ตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงอยู่ในช่วงของการฟื้นตัวจากอุทกภัยเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ปริมาณการซื้อ-ขายบ้านเริ่มขยับดีขึ้นอย่างต่อเนื่องสังเกตได้จากการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 26 ของ 3 สมาคมอสังหาริมทรัพย์ที่มียอดขายเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ แม้ว่าจะเพิ่งผ่านปัญหาน้ำท่วมมาได้ไม่นาน
ทั้งนี้ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลการลงทะเบียนผู้เข้าชมงาน "มหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 26 "ในเชิงลึกถึงความต้องการซื้อบ้านของประชาชนที่เข้าชมงาน ซึ่งตัวเลขชุดนี้สามารถนำไปกำหนดทิศทางการพัฒนาที่อยู่อาศัยและการตลาดในปีนี้ได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลการลงทะเบียนผู้เข้าชมงาน "มหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 26 "ในเชิงลึกถึงความต้องการซื้อบ้านของประชาชนที่เข้าชมงาน ซึ่งตัวเลขชุดนี้สามารถนำไปกำหนดทิศทางการพัฒนาที่อยู่อาศัยและการตลาดในปีนี้ได้เป็นอย่างดี
ดีมานด์ใหม่เริ่มหาซื้อบ้าน
จากการสุ่มตัวอย่างผู้เข้าชมงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 26 จำนวน14,140 คน พบว่า ร้อยละ 65.3 ไม่เคยเข้าชมงานมหกรรมบ้านและคอนโดมาก่อน ถือว่าเป็นดีมานด์ใหม่ที่เข้าสู่ตลาดโดยผู้เข้าชมงานส่วนใหญ่ร้อยละ 57.7 เป็นเพศหญิงและเป็นเพศชาย ร้อยละ 42.3 ส่วนใหญ่เป็นคนโสดถึงร้อยละ 74.7 มีอายุระหว่าง 21-30 ปี ร้อยละ 42.9 ซึ่งเป็นวัยที่เริ่มต้นในการทำงาน รายได้ของครอบครัวต่อเดือน พบว่าร้อยละ 27.9 มีรายได้ 3-5 หมื่นบาท
ผู้เข้าชมงานส่วนใหญ่มีที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพมหานครถึงร้อยละ 71.4 รองลงมา ได้แก่ นนทบุรี ร้อยละ 6.7 สมุทรปราการ ร้อยละ 5 และปทุมธานีร้อยละ 3.1 โดยลักษณะที่อยู่อาศัยในปัจจุบันร้อยละ 32.7 เป็นบ้านเดี่ยว รองลงมา คือ อพาร์ตเมนต์/หอพัก/แฟลตร้อยละ 23.2 ทาวน์เฮาส์ ร้อยละ 17 คอนโดมิเนียม ร้อยละ 13.4 อาคารพาณิชย์ ร้อยละ 12 และบ้านแฝด ร้อยละ 1.7
ด้านสถานะของการอยู่อาศัย พบว่าร้อยละ 36.8 มีสถานะเป็นผู้อยู่อาศัย รองลงมามีสถานะเช่า ร้อยละ 26.8 เป็นเจ้าของไม่มีภาระผ่อน ร้อยละ 22.8 เป็นเจ้าของมีภาระผ่อน ร้อยละ 10.8 และอยู่บ้านสวัสดิการ ร้อยละ 2.7 นอกจากนี้ยังพบว่าร้อยละ 24.3 มีจำนวนผู้อยู่อาศัย 2 คน รองลงมา คือ 4 คน ร้อยละ 20.4 และร้อยละ 40.5 อาศัยอยู่มาแล้วมากกว่า 10 ปีขึ้นไป รองลงมา คือ 1-3 ปี ร้อยละ 32.1
สำหรับที่อยู่อาศัยที่ต้องการซื้อ พบว่าร้อยละ 88.8 ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยสร้างใหม่ มีเพียงร้อยละ 11.2 เท่านั้นที่ต้องการซื้อบ้านมือสอง นอกจากนี้ยังพบว่าร้อยละ38.3 ต้องการซื้อบ้านเดี่ยว รองลงมาต้องการคอนโดมิเนียม ร้อยละ 34.5 ทาวน์เฮาส์ ร้อยละ 18.3 อาคารพาณิชย์ ร้อยละ 4.1 บ้านแฝด ร้อยละ 2.2 ที่ดินเปล่าร้อยละ 1.9 และอพาร์ตเมนต์/หอพัก/แฟลต ร้อยละ 0.7
บ้านระดับกลาง 1-3 ล.ยังแรง
ทั้งนี้ ระดับราคาที่ต้องการซื้อร้อยละ45 ต้องการซื้อบ้านในระดับราคา 1.1-2 ล้านบาท และร้อยละ 21.9 ต้องการซื้อบ้านในระดับราคา 2.1-3 ล้านบาท โดยผู้เข้าชมงานส่วนใหญ่ร้อยละ 82 สนใจกู้เงินจากสถาบันการเงิน ขณะที่ร้อยละ 18 ใช้เงินออมส่วนตัว ผู้ที่สนใจกู้เงินจากสถาบันการเงินส่วนมากร้อยละ 42.7 มีความสามารถในการผ่อนชำระต่อเดือนไม่เกิน 1 หมื่นบาทและร้อยละ 37.7 มีความสามารถในการผ่อนชำระต่อเดือน 10,001-2 หมื่นบาท
นอกจากนี้ ยังพบว่าร้อยละ 53.8 คิดจะซื้อที่อยู่อาศัยภายในปี 2555 รองลงมาคิดจะซื้อภายใน 1-2 ปี ร้อยละ 23.3 ส่วนตั้งใจที่จะมาซื้อภายในงาน ร้อยละ 12.3 และคิดจะซื้อเกิน 2 ปี ร้อยละ 10.6 โดยร้อยละ 35 ต้องการมีผู้อาศัยจำนวน 2 คนรองลงมา คือ ร้อยละ 21.5 ต้องการมีผู้อาศัยจำนวน 4 คน
ส่วนทำเลที่ผู้เข้าชมงานมีความต้องการซื้อมากที่สุด คือ ทำเลในเขตกรุงเทพมหานคร โดยเขตที่มีผู้ต้องการซื้อใน 5 อันดับแรก คือ เขตบางนา ลาดพร้าวห้วยขวาง จตุจักร และพระโขนง โดยร้อยละ 47.4 ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยใกล้รถไฟฟ้ารองลงมา คือ ต้องการซื้อใกล้ที่ทำงาน ร้อยละ 30.9 และต้องการใกล้ห้างสรรพสินค้าร้อยละ 10.1
ส่วนสาเหตุที่ต้องการที่อยู่อาศัยใหม่พบว่า ร้อยละ 48.6 ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง รองลงมา คือ ต้องการแยกครอบครัว/แต่งงาน ร้อยละ 15.6 และต้องการซื้อเพื่อเป็นทรัพย์สินร้อยละ 12.8
เจาะ 3 ทำเลทองบ้าน-คอนโด
ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์ข้อมูลผู้ลงทะเบียน พบว่าทำเลที่มีความต้องการซื้อที่ อยู่อาศัยสูงสุด 3 อันดับแรก เกาะกลุ่มทำเลที่มีเส้นทางรถไฟฟ้าผ่าน หรือเชื่อมโยงไปถึงทำเลที่ตั้งโครงการ โดยพื้นที่ 3 อันดับแรกที่มีความต้องการซื้อสูงสุด คือเขตบางนา ลาดพร้าว และห้วยขวาง
สำหรับความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในพื้นที่เขตห้วยขวาง ผู้เข้าชมงานกว่าร้อยละ50 ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในทำเลนี้เป็นผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เขตห้วยขวาง ร้อยละ 82 อายุระหว่าง 21-40 ปี ประกอบอาชีพเป็นพนักงานบริษัทเอกชน จำนวนถึงร้อยละ 65 โดยร้อยละ 54 มีรายได้ต่อเดือนไม่เกิน 3 หมื่นบาทและร้อยละ 30 มีรายได้มากกว่า3 หมื่นบาทแต่ไม่เกิน 5 หมื่นบาท
กลุ่มผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในเขตห้วยขวางร้อยละ 34 ปัจจุบันอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ หอพัก หรือแฟลต โดยร้อยละ 34 เป็นผู้เช่า ขณะที่ร้อยละ 33 เป็นผู้อาศัย ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมร้อยละ 65 และร้อยละ 73 ต้องการอยู่ใกล้รถไฟฟ้า ต้องการซื้อในระดับราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท ร้อยละ 52 และร้อยละ 23 ต้องการซื้อในราคาเกินกว่า 2 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 3 ล้านบาทสำหรับความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในพื้นที่เขตลาดพร้าว ผู้เข้าชมงานจำนวนร้อยละ 40 ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในทำเลนี้ เป็นผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เขตลาดพร้าว และร้อยละ 25 อยู่ในพื้นที่เขตวังทองหลาง โดยร้อยละ 85 อายุระหว่าง21-40 ปี ประกอบอาชีพเป็นพนักงานบริษัทเอกชนจำนวนถึงร้อยละ 63 ร้อยละ54 มีรายได้ต่อเดือนไม่เกิน 3 หมื่นบาทและร้อยละ 29 มีรายได้มากกว่า 3 หมื่นบาท แต่ไม่เกิน 5 หมื่นบาท
กลุ่มผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในพื้นที่เขตลาดพร้าว ร้อยละ 30 ปัจจุบันอาศัยอยู่บ้านเดี่ยว ร้อยละ 26 อาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ หอพัก หรือแฟลต ร้อยละ 40 เป็นผู้อาศัย ขณะที่ร้อยละ 30 เป็นผู้เช่า โดยร้อยละ 45 ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียม และร้อยละ 33 ยังต้องการซื้อบ้านเดี่ยว
ทั้งนี้ ร้อยละ 52 ของผู้ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในเขตลาดพร้าวต้องการทำเลอยู่ใกล้รถไฟฟ้า และร้อยละ 33 ต้องการอยู่ใกล้ที่ทำงาน โดยต้องการซื้อในระดับราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท ร้อยละ 45 และร้อยละ25 ต้องการซื้อในราคาเกินกว่า 2 ล้านบาทแต่ไม่เกิน 3 ล้านบาท
สำหรับผู้ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในพื้นที่เขตบางนากว่าร้อยละ 48 เป็นผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เขตบางนา และร้อยละ 22 อยู่ในพื้นที่ อ.เมืองสมุทรปราการ โดยร้อยละ 84 อายุระหว่าง 21-40 ปี ประกอบอาชีพเป็นพนักงานบริษัทเอกชน ถึงร้อยละ 73 มีรายได้ส่วนตัวต่อเดือนไม่เกิน 3 หมื่นบาทร้อยละ 58 และร้อยละ 30 มีรายได้ส่วนตัวมากกว่า 3 หมื่นบาทแต่ไม่เกิน 5 หมื่นบาท
สำหรับที่อยู่อาศัยปัจจุบันเป็นบ้านเดี่ยว และอพาร์ตเมนต์ หอพัก หรือแฟลตในสัดส่วนเท่ากัน คือ ร้อยละ 26 โดยร้อยละ 36 เป็นผู้อาศัย ขณะที่ร้อยละ 32 เป็นผู้เช่า มีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยวร้อยละ 39 ร้อยละ 32 ต้องการซื้อคอนโดมิเนียม และร้อยละ 22 ต้องการซื้อทาวน์เฮาส์
ทั้งนี้ ร้อยละ 53 ของผู้ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในพื้นที่เขตบางนาต้องการทำเลอยู่ใกล้รถไฟฟ้า ร้อยละ 27 ต้องการอยู่ใกล้ที่ทำงาน และร้อยละ 51 ต้องการซื้อในระดับราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท และร้อยละ23 ต้องการซื้อในราคาเกินกว่า 2 ล้านบาทแต่ไม่เกิน 3 ล้านบาท
ที่มา: หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
จากการสุ่มตัวอย่างผู้เข้าชมงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 26 จำนวน14,140 คน พบว่า ร้อยละ 65.3 ไม่เคยเข้าชมงานมหกรรมบ้านและคอนโดมาก่อน ถือว่าเป็นดีมานด์ใหม่ที่เข้าสู่ตลาดโดยผู้เข้าชมงานส่วนใหญ่ร้อยละ 57.7 เป็นเพศหญิงและเป็นเพศชาย ร้อยละ 42.3 ส่วนใหญ่เป็นคนโสดถึงร้อยละ 74.7 มีอายุระหว่าง 21-30 ปี ร้อยละ 42.9 ซึ่งเป็นวัยที่เริ่มต้นในการทำงาน รายได้ของครอบครัวต่อเดือน พบว่าร้อยละ 27.9 มีรายได้ 3-5 หมื่นบาท
ผู้เข้าชมงานส่วนใหญ่มีที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพมหานครถึงร้อยละ 71.4 รองลงมา ได้แก่ นนทบุรี ร้อยละ 6.7 สมุทรปราการ ร้อยละ 5 และปทุมธานีร้อยละ 3.1 โดยลักษณะที่อยู่อาศัยในปัจจุบันร้อยละ 32.7 เป็นบ้านเดี่ยว รองลงมา คือ อพาร์ตเมนต์/หอพัก/แฟลตร้อยละ 23.2 ทาวน์เฮาส์ ร้อยละ 17 คอนโดมิเนียม ร้อยละ 13.4 อาคารพาณิชย์ ร้อยละ 12 และบ้านแฝด ร้อยละ 1.7
