ประเภทและรูปแบบโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในแต่ละห้วงเวลาเปลี่ยนแปลงผันแปรไปตามสภาวะการพัฒนาเมือง การเดินทาง ทัศนคติ และกำลังซื้อผู้บริโภค
ในอดีตบ้านเดี่ยวคือรูปแบบที่อยู่อาศัยในฝันของผู้บริโภคส่วนใหญ่ ออกแบบสอบถามกันกี่ครั้งก็ตอบว่าต้องการบ้านเดี่ยว แต่เมื่อซื้อจริงหากกำลังซื้อไม่เพียงพอที่จะซื้อบ้านเดี่ยวก็หันมาซื้อทาวน์เฮ้าส์แทน
ในอดีตบ้านเดี่ยวคือรูปแบบที่อยู่อาศัยในฝันของผู้บริโภคส่วนใหญ่ ออกแบบสอบถามกันกี่ครั้งก็ตอบว่าต้องการบ้านเดี่ยว แต่เมื่อซื้อจริงหากกำลังซื้อไม่เพียงพอที่จะซื้อบ้านเดี่ยวก็หันมาซื้อทาวน์เฮ้าส์แทน
ประมาณปี 2552-2553 ที่อยู่อาศัยประเภทโครงการคอนโดมิเนียมได้รับความนิยมอย่างสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคอนโดมิเนียมตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้า จนทำให้จำนวนห้องชุดที่เสนอขายในตลาดที่อยู่อาศัยมีปริมาณเกือบครึ่งหนึ่งของที่อยู่อาศัย
ปี 2554 จำนวนโครงการคอนโดมิเนียม มีจำนวนมาก การแข่งขันค่อนข้างสูง ส่งผลให้การเปิดตัวโครงการใหม่คอนโดมิเนียมมีแนวโน้มลดลง ด้านผู้บริโภค รวมทั้งนักลงทุนและนักเก็งกำไร ก็ดูเหมือนจะอ่อนแรงลงเช่นเดียวกัน
แต่อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ปลายปี 2554 ช่วยฟื้นชีพโครงการคอนโดมิเนียมอีกรอบหนึ่ง เพราะผู้ที่มีที่อยู่อาศัยบ้านเดี่ยวชานเมืองก็หันมาซื้อคอนโดมิเนียมในเมืองเป็นที่พักอาศัยสำรอง ผู้ที่มีที่อยู่อาศัยหลังแรกก็ตัดสินใจซื้อคอนโดมิเนียมมากกว่า
นี่คือความเปลี่ยนแปลงของโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยที่ผันแปรไปตามสภาพตลาด แต่โครงการอสังหาริมทรัพย์อีกประเภทหนึ่งที่ค่อนข้างเงียบ จนผู้คนเกือบจะลืมไปหลายปี ได้แก่ โครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทอาคารสำนักงาน ซึ่งระยะหลายปีหลังแทบไม่มีการเปิดตัวโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานใหม่ๆ ทั้งที่ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศก็มีการเติบโตตามสภาวะ การลงทุนจากต่างประเทศก็ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง
ยังไม่มีข้อมูลยืนยันสาเหตุที่แน่ชัดว่าเป็นเพราะเหตุใด
แต่จับสัญญาณเบื้องต้นจากตลาดที่อยู่อาศัยมือสอง จากบริษัทตัวแทนนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ที่มีประสบการณ์ยาวนาน พบว่า ในระยะหลังๆ ทาวน์เฮ้าส์ในพื้นที่ชั้นในของกรุงเทพฯ และในพื้นที่ชั้นกลางประมาณวงแหวนรัชดาภิเษก หากนำมาปรับปรุงใหม่เป็นโฮมออฟฟิศจะได้รับการตอบรับจากตลาดอย่างรวดเร็ว
สันนิษฐานว่า ปัจจุบันปัญหาการเดินทางในกรุงเทพฯ ที่ติดขัดมากขึ้นเป็นลำดับ ทัศนคติของผู้ประกอบธุรกิจรุ่นใหม่ที่ไม่ได้ยึดถือว่าการมีสำนักงานในอาคารสำนักงานขนาดใหญ่เป็นเรื่องโก้หรูและน่าเชื่อถือเหมือนในอดีตและที่สำคัญเทคโนโลยีการสื่อสารยุคใหม่ราคาไม่แพง หาได้ไม่ยาก อยู่ที่ไหนก็หาได้
ทำให้ธุรกิจรุ่นใหม่ๆ ซึ่งมักใช้จำนวนคนไม่มาก นิยมตั้งสำนักงานอยู่ตามอาคารขนาดเล็ก และยังย้อนยุคด้วยการอยู่อาศัยในชั้นบนของอาคารนั้นๆ เสียเลย เพื่อหนีปัญหาการจราจร
