซึ่งประกอบไปด้วยโครงการแนวราบและอาคารชุด โดยอาคารชุด ขนาดเริ่มต้นที่ 26-51 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นที่ 1.4 ล้านบาท และ 2.โครงการ เดอะ วัลเล่ย์ บ่อวิน 1 ตั้งอยู่บนพื้นที่ 99 ไร่ เป็นทาวน์เฮาส์ ขนาด 21 ตร.ว. ราคา 1.1 ล้านบาท จำนวน 900 ยูนิต และบ้านเดี่ยว ขนาด 50 ตร.ว. ราคา 2.2 ล้านบาท รวมมูลค่าโครงการ 1.5 พันล้านบาท
"ชลบุรี เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจาก กทม. และเศรษฐกิจค่อนข้างดี มีกำลังซื้อมาก และผลจากการสำรวจพบว่า ที่อยู่อาศัยระดับราคา 1-2 ล้านบาทยังขายดีมาก โดยเฉพาะในย่านศรีราชา ที่เป็นจุดศูนย์กลางของที่พักอาศัยและแหล่งช็อปปิ้ง เป็นต้น" นายบุญชัย กล่าวและว่า
สำหรับแผนการลงทุนในอนาคต นับจากปี 2558 เป็นต้นไป บริษัทจะพัฒนาโครงการภายใต้การดำเนินงานของบริษัท ฟิฟธ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด จากเดิมที่บริหารอยู่ 3-4 บริษัท ทั้งนี้ เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ ในการนำบริษัท เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ภายในปี 2561 และจะต้องมียอดรับรู้รายได้ที่โตต่อเนื่อง โดยปี 2558 ตั้งเป้ารับรู้รายได้ไว้ที่ 1 พันล้านบาท, ปี 2559 จำนวน 1.5 พันล้านบาท, ปี 2560 จำนวน 2 พันล้านบาท และปี 2561 มากกว่า 2.1 พันล้านบาท นอกจากบริษัท ยังตั้งเป้าพัฒนาโครงการอสังหาฯได้ครบทุกเซ็กเมนต์
ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