ด้านสถานะของการอยู่อาศัย พบว่าร้อยละ 36.8 มีสถานะเป็นผู้อยู่อาศัย รองลงมามีสถานะเช่า ร้อยละ 26.8 เป็นเจ้าของไม่มีภาระผ่อน ร้อยละ 22.8 เป็นเจ้าของมีภาระผ่อน ร้อยละ 10.8 และอยู่บ้านสวัสดิการ ร้อยละ 2.7 นอกจากนี้ยังพบว่าร้อยละ 24.3 มีจำนวนผู้อยู่อาศัย 2 คน รองลงมา คือ 4 คน ร้อยละ 20.4 และร้อยละ 40.5 อาศัยอยู่มาแล้วมากกว่า 10 ปีขึ้นไป รองลงมา คือ 1-3 ปี ร้อยละ 32.1
สำหรับที่อยู่อาศัยที่ต้องการซื้อ พบว่าร้อยละ 88.8 ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยสร้างใหม่ มีเพียงร้อยละ 11.2 เท่านั้นที่ต้องการซื้อบ้านมือสอง นอกจากนี้ยังพบว่าร้อยละ38.3 ต้องการซื้อบ้านเดี่ยว รองลงมาต้องการคอนโดมิเนียม ร้อยละ 34.5 ทาวน์เฮาส์ ร้อยละ 18.3 อาคารพาณิชย์ ร้อยละ 4.1 บ้านแฝด ร้อยละ 2.2 ที่ดินเปล่าร้อยละ 1.9 และอพาร์ตเมนต์/หอพัก/แฟลต ร้อยละ 0.7
บ้านระดับกลาง 1-3 ล.ยังแรง
ทั้งนี้ ระดับราคาที่ต้องการซื้อร้อยละ45 ต้องการซื้อบ้านในระดับราคา 1.1-2 ล้านบาท และร้อยละ 21.9 ต้องการซื้อบ้านในระดับราคา 2.1-3 ล้านบาท โดยผู้เข้าชมงานส่วนใหญ่ร้อยละ 82 สนใจกู้เงินจากสถาบันการเงิน ขณะที่ร้อยละ 18 ใช้เงินออมส่วนตัว ผู้ที่สนใจกู้เงินจากสถาบันการเงินส่วนมากร้อยละ 42.7 มีความสามารถในการผ่อนชำระต่อเดือนไม่เกิน 1 หมื่นบาทและร้อยละ 37.7 มีความสามารถในการผ่อนชำระต่อเดือน 10,001-2 หมื่นบาท
นอกจากนี้ ยังพบว่าร้อยละ 53.8 คิดจะซื้อที่อยู่อาศัยภายในปี 2555 รองลงมาคิดจะซื้อภายใน 1-2 ปี ร้อยละ 23.3 ส่วนตั้งใจที่จะมาซื้อภายในงาน ร้อยละ 12.3 และคิดจะซื้อเกิน 2 ปี ร้อยละ 10.6 โดยร้อยละ 35 ต้องการมีผู้อาศัยจำนวน 2 คนรองลงมา คือ ร้อยละ 21.5 ต้องการมีผู้อาศัยจำนวน 4 คน
ส่วนทำเลที่ผู้เข้าชมงานมีความต้องการซื้อมากที่สุด คือ ทำเลในเขตกรุงเทพมหานคร โดยเขตที่มีผู้ต้องการซื้อใน 5 อันดับแรก คือ เขตบางนา ลาดพร้าวห้วยขวาง จตุจักร และพระโขนง โดยร้อยละ 47.4 ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยใกล้รถไฟฟ้ารองลงมา คือ ต้องการซื้อใกล้ที่ทำงาน ร้อยละ 30.9 และต้องการใกล้ห้างสรรพสินค้าร้อยละ 10.1
ส่วนสาเหตุที่ต้องการที่อยู่อาศัยใหม่พบว่า ร้อยละ 48.6 ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง รองลงมา คือ ต้องการแยกครอบครัว/แต่งงาน ร้อยละ 15.6 และต้องการซื้อเพื่อเป็นทรัพย์สินร้อยละ 12.8
เจาะ 3 ทำเลทองบ้าน-คอนโด
ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์ข้อมูลผู้ลงทะเบียน พบว่าทำเลที่มีความต้องการซื้อที่ อยู่อาศัยสูงสุด 3 อันดับแรก เกาะกลุ่มทำเลที่มีเส้นทางรถไฟฟ้าผ่าน หรือเชื่อมโยงไปถึงทำเลที่ตั้งโครงการ โดยพื้นที่ 3 อันดับแรกที่มีความต้องการซื้อสูงสุด คือเขตบางนา ลาดพร้าว และห้วยขวาง
สำหรับความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในพื้นที่เขตห้วยขวาง ผู้เข้าชมงานกว่าร้อยละ50 ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในทำเลนี้เป็นผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เขตห้วยขวาง ร้อยละ 82 อายุระหว่าง 21-40 ปี ประกอบอาชีพเป็นพนักงานบริษัทเอกชน จำนวนถึงร้อยละ 65 โดยร้อยละ 54 มีรายได้ต่อเดือนไม่เกิน 3 หมื่นบาทและร้อยละ 30 มีรายได้มากกว่า3 หมื่นบาทแต่ไม่เกิน 5 หมื่นบาท
