รายงานผลการวิจัยฉบับล่าสุดของคอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ระบุว่าตลาดอาคารสำนักงานในไตรมาสที่ 4 ปี 2554 ยังคงอยุ่ในภาวะทรงตัวต่อเนื่องจากช่วงกลางปี
ดร.ปฏิมา จีระแพทย์ กรรมการผู้จัดการของคอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทยกล่าวว่า ตลาดอาคารสำนักงานในไตรมาสที่ 4 ปี2554 อยู่ในภาวะทรงตัว มีการขยายตัวไม่มาก แต่ราคาค่าเช่านั้นมีการปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในบางพื้นที่ส่วนปัญหาน้ำท่วมไม่ได้กระทบกับอาคารสำนักงานยกเว้นบางอาคารในพื้นที่น้ำท่วมที่ต้องปิดอาคารช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น แต่เนื่องจากปัญหาการเดินทางของพนักงานในตึกเป็นหลัก แต่ยังคงมีอาคารสำนักงานหลายแห่งที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างโดยเฉพาะในพื้นที่ริมถนนรัชดาภิเษก
ดร.ปฏิมา จีระแพทย์ กรรมการผู้จัดการของคอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทยกล่าวว่า ตลาดอาคารสำนักงานในไตรมาสที่ 4 ปี2554 อยู่ในภาวะทรงตัว มีการขยายตัวไม่มาก แต่ราคาค่าเช่านั้นมีการปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในบางพื้นที่ส่วนปัญหาน้ำท่วมไม่ได้กระทบกับอาคารสำนักงานยกเว้นบางอาคารในพื้นที่น้ำท่วมที่ต้องปิดอาคารช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น แต่เนื่องจากปัญหาการเดินทางของพนักงานในตึกเป็นหลัก แต่ยังคงมีอาคารสำนักงานหลายแห่งที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างโดยเฉพาะในพื้นที่ริมถนนรัชดาภิเษก
ด้าน นายสุรเชษฐ กองชีพ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายวิจัยของคอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนลประเทศไทย กล่าวว่า เนื่องจากความต้องการพื้นที่สำนักงานนั้นยังคงมีอยู่ ถึงแม้ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียงไม่มากนักในปีที่ผ่านมา แต่เนื่องจากว่าอุปทานมีจำกัดและมีอาคารสำนักงานใหม่สร้างเสร็จเป็นจำนวนไม่มากนัก ในปี 2554 มีอาคารสำนักงานเปิดใหม่ประมาณ 118,000 ตารางเมตร โดยอยู่ในเขตศูนย์กลางธุรกิจประมาณ 100,000 ตารางเมตร และที่เหลืออยู่บนถนนรัชดาภิเษก ซึ่งยังคงน้อยกว่าในช่วง 3- 4 ปีที่ผ่านมา ซึ่งพื้นที่อาคารสำนักงานในกรุงเทพมหานครทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ8 ล้านตารางเมตร โดย 78% ของทั้งหมดอยู่ในแนวเส้นทางรถไฟฟ้า และรถไฟใต้ดิน
"ปัจจัยที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อตลาดอาคารสำนักงาน คือภาวะเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัท หรือบริษัทแม่ในต่างประเทศ รวมทั้งปัญหาการเมืองในประเทศ ที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการขยายธุรกิจ หรือเปิดบริษัทในประเทศไทย ทำให้ในช่วงระยะเวลาดังกล่าวมีการขยายตัวของอัตราผู้เช่าที่ไม่มากรวมทั้งอัตราค่าเช่าเฉลี่ยที่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก"
