นายสิทธิพร สุวรรณสุต นายกสมาคมไทยรับสร้างบ้าน (THCA) เปิดเผยว่า สมาคมได้สำรวจสถานการณ์ตลาดรับสร้างบ้านในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลพบว่าแม้จะยังซึมต่อเนื่องจากไตรมาส 4 ของปี 2554 แต่เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้นในช่วงท้ายเดือนกุมภาพันธ์ 2555 ทั้งในกลุ่มผู้บริโภคที่เคยชะลอการตัดสินใจ รวมถึงผู้บริโภคกลุ่มใหม่ที่มีแผนจะสร้างบ้านภายในปีนี้ก็เข้ามาติดต่อเพิ่มขึ้น
สำหรับในแง่ความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการที่มีต่อธุรกิจรับสร้างบ้านในปีนี้ จากผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 52% เชื่อว่าความต้องการหรือกำลังซื้อมีแนวโน้มเติบโตกว่าปีที่ผ่านมา ในขณะที่ผู้ตอบแบบสอบ ถามจำนวน 32% เชื่อว่ากำลังซื้อใกล้เคียงกับปีก่อน และผู้ตอบแบบ สอบถามจำนวน 16% เชื่อว่ากำลังซื้อลดลง จากผลสำรวจดังกล่าวชี้ให้เห็นว่าผู้ประกอบการยังมีความกังวลและไม่มั่นใจว่าภาวะตลาดจะกลับมา เติบโตได้จริง โดยชี้ว่าปัจจัยที่มีผลกระทบ 3 อันดับแรก ได้แก่ 1.ความกังวลของผู้บริโภคที่มีต่อปัญหาน้ำท่วม 2.ปัญหาแรงงานขาดแคลน และ 3.ต้นทุนที่ปรับเพิ่มสูงขึ้นจากค่าแรงและราคาน้ำมัน
"สมาคมประเมินว่าแนวโน้มกำลังซื้อในเขตกรุงเทพฯและปริ-มณฑลแม้จะฟื้นตัวกลับมา แต่อาจไม่ช่วยให้มูลค่าแท้จริงของตลาดรับสร้างบ้านเติบโตได้มากนัก ทั้งนี้ เป็นเพราะผู้ประกอบการไม่สามารถเร่งรัดการก่อสร้างบ้านได้เป็นปรกติ เนื่องจากปัญหาขาดแคลนแรงงานอย่างหนัก ซึ่งปีนี้สถานการณ์รุน แรงกว่าทุกๆปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังใช้ระบบหล่อโครงสร้างแบบเดิมๆ ส่งผลให้การรับรู้รายได้และจำนวนบ้านที่สร้างเสร็จไม่เติบโต"
ทั้งนี้ จากสถานการณ์และแนวโน้มข้างต้น สมาคมประเมินว่าปริมาณและมูลค่ารวมตลาดรับสร้างบ้านครึ่งปีแรกน่าจะอยู่ในภาวะทรง ตัว ฉะนั้นจำเป็นที่ผู้ประกอบการจะต้องวางกลยุทธ์เพื่อเรียกความเชื่อมั่นและกำลังซื้อคืนมาโดยการพัฒนาสินค้าและบริการ รวมถึงควรหันมาใช้ระบบก่อสร้างสำเร็จรูปหรือกึ่งสำเร็จรูปแทนการก่อสร้างแบบเดิม เพื่อลดการใช้แรงงานและแก้ปัญหาแรงงานขาดแคลน อย่างไรก็ดี สมาคม เล็งเปิดโรงเรียนหรือสถาบันสอนอาชีพสร้างบ้าน ซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาระยะยาวอย่างมีระบบ เพราะเรื่องดังกล่าวเป็นโครงการหนึ่งที่สมาคมกำหนดไว้ในกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาธุรกิจรับสร้างบ้านประเทศไทย โดยจะเริ่มขับเคลื่อนตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นไป
ที่มา: หนังสือพิมพ์โลกวันนี้
"สมาคมประเมินว่าแนวโน้มกำลังซื้อในเขตกรุงเทพฯและปริ-มณฑลแม้จะฟื้นตัวกลับมา แต่อาจไม่ช่วยให้มูลค่าแท้จริงของตลาดรับสร้างบ้านเติบโตได้มากนัก ทั้งนี้ เป็นเพราะผู้ประกอบการไม่สามารถเร่งรัดการก่อสร้างบ้านได้เป็นปรกติ เนื่องจากปัญหาขาดแคลนแรงงานอย่างหนัก ซึ่งปีนี้สถานการณ์รุน แรงกว่าทุกๆปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังใช้ระบบหล่อโครงสร้างแบบเดิมๆ ส่งผลให้การรับรู้รายได้และจำนวนบ้านที่สร้างเสร็จไม่เติบโต"
ทั้งนี้ จากสถานการณ์และแนวโน้มข้างต้น สมาคมประเมินว่าปริมาณและมูลค่ารวมตลาดรับสร้างบ้านครึ่งