"เฌอร่า" ทุ่มงบ 120 ล้านบาท ปรับภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ สู่ความเป็นเฌอร่า FCS ตั้งเป้าปี 2555 โต 35% หรือมียอดขายรวม 8,500 ล้านบาท ด้าน "คอนวูด"คาดแนวโน้มความต้องการสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์วัสดุทดแทนไม้พุ่ง ชูความพร้อมด้านกำลังการผลิตหลังเริ่มเดินเครื่องสายการผลิตที่3 ดันกำลังผลิตรวมพุ่ง 1.35 แสนตันต่อปี พร้อมลุยเจาะกลุ่มลูกค้าในอินโดนีเซียและอินเดีย
นางสาวมาดี ศรีวัฒนะ รองผู้อำนวยการตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์ไม้เฌอร่า บริษัท โอลิมปิคกระเบื้องไทย จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ จะดำเนินการปรับภาพลักษณ์ของตราสินค้าของสินค้า "ตราเฌอร่า" ใหม่ โดยก้าวจากความเป็น"วัสดุทดแทนไม้" สู่ความเป็น "เฌอร่า เอฟซีเอส"(Fibre Cement Composite SolutionsFCS) ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทจะผลักดันไปสู่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่เข้าร่วมกับโครงการของเฌอร่าในการจัดทำ SHERA home และ SHERA gallery เพื่อเป็นการส่งเสริมศักยภาพของสินค้ามากยิ่งขึ้น ทั้งนี้โดยจะเปิดตัวด้วยโฆษณาทีวี แคมเปญ "เมื่อโลกเปลี่ยน การเลือกวัสดุก็ต้องเปลี่ยนตาม เลือก เฌอร่า เอฟซีเอส" โดยจะใช้งบประมาณทั้งสิ้นกว่า 120 ล้านบาท
การปรับภาพลักษณ์ของเฌอร่าในครั้งนี้บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถสร้างยอดขายทั้งในและต่างประเทศในปีนี้ให้เติบโตขึ้นจากปีก่อนประมาณ 35% หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 8,500 ล้านบาท และคาดว่า จะส่งให้ "เฌอร่า" สามารถที่จะวางจำหน่ายและเป็นที่ยอมรับได้จาก ตลาดต่างประเทศในทุกทวีปทั่วโลก
ด้านนายสุทธิพันธ์ วัชโรภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอนวูด จำกัด กล่าวว่าปีนี้มีแผนการตลาดรุกตลาดผลิตภัณฑ์วัสดุทดแทน เพื่อรองรับแนวโน้มตลาดวัสดุทดแทนไม้ที่คาดว่า จะมีอัตราการเติบโต 15-20% จากปีก่อนหน้าซึ่งมีมูลค่าตลาดวัสดุทดแทนไม้อยู่ที่6,000 ล้านบาท โดยมีปัจจัยมาจากความต้องการผลิตภัณฑ์วัสดุทดแทนไม้ที่สูงขึ้นเพื่อนำไปใช้ในการซ่อมแซมที่อยู่อาศัยและการขยายตัวของตลาดที่อยู่อาศัยที่ยังมีอัตราการเติบโตที่ดี
"หลังจากคอนวูดได้ลงทุน 550 ล้านบาทในการติดตั้งเครื่องจักรในสายการผลิตที่ 3 ด้วยกำลังการผลิต 45,000 ตัน ซึ่งสามารถเริ่มเดินเครื่องจักรผลิตสินค้าได้ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาส่งผลให้กำลังการผลิตรวมเพิ่มขึ้นเป็น 135,000 ตันต่อปี ทำให้มีความพร้อมในการรุกตลาดทดแทนไม้มากขึ้น"
นอกจากนี้ ยังจะขยายตลาดส่งออกผลิตภัณฑ์วัสดุทดแทนไม้ไปยังตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะในประเทศอินโดนีเซีย และอินเดียส่วนตลาดในต่างประเทศ จะยังเน้นให้ความสำคัญกับการสร้างตราสินค้า "คอนวูด" กับตัวแทนจำหน่าย กลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้าง กลุ่มผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์
