ที่อยู่อาศัยในรูปแบบที่เรียกกันว่า ทาวน์ เฮ้าส์ นั้น ปัจจุบันหากดูจากการแถลงแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ของบรรดาบริษัทอสังหาริมทรัพย์ทั้งหลาย จะพบว่า ไม่พบว่ามีการเตรียมการเปิดตัวโครงการทาวน์เฮ้าส์อีกแล้ว
ทั้งนี้ทั้งนั้น เนื่องจากโครงสร้างราคาที่ดินในระยะหลายปีมานี้ มีการปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ไม่สามารถพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในรูปแบบอาคารแถวเพื่อการอยู่อาศัยในระดับราคาแบบเดิมต่อไปได้อีก
สัก 5 ปีก่อนหน้านี้ ทาวน์เฮ้าส์ คือรูปแบบที่อยู่อาศัยราคาถูกสุดในบรรดาที่อยู่อาศัย ระดับราคาต่ำสุดในกรุงเทพฯ ปริมณฑล ขยับมาจากทาวน์เฮ้าส์ราคา 3 แสนบาท มาเป็นระดับ 6 แสนบาท ซึ่งเป็นราคาที่บีโอไอ.ให้การส่งเสริมการลงทุน
ทุกวันนี้จะหาโครงการทาวน์เฮ้าส์ราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาทต่อยูนิตไม่ได้อีกแล้ว ราคาทาวน์เฮ้าส์ที่ยังมีการผลิตขายกันอยู่บ้างก็ตกประมาณล้านกว่าบาทเกือบ 2 ล้านบาทเสียด้วยซ้ำ
ทั้งนี้ทั้งนั้น เนื่องจากโครงสร้างราคาที่ดินในระยะหลายปีมานี้ มีการปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ไม่สามารถพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในรูปแบบอาคารแถวเพื่อการอยู่อาศัยในระดับราคาแบบเดิมต่อไปได้อีก
สัก 5 ปีก่อนหน้านี้ ทาวน์เฮ้าส์ คือรูปแบบที่อยู่อาศัยราคาถูกสุดในบรรดาที่อยู่อาศัย ระดับราคาต่ำสุดในกรุงเทพฯ ปริมณฑล ขยับมาจากทาวน์เฮ้าส์ราคา 3 แสนบาท มาเป็นระดับ 6 แสนบาท ซึ่งเป็นราคาที่บีโอไอ.ให้การส่งเสริมการลงทุน
ทุกวันนี้จะหาโครงการทาวน์เฮ้าส์ราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาทต่อยูนิตไม่ได้อีกแล้ว ราคาทาวน์เฮ้าส์ที่ยังมีการผลิตขายกันอยู่บ้างก็ตกประมาณล้านกว่าบาทเกือบ 2 ล้านบาทเสียด้วยซ้ำ
รูปแบบที่อยู่อาศัยราคาต่ำสุดที่เข้ามาตอบสนองความต้องการตลาด กลายเป็นห้องชุดขนาดเล็กสุดต่ำกว่า 30 ตารางเมตร ในระดับราคายูนิตละ 1 ล้านบาท หรือล้านต้นๆ
ส่วนรูปแบบทาวน์เฮ้าส์เดิมนั้น ยังคงมีการพัฒนาต่อไป แต่มีการปรับเปลี่ยนดีไซน์ใหม่ให้ดูหรูดูดีขึ้นกว่าเดิม ที่สำคัญเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงการใช้คำว่า ทาวน์เฮ้าส์ ที่ทำให้นึกถึงที่อยู่อาศัยราคาต่ำ
จึงเปลี่ยนไปใช้คำเรียกใหม่เป็น ทาวน์โฮม
บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่บุกเบิกตลาดนี้ บเห็นจะต้องยกให้ บมจ.เอเชียนพร็อพเพอร์ตี้ ที่บุกตลาดนี้ด้วยคอนเซ็ปต์ บ้านกลางเมือง และบ้านกลางกรุง โดยพัฒนาที่อยู่อาศัยอาคารแถวสมัยใหม่หรูหราในทำเลใจกลางเมืองหรือบริเวณพื้นที่เขตชั้นกลาง กระจายไปทั่วกรุงเทพฯ ในระดับราคา 3-4 ล้านบาท ไปจนถึงกว่า 10 ล้านบาท เชื่อว่าตลาดนี้เป้นตลาดสำคัญที่ผลักดันยอดขายของเอเชี่ยนพร็อพเพอร์ตี้จนผงาดขึ้นมาเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นแนวหน้าในปัจจุบัน
ทาวน์โฮม หรือทาวน์เฮ้าส์มิติใหม่ไม่ใช่ที่อยู่อาศัยระดับราคาถูกอีกต่อไปแล้ว แต่เป็นรูปแบบที่อยู่อาศัยที่ตอบสนองตลาดระดับกลาง และระดับสูง
เป็นทางเลือกของผู้บริโภคที่ไม่ต้องการไปอยู่บ้านเดี่ยวชานเมืองระดับราคา 3-5 ล้านบาท และก็ไม่ต้องการที่จะขึ้นไปอยู่บนอาคารสูงคอนโดมิเนียมราคาตารางเมตรละ 80,000 บาท ก็ต้องเลือกอยู่ทาวน์โฮมในพื้นที่เขตชั้นกลางๆ ของกรุงเทพฯ ในระดับราคาเดียวกัน