นี่จึงน่าจะเป็นที่มาของรูปแบบสำนักงานผสมที่อยู่อาศัยในพื้นที่ชั้นในและชั้นกลางของกรุงเทพฯ ที่เรียกว่า โฮมออฟฟิศ
อย่างไรก็ดี โฮมออฟฟิศ วันนี้ เพิ่งจะส่งสัญญาณความต้องการในตลาดมือสอง ถ้ากระแสความต้องการนี้มาจริง และมีมากพอ เชื่อว่าอีกไม่นานคงจะได้เห็นโฮมออฟฟิศที่เป็นการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โครงการใหม่กันจำนวนมาก
ที่มา : มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 23 - 29 มี.ค. 2555
ปี 2554 จำนวนโครงการคอนโดมิเนียม มีจำนวนมาก การแข่งขันค่อนข้างสูง ส่งผลให้การเปิดตัวโครงการใหม่คอนโดมิเนียมมีแนวโน้มลดลง ด้านผู้บริโภค รวมทั้งนักลงทุนและนักเก็งกำไร ก็ดูเหมือนจะอ่อนแรงลงเช่นเดียวกัน
แต่อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ปลายปี 2554 ช่วยฟื้นชีพโครงการคอนโดมิเนียมอีกรอบหนึ่ง เพราะผู้ที่มีที่อยู่อาศัยบ้านเดี่ยวชานเมืองก็หันมาซื้อคอนโดมิเนียมในเมืองเป็นที่พักอาศัยสำรอง ผู้ที่มีที่อยู่อาศัยหลังแรกก็ตัดสินใจซื้อคอนโดมิเนียมมากกว่า
นี่คือความเปลี่ยนแปลงของโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยที่ผันแปรไปตามสภาพตลาด แต่โครงการอสังหาริมทรัพย์อีกประเภทหนึ่งที่ค่อนข้างเงียบ จนผู้คนเกือบจะลืมไปหลายปี ได้แก่ โครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทอาคารสำนักงาน ซึ่งระยะหลายปีหลังแทบไม่มีการเปิดตัวโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานใหม่ๆ ทั้งที่ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศก็มีการเติบโตตามสภาวะ การลงทุนจากต่างประเทศก็ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง
ยังไม่มีข้อมูลยืนยันสาเหตุที่แน่ชัดว่าเป็นเพราะเหตุใด
แต่จับสัญญาณเบื้องต้นจากตลาดที่อยู่อาศัยมือสอง จากบริษัทตัวแทนนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ที่มีประสบการณ์ยาวนาน พบว่า ในระยะหลังๆ ทาวน์เฮ้าส์ในพื้นที่ชั้นในของกรุงเทพฯ และในพื้นที่ชั้นกลางประมาณวงแหวนรัชดาภิเษก หากนำมาปรับปรุงใหม่เป็นโฮมออฟฟิศจะได้รับการตอบรับจากตลาดอย่างรวดเร็ว
สันนิษฐานว่า ปัจจุบันปัญหาการเดินทางในกรุงเทพฯ ที่ติดขัดมากขึ้นเป็นลำดับ ทัศนคติของผู้ประกอบธุรกิจรุ่นใหม่ที่ไม่ได้ยึดถือว่าการมีสำนักงานในอาคารสำนักงานขนาดใหญ่เป็นเรื่องโก้หรูและน่าเชื่อถือเหมือนในอดีตและที่สำคัญเทคโนโลยีการสื่อสารยุคใหม่ราคาไม่แพง หาได้ไม่ยาก อยู่ที่ไหนก็หาได้
ทำให้ธุรกิจรุ่นใหม่ๆ ซึ่งมักใช้จำนวนคนไม่มาก นิยมตั้งสำนักงานอยู่ตามอาคารขนาดเล็ก และยังย้อนยุคด้วยการอยู่อาศัยในชั้นบนของอาคารนั้นๆ เสียเลย เพื่อหนีปัญหาการจราจร
นี่จึงน่าจะเป็นที่มาของรูปแบบสำนักงานผสมที่อยู่อาศัยในพื้นที่ชั้นในและชั้นกลางของกรุงเทพฯ ที่เรียกว่า โฮมออฟฟิศ
อย่างไรก็ดี โฮมออฟฟิศ วันนี้ เพิ่งจะส่งสัญญาณความต้องการในตลาดมือสอง ถ้ากระแสความต้องการนี้มาจริง และมีมากพอ เชื่อว่าอีกไม่นานคงจะได้เห็นโฮมออฟฟิศที่เป็นการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โครงการใหม่กันจำนวนมาก
ที่มา : มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 23 - 29 มี.ค. 2555