ดร.ปฏิมา จีระแพทย์ กล่าวว่า อาคารสำนักงานจะมีการขยายตัวออกไปจากศูนย์กลางธุรกิจมากขึ้น เนื่องจากราคาที่ดินที่สูงขึ้นในพื้นที่ศูนย์กลางธุรกิจ ซึ่งทำให้ไม่เหมาะกับการพัฒนาอาคารสำนักงาน ทำให้อาคารสำนักงานมีการขยายตัวออกไปจากศูนย์กลางธุรกิจมากขึ้น โดยเฉพาะถนนรัชดาภิเษกโดยเริ่มตั้งแต่แยกพระราม 9 เป็นต้นไป บริเวณนั้นเป็นพื้นที่ที่อาคารสำนักงานอยู่ระหว่างการพัฒนามากที่สุดโดยภายในปี 2556 จะมีอาคารสำนักงานใหม่สร้างเสร็จมากกว่า 137,000 ตารางเมตร และยังคงมากที่สุดต่อเนื่องไปอีก 2 3 ปี เพราะว่าราคาที่ดินยังไม่สูงมากนัก และเป็นพื้นที่ที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว
นางสาวนฤมล โรจน์สิรวรพัฒน์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายธุรกิจอาคารสำนักงาน และอุตสาหกรรมของคอลลิเออร์สฯ กล่าวว่า จากพื้นที่อาคารสำนักงานรวมประมาณ 8 ล้านตารางเมตร มีผู้เช่าไปแล้วประมาณ 84% ของทั้งหมด ซึ่งสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาเล็กน้อย ถึงแม้ว่าจะมีอาคารสำนักงานสร้างเสร็จในปีที่ผ่านมามากกว่า 118,000 ตารางเมตร แต่ภาพรวมของตลาดอาคารสำนักงานยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี ยังรักษาอัตราผู้เช่าไว้ที่มากกว่า 84% ในส่วนของราคาค่าเช่าของอาคารสำนักงานนั้น ราคาค่าเช่าเฉลี่ยของอาคารสำนักงานในพื้นที่ศูนย์กลางธุรกิจอยู่ที่ประมาณ 600- 625 บาทต่อตารางเมตร
"ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาตลาดอาคารสำนักงานค่อนข้างคงตัวไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลงมากนัก เนื่องจากเป็นการทำสัญญาระยะยาวมากกว่า1 ปีขึ้นไป และแม้ว่าจะมีการย้ายสำนักงาน หรือขยายพื้นที่กันบ้างซึ่งโดยส่วนใหญ่ยังคงอยู่พื้นที่เดิมหรือไม่ไกลจากพื้นที่เดิมนัก เพราะปัจจัยเรื่องค่าขนย้ายยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้หลายบริษัทต้องคำนึงถึง"
สำหรับในปี 2555 นั้น เนื่องจากปัญหาเรื่องการเมืองในช่วง 2-3 ปีก่อนหน้านี้ และสถานการณ์น้ำท่วมในปีที่ผ่านมาได้สร้างความวิตกกังวลให้กับนักธุรกิจ และนักลงทุนที่ต้องการขยายธุรกิจ หรือลงทุนเพิ่มเติมในประเทศไทย แต่ในปี2555 นี้คาดว่าปัญหาต่างๆ น่าจะลดน้อยลงทั้งเรื่องการเมือง และปัญหาน้ำท่วมที่รัฐบาลต้องแสดงให้เห็นถึงแนวทางการแก้ปัญหาที่ชัดเจน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อนักธุรกิจชาวต่างชาติ ที่ต่างก็ต้องการเข้ามาลงทุนในประเทศไทย เนื่องจากความมีศักยภาพของประเทศไทย และตั้งอยู่ในทำเลที่ดีคืออยู่ใจกลางของเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งจะรวมเป็นหนึ่งเดียวในปี 2558 นี้ อีกทั้ง นักลงทุนต่างมุ่งความสนใจไปที่ประเทศพม่ากันเป็นจำนวนมากและประเทศไทยนั้นยังเหมาะที่จะเป็นสำนักงานใหญ่สำหรับการลงทุนในพม่า หรือในภูมิภาคนี้ ทั้งเหตุผลในเรื่องของการเดินทาง สิ่งอำนวยความสะดวกต่อการดำเนินชีวิต และแรงจูงใจในการลงทุน
ที่มา: หนังสือพิมพ์พิมพ์ไทย
"ปัจจัยที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อตลาดอาคารสำนักงาน คือภาวะเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัท หรือบริษัทแม่ในต่างประเทศ รวมทั้งปัญหาการเมืองในประเทศ ที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการขยายธุรกิจ หรือเปิดบริษัทในประเทศไทย ทำให้ในช่วงระยะเวลาดังกล่าวมีการขยายตัวของอัตราผู้เช่าที่ไม่มากรวมทั้งอัตราค่าเช่าเฉลี่ยที่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก"
ดร.ปฏิมา จีระแพทย์ กล่าวว่า อาคารสำนักงานจะมีการขยายตัวออกไปจากศูนย์กลางธุรกิจมากขึ้น เนื่องจากราคาที่ดินที่สูงขึ้นในพื้นที่ศูนย์กลางธุรกิจ ซึ่งทำให้ไม่เหมาะกับการพัฒนาอาคารสำนักงาน ทำให้อาคารสำนักงานมีการขยายตัวออกไปจากศูนย์กลางธุรกิจมากขึ้น โดยเฉพาะถนนรัชดาภิเษกโดยเริ่มตั้งแต่แยกพระราม 9 เป็นต้นไป บริเวณนั้นเป็นพื้นที่ที่อาคารสำนักงานอยู่ระหว่างการพัฒนามากที่สุดโดยภายในปี 2556 จะมีอาคารสำนักงานใหม่สร้างเสร็จมากกว่า 137,000 ตารางเมตร และยังคงมากที่สุดต่อเนื่องไปอีก 2 3 ปี เพราะว่าราคาที่ดินยังไม่สูงมากนัก และเป็นพื้นที่ที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว
นางสาวนฤมล โรจน์สิรวรพัฒน์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายธุรกิจอาคารสำนักงาน และอุตสาหกรรมของคอลลิเออร์สฯ กล่าวว่า จากพื้นที่อาคารสำนักงานรวมประมาณ 8 ล้านตารางเมตร มีผู้เช่าไปแล้วประมาณ 84% ของทั้งหมด ซึ่งสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาเล็กน้อย ถึงแม้ว่าจะมีอาคารสำนักงานสร้างเสร็จในปีที่ผ่านมามากกว่า 118,000 ตารางเมตร แต่ภาพรวมของตลาดอาคารสำนักงานยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี ยังรักษาอัตราผู้เช่าไว้ที่มากกว่า 84% ในส่วนของราคาค่าเช่าของอาคารสำนักงานนั้น ราคาค่าเช่าเฉลี่ยของอาคารสำนักงานในพื้นที่ศูนย์กลางธุรกิจอยู่ที่ประมาณ 600- 625 บาทต่อตารางเมตร
"ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาตลาดอาคารสำนักงานค่อนข้างคงตัวไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลงมากนัก เนื่องจากเป็นการทำสัญญาระยะยาวมากกว่า1 ปีขึ้นไป และแม้ว่าจะมีการย้ายสำนักงาน หรือขยายพื้นที่กันบ้างซึ่งโดยส่วนใหญ่ยังคงอยู่พื้นที่เดิมหรือไม่ไกลจากพื้นที่เดิมนัก เพราะปัจจัยเรื่องค่าขนย้ายยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้หลายบริษัทต้องคำนึงถึง"
สำหรับในปี 2555 นั้น เนื่องจากปัญหาเรื่องการเมืองในช่วง 2-3 ปีก่อนหน้านี้ และสถานการณ์น้ำท่วมในปีที่ผ่านมาได้สร้างความวิตกกังวลให้กับนักธุรกิจ และนักลงทุนที่ต้องการขยายธุรกิจ หรือลงทุนเพิ่มเติมในประเทศไทย แต่ในปี2555 นี้คาดว่าปัญหาต่างๆ น่าจะลดน้อยลงทั้งเรื่องการเมือง และปัญหาน้ำท่วมที่รัฐบาลต้องแสดงให้เห็นถึงแนวทางการแก้ปัญหาที่ชัดเจน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อนักธุรกิจชาวต่างชาติ ที่ต่างก็ต้องการเข้ามาลงทุนในประเทศไทย เนื่องจากความมีศักยภาพของประเทศไทย และตั้งอยู่ในทำเลที่ดีคืออยู่ใจกลางของเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งจะรวมเป็นหนึ่งเดียวในปี 2558 นี้ อีกทั้ง นักลงทุนต่างมุ่งความสนใจไปที่ประเทศพม่ากันเป็นจำนวนมากและประเทศไทยนั้นยังเหมาะที่จะเป็นสำนักงานใหญ่สำหรับการลงทุนในพม่า หรือในภูมิภาคนี้ ทั้งเหตุผลในเรื่องของการเดินทาง สิ่งอำนวยความสะดวกต่อการดำเนินชีวิต และแรงจูงใจในการลงทุน
ที่มา: หนังสือพิมพ์พิมพ์ไทย