เป็นทางเลือกของผู้บริโภคที่ไม่ต้องการไปอยู่บ้านเดี่ยวชานเมืองราคา 10 ล้านบาท และก็ยังไม่อยากอยู่คอนโดฯ ราคาตารางเมตรละกว่า 100,000 บาท ก็เลือกซื้อทาวน์โฮมกลางกรุง
คาดว่าตลาดทาวน์โฮมมีความต้องการมากพอควรทีเดียว ดังนั้น ปีนี้จึงได้เห็นยักษ์ใหญ่วงการอสังหาริมทรัพย์อีกหลายราย กระโจนเข้าสู่ตลาดนี้
อาทิ บมจ.แอล.พี.เอ็น ซึ่งเดิมเป็นเจ้าตลาดคอนโดมิเนียมระดับราคากลางและล่าง ก็เปิดโครงการระดับทาวน์โฮมไปเรียบร้อย ล่าสุด บมจ.แสนสิริ ซึ่งเป็นเจ้าตลาดบ้านเดี่ยวระดับหรูสุด ก็ประกาศลุยตลาดทาวน์โฮมระดับกลางและบน ครั้งใหญ่ถึง 10 โครงการ
มิติของที่อยู่อาศัยแบบอาคารแถวเปลี่ยนไปแล้วระลอกหนึ่ง
อนาคตอันใกล้หากผังเมืองใหม่ประกาศใช้ และห้ามสร้างอาคารสูงในซอยที่ขนาดเล็กกว่า 16 เมตร คงจะได้เห็นมิติและรูปแบบที่อยู่อาศัยจะปรับเปลี่ยนใหม่อีกระลอกใหญ่ อย่างแน่นอน
ที่มา : มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 6 - 12 เม.ย. 2555
ส่วนรูปแบบทาวน์เฮ้าส์เดิมนั้น ยังคงมีการพัฒนาต่อไป แต่มีการปรับเปลี่ยนดีไซน์ใหม่ให้ดูหรูดูดีขึ้นกว่าเดิม ที่สำคัญเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงการใช้คำว่า ทาวน์เฮ้าส์ ที่ทำให้นึกถึงที่อยู่อาศัยราคาต่ำ
จึงเปลี่ยนไปใช้คำเรียกใหม่เป็น ทาวน์โฮม
บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่บุกเบิกตลาดนี้ บเห็นจะต้องยกให้ บมจ.เอเชียนพร็อพเพอร์ตี้ ที่บุกตลาดนี้ด้วยคอนเซ็ปต์ บ้านกลางเมือง และบ้านกลางกรุง โดยพัฒนาที่อยู่อาศัยอาคารแถวสมัยใหม่หรูหราในทำเลใจกลางเมืองหรือบริเวณพื้นที่เขตชั้นกลาง กระจายไปทั่วกรุงเทพฯ ในระดับราคา 3-4 ล้านบาท ไปจนถึงกว่า 10 ล้านบาท เชื่อว่าตลาดนี้เป้นตลาดสำคัญที่ผลักดันยอดขายของเอเชี่ยนพร็อพเพอร์ตี้จนผงาดขึ้นมาเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นแนวหน้าในปัจจุบัน
ทาวน์โฮม หรือทาวน์เฮ้าส์มิติใหม่ไม่ใช่ที่อยู่อาศัยระดับราคาถูกอีกต่อไปแล้ว แต่เป็นรูปแบบที่อยู่อาศัยที่ตอบสนองตลาดระดับกลาง และระดับสูง
เป็นทางเลือกของผู้บริโภคที่ไม่ต้องการไปอยู่บ้านเดี่ยวชานเมืองระดับราคา 3-5 ล้านบาท และก็ไม่ต้องการที่จะขึ้นไปอยู่บนอาคารสูงคอนโดมิเนียมราคาตารางเมตรละ 80,000 บาท ก็ต้องเลือกอยู่ทาวน์โฮมในพื้นที่เขตชั้นกลางๆ ของกรุงเทพฯ ในระดับราคาเดียวกัน
เป็นทางเลือกของผู้บริโภคที่ไม่ต้องการไปอยู่บ้านเดี่ยวชานเมืองราคา 10 ล้านบาท และก็ยังไม่อยากอยู่คอนโดฯ ราคาตารางเมตรละกว่า 100,000 บาท ก็เลือกซื้อทาวน์โฮมกลางกรุง
คาดว่าตลาดทาวน์โฮมมีความต้องการมากพอควรทีเดียว ดังนั้น ปีนี้จึงได้เห็นยักษ์ใหญ่วงการอสังหาริมทรัพย์อีกหลายราย กระโจนเข้าสู่ตลาดนี้
อาทิ บมจ.แอล.พี.เอ็น ซึ่งเดิมเป็นเจ้าตลาดคอนโดมิเนียมระดับราคากลางและล่าง ก็เปิดโครงการระดับทาวน์โฮมไปเรียบร้อย ล่าสุด บมจ.แสนสิริ ซึ่งเป็นเจ้าตลาดบ้านเดี่ยวระดับหรูสุด ก็ประกาศลุยตลาดทาวน์โฮมระดับกลางและบน ครั้งใหญ่ถึง 10 โครงการ
มิติของที่อยู่อาศัยแบบอาคารแถวเปลี่ยนไปแล้วระลอกหนึ่ง
อนาคตอันใกล้หากผังเมืองใหม่ประกาศใช้ และห้ามสร้างอาคารสูงในซอยที่ขนาดเล็กกว่า 16 เมตร คงจะได้เห็นมิติและรูปแบบที่อยู่อาศัยจะปรับเปลี่ยนใหม่อีกระลอกใหญ่ อย่างแน่นอน
ที่มา : มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 6 - 12 เม.ย. 2555