การที่ห้องชุดรีเซลกลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง เพราะส่วนใหญ่สร้างเสร็จพร้อมอยู่และเมื่อเทียบกับห้องชุดโครงการใหม่ที่เพิ่งเปิดขายบนทำเลใกล้เคียงกันแล้ว ห้องชุดรีเซล จะมีขนาดห้องที่ใหญ่กว่า และราคาเฉลี่ยยังถูกกว่าของใหม่แกะกล่องมาก ห้องชุดรีเซลจึงกลายเป็นคู่แข่งสำคัญของกลุ่มห้องชุดโครงการใหม่
ห้องชุดรีเซลที่มีการเคลื่อนไหวดีที่สุดในช่วง 3 เดือนแรก เป็นห้องชุดระดับราคา 1-3 ล้านบาท บนทำเลส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าและอัตราผลตอบแทนห้องชุดรีเซลปีนี้ ถือว่าน่าสนใจพอสมควร โดยกำไรที่เพิ่มขึ้นมากน้อยขึ้นอยู่กับทำเล เฉลี่ยถ้าเป็นห้องชุดขนาดประมาณ 30 ตร.ม. ราคาขายเริ่มต้นประมาณ1 ล้านต้นๆ มีโอกาสในการทำกำไรได้มากถึง5 หมื่น-1แสนบาทต่อยูนิต แต่หากเป็นยูนิตที่ทำเลดีมาก และพิเศษกว่าห้องชุดอื่นๆมีโอกาสทำกำไรได้มากถึง 1.5 แสนบาทต่อยูนิต
ห้องชุดรีเซลที่มีการเคลื่อนไหวดีที่สุดในช่วง 3 เดือนแรก เป็นห้องชุดระดับราคา 1-3 ล้านบาท บนทำเลส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าและอัตราผลตอบแทนห้องชุดรีเซลปีนี้ ถือว่าน่าสนใจพอสมควร โดยกำไรที่เพิ่มขึ้นมากน้อยขึ้นอยู่กับทำเล เฉลี่ยถ้าเป็นห้องชุดขนาดประมาณ 30 ตร.ม. ราคาขายเริ่มต้นประมาณ1 ล้านต้นๆ มีโอกาสในการทำกำไรได้มากถึง5 หมื่น-1แสนบาทต่อยูนิต แต่หากเป็นยูนิตที่ทำเลดีมาก และพิเศษกว่าห้องชุดอื่นๆมีโอกาสทำกำไรได้มากถึง 1.5 แสนบาทต่อยูนิต
ทางด้านตลาดห้องชุดระดับไฮเอนด์ ก็ส่งสัญญาณการฟื้นตัวที่ดี หลังจากที่โครงการไฮเอนด์ที่เปิดตัวไปเมื่อ2-3 ปีที่แล้วเริ่มแล้วเสร็จ กลับมาปล่อยขายเข้าสู่ตลาดอีกครั้ง โดย อลิวัสสา พัฒนถาบุตรกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีบี ริชาร์ด เอลลิส ประเทศไทย กล่าวว่า กลุ่มห้องชุดไฮเอนด์ปีนี้คงคึกคักมากกว่าช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยผู้ซื้อห้องชุดไฮเอนด์เพื่อการลงทุนส่วนใหญ่จะรอจนโครงการแล้วเสร็จแล้วจึงปล่อยขาย ซึ่งส่วนใหญ่จะได้รับความสนใจเพราะโครงการไฮเอนด์ที่เพิ่งเปิดตัว ล้วนมีราคาที่สูงขึ้นไม่ต่ำกว่า 20%
ในส่วนของทำเลฮอตฮิตสำหรับห้องชุดไฮเอนด์ ยังคงอยู่บริเวณใจกลางเมือง เช่นย่านศาลาแดง สาทร หลังสวน ทองหล่อเป็นต้น โดยฝ่ายวิจัย ซีบี ริชาร์ด เอลลิส ระบุว่า จำนวนห้องชุดใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ณไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมา มีจำนวน 92,562 ยูนิตจำนวนดังกล่าว แบ่งเป็น สุขุมวิท 31%พระราม 3 สัดส่วน 14% ริมแม่น้ำ 16%สีลม-สาทร 16% ลุมพินี 6% สุขุมวิทรอบนอก 7% ปทุมวัน 10% โดยระดับราคาเฉลี่ยย่านลุมพินี มีการปรับขึ้นมากที่สุด จากปี 2550 มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 106,651 บาทต่อ ตร.ม. ปรับขึ้นมาเป็น 148,299 บาทต่อ ตร.ม.ในปี 2554
สำหรับย่านสีลม-สาทร ราคาในปี 2550 อยู่ที่ 84,232 บาทต่อ ตร.ม. ปรับขึ้นมาเป็น121,151 บาทต่อ ตร.ม.ในปี 2554 ส่วนย่านสุขุมวิท ห้องชุดไฮเอนด์ในปี 2550 มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 94,665 บาทต่อ ตร.ม. ปรับขึ้นมาเป็น 119,826 บาทต่อ ตร.ม.
จากความเคลื่อนไหวที่กล่าวถึงปีนี้จะกลายเป็นอีกหนึ่งปีทองของตลาดคอนโดฯ รีเซลอีกครั้ง หลังจากตลาดดังกล่าวลดความร้อนแรงไปไม่ต่ำกว่า 2-3 ปีแล้ว
ที่มา: หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
ในส่วนของทำเลฮอตฮิตสำหรับห้องชุดไฮเอนด์ ยังคงอยู่บริเวณใจกลางเมือง เช่นย่านศาลาแดง สาทร หลังสวน ทองหล่อเป็นต้น โดยฝ่ายวิจัย ซีบี ริชาร์ด เอลลิส ระบุว่า จำนวนห้องชุดใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ณไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมา มีจำนวน 92,562 ยูนิตจำนวนดังกล่าว แบ่งเป็น สุขุมวิท 31%พระราม 3 สัดส่วน 14% ริมแม่น้ำ 16%สีลม-สาทร 16% ลุมพินี 6% สุขุมวิทรอบนอก 7% ปทุมวัน 10% โดยระดับราคาเฉลี่ยย่านลุมพินี มีการปรับขึ้นมากที่สุด จากปี 2550 มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 106,651 บาทต่อ ตร.ม. ปรับขึ้นมาเป็น 148,299 บาทต่อ ตร.ม.ในปี 2554
สำหรับย่านสีลม-สาทร ราคาในปี 2550 อยู่ที่ 84,232 บาทต่อ ตร.ม. ปรับขึ้นมาเป็น121,151 บาทต่อ ตร.ม.ในปี 2554 ส่วนย่านสุขุมวิท ห้องชุดไฮเอนด์ในปี 2550 มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 94,665 บาทต่อ ตร.ม. ปรับขึ้นมาเป็น 119,826 บาทต่อ ตร.ม.
จากความเคลื่อนไหวที่กล่าวถึงปีนี้จะกลายเป็นอีกหนึ่งปีทองของตลาดคอนโดฯ รีเซลอีกครั้ง หลังจากตลาดดังกล่าวลดความร้อนแรงไปไม่ต่ำกว่า 2-3 ปีแล้ว
ที่มา: หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์