กลุ่มผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในเขตห้วยขวางร้อยละ 34 ปัจจุบันอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ หอพัก หรือแฟลต โดยร้อยละ 34 เป็นผู้เช่า ขณะที่ร้อยละ 33 เป็นผู้อาศัย ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมร้อยละ 65 และร้อยละ 73 ต้องการอยู่ใกล้รถไฟฟ้า ต้องการซื้อในระดับราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท ร้อยละ 52 และร้อยละ 23 ต้องการซื้อในราคาเกินกว่า 2 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 3 ล้านบาทสำหรับความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในพื้นที่เขตลาดพร้าว ผู้เข้าชมงานจำนวนร้อยละ 40 ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในทำเลนี้ เป็นผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เขตลาดพร้าว และร้อยละ 25 อยู่ในพื้นที่เขตวังทองหลาง โดยร้อยละ 85 อายุระหว่าง21-40 ปี ประกอบอาชีพเป็นพนักงานบริษัทเอกชนจำนวนถึงร้อยละ 63 ร้อยละ54 มีรายได้ต่อเดือนไม่เกิน 3 หมื่นบาทและร้อยละ 29 มีรายได้มากกว่า 3 หมื่นบาท แต่ไม่เกิน 5 หมื่นบาท
กลุ่มผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในพื้นที่เขตลาดพร้าว ร้อยละ 30 ปัจจุบันอาศัยอยู่บ้านเดี่ยว ร้อยละ 26 อาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ หอพัก หรือแฟลต ร้อยละ 40 เป็นผู้อาศัย ขณะที่ร้อยละ 30 เป็นผู้เช่า โดยร้อยละ 45 ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียม และร้อยละ 33 ยังต้องการซื้อบ้านเดี่ยว
ทั้งนี้ ร้อยละ 52 ของผู้ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในเขตลาดพร้าวต้องการทำเลอยู่ใกล้รถไฟฟ้า และร้อยละ 33 ต้องการอยู่ใกล้ที่ทำงาน โดยต้องการซื้อในระดับราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท ร้อยละ 45 และร้อยละ25 ต้องการซื้อในราคาเกินกว่า 2 ล้านบาทแต่ไม่เกิน 3 ล้านบาท
สำหรับผู้ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในพื้นที่เขตบางนากว่าร้อยละ 48 เป็นผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เขตบางนา และร้อยละ 22 อยู่ในพื้นที่ อ.เมืองสมุทรปราการ โดยร้อยละ 84 อายุระหว่าง 21-40 ปี ประกอบอาชีพเป็นพนักงานบริษัทเอกชน ถึงร้อยละ 73 มีรายได้ส่วนตัวต่อเดือนไม่เกิน 3 หมื่นบาทร้อยละ 58 และร้อยละ 30 มีรายได้ส่วนตัวมากกว่า 3 หมื่นบาทแต่ไม่เกิน 5 หมื่นบาท
สำหรับที่อยู่อาศัยปัจจุบันเป็นบ้านเดี่ยว และอพาร์ตเมนต์ หอพัก หรือแฟลตในสัดส่วนเท่ากัน คือ ร้อยละ 26 โดยร้อยละ 36 เป็นผู้อาศัย ขณะที่ร้อยละ 32 เป็นผู้เช่า มีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยวร้อยละ 39 ร้อยละ 32 ต้องการซื้อคอนโดมิเนียม และร้อยละ 22 ต้องการซื้อทาวน์เฮาส์
ทั้งนี้ ร้อยละ 53 ของผู้ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในพื้นที่เขตบางนาต้องการทำเลอยู่ใกล้รถไฟฟ้า ร้อยละ 27 ต้องการอยู่ใกล้ที่ทำงาน และร้อยละ 51 ต้องการซื้อในระดับราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท และร้อยละ23 ต้องการซื้อในราคาเกินกว่า 2 ล้านบาทแต่ไม่เกิน 3 ล้านบาท
ที่มา: หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์