"การรุกตลาดต่างประเทศมากขึ้นเป็นกุญแจสำคัญแห่งความสำเร็จในการสร้างตลาดและผลักดันยอดขายสินค้าในตลาดต่างประเทศ ซึ่งบริษัทมีเป้าหมายผลักดันสัดส่วนการส่งออกเพิ่มเป็น 8% ภายใน 4-5 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนยอดขายจากการส่งออกอยู่ที่ 5%" นายสุทธิพันธ์ กล่าว
ที่มา: หนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการรายวัน
นอกจากนี้ บริษัทจะผลักดันไปสู่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่เข้าร่วมกับโครงการของเฌอร่าในการจัดทำ SHERA home และ SHERA gallery เพื่อเป็นการส่งเสริมศักยภาพของสินค้ามากยิ่งขึ้น ทั้งนี้โดยจะเปิดตัวด้วยโฆษณาทีวี แคมเปญ "เมื่อโลกเปลี่ยน การเลือกวัสดุก็ต้องเปลี่ยนตาม เลือก เฌอร่า เอฟซีเอส" โดยจะใช้งบประมาณทั้งสิ้นกว่า 120 ล้านบาท
การปรับภาพลักษณ์ของเฌอร่าในครั้งนี้บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถสร้างยอดขายทั้งในและต่างประเทศในปีนี้ให้เติบโตขึ้นจากปีก่อนประมาณ 35% หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 8,500 ล้านบาท และคาดว่า จะส่งให้ "เฌอร่า" สามารถที่จะวางจำหน่ายและเป็นที่ยอมรับได้จาก ตลาดต่างประเทศในทุกทวีปทั่วโลก
ด้านนายสุทธิพันธ์ วัชโรภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอนวูด จำกัด กล่าวว่าปีนี้มีแผนการตลาดรุกตลาดผลิตภัณฑ์วัสดุทดแทน เพื่อรองรับแนวโน้มตลาดวัสดุทดแทนไม้ที่คาดว่า จะมีอัตราการเติบโต 15-20% จากปีก่อนหน้าซึ่งมีมูลค่าตลาดวัสดุทดแทนไม้อยู่ที่6,000 ล้านบาท โดยมีปัจจัยมาจากความต้องการผลิตภัณฑ์วัสดุทดแทนไม้ที่สูงขึ้นเพื่อนำไปใช้ในการซ่อมแซมที่อยู่อาศัยและการขยายตัวของตลาดที่อยู่อาศัยที่ยังมีอัตราการเติบโตที่ดี
"หลังจากคอนวูดได้ลงทุน 550 ล้านบาทในการติดตั้งเครื่องจักรในสายการผลิตที่ 3 ด้วยกำลังการผลิต 45,000 ตัน ซึ่งสามารถเริ่มเดินเครื่องจักรผลิตสินค้าได้ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาส่งผลให้กำลังการผลิตรวมเพิ่มขึ้นเป็น 135,000 ตันต่อปี ทำให้มีความพร้อมในการรุกตลาดทดแทนไม้มากขึ้น"
นอกจากนี้ ยังจะขยายตลาดส่งออกผลิตภัณฑ์วัสดุทดแทนไม้ไปยังตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะในประเทศอินโดนีเซีย และอินเดียส่วนตลาดในต่างประเทศ จะยังเน้นให้ความสำคัญกับการสร้างตราสินค้า "คอนวูด" กับตัวแทนจำหน่าย กลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้าง กลุ่มผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์
"การรุกตลาดต่างประเทศมากขึ้นเป็นกุญแจสำคัญแห่งความสำเร็จในการสร้างตลาดและผลักดันยอดขายสินค้าในตลาดต่างประเทศ ซึ่งบริษัทมีเป้าหมายผลักดันสัดส่วนการส่งออกเพิ่มเป็น 8% ภายใน 4-5 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนยอดขายจากการส่งออกอยู่ที่ 5%" นายสุทธิพันธ์ กล่าว
ที่มา: หนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการรายวัน