นายอมร กิจเชวงกุล กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (เคที) วิสาหกิจของกทม. รับผิดชอบบริหารโครงการก่อสร้างเส้นทางและการให้บริการเดินรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน (บีทีเอส) ส่วนต่อขยายสายสีลม-ด้านฝั่งธนบุรี ช่วงตากสิน-เพชรเกษม ต่อจากสถานีวงเวียนใหญ่-บางหว้า รวม 4 สถานี เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินงานว่า ล่าสุด งานคืบหน้าไปแล้วร้อยละ 30 ในส่วนของสถานีเอส 9 (โพธินิมิตร) และสถานีเอส 10 (รัชดา-ราชพฤกษ์) น่าจะแล้วเสร็จทันตามแผนที่กทม.วางไว้เดิมคือพร้อมให้บริการได้ภายในเดือนธ.ค.55
สำหรับสถานีเอส 11 (วุฒากาศ) และสถานีเอส 12 (บางหว้า) อาจจำเป็นต้องเลื่อนกำหนดการสร้างและเปิดให้บริการออกไปก่อน คาดว่าน่าจะแล้วเสร็จในปีหน้าแทน เนื่องจากต้องรอให้กรมทางหลวงชนบท (ทช.) และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) บรรลุข้อตกลงร่วมกันเกี่ยวกับการก่อสร้างสถานีรถไฟใต้ดินให้เรียบร้อยก่อน กทม.จึงสามารถดำเนินงานก่อสร้างส่วนที่เหลือได้
สำหรับสถานีเอส 11 (วุฒากาศ) และสถานีเอส 12 (บางหว้า) อาจจำเป็นต้องเลื่อนกำหนดการสร้างและเปิดให้บริการออกไปก่อน คาดว่าน่าจะแล้วเสร็จในปีหน้าแทน เนื่องจากต้องรอให้กรมทางหลวงชนบท (ทช.) และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) บรรลุข้อตกลงร่วมกันเกี่ยวกับการก่อสร้างสถานีรถไฟใต้ดินให้เรียบร้อยก่อน กทม.จึงสามารถดำเนินงานก่อสร้างส่วนที่เหลือได้
ขณะเดียวกัน กทม.ได้วางแผนการให้บริการส่วนต่อขยายในรูปแบบหมุนเวียนหรือชัตเทิล เทรน เนื่องจากเส้นทางเดินรถดังกล่าวมีลักษณะรางเดี่ยว ไม่มีจุดให้รถไฟฟ้าเลี้ยวหรือวนกลับ ซึ่งในช่วงแรกจะใช้ระบบหมุนเวียนรถ 2 ขบวน ขบวนละ 6 โบกี้ ทุก 10 นาที รองรับผู้โดยสารได้เที่ยวละ 2,000 คน โดยล่าสุดทางทช.ได้มีหนังสือแจ้งผลการพิจารณาอนุญาตให้กทม.ก่อสร้างทางเดินเชื่อม(สกายวอล์ก)สถานีวงเวียนใหญ่เอส 8 มุ่งหน้าถนนตากสิน รวมระยะทาง 800 เมตร เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการเชื่อมโยงระบบขนส่งอื่นๆ ตามที่ร้องขอก่อนหน้านี้ คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างไม่เกิน 9 เดือนนับจากนี้ หรือภายในเดือนธ.ค.55 เช่นเดียวกันโครงการก่อสร้างหลัก ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 200 ล้านบาท เป็นงบฯของเคทีและกู้ยืมจากสถาบันการเงินส่วนหนึ่ง ซึ่งจะทยอยจ่ายคืนภายใน 10 ปี
ที่มา: มติชน
ที่มา: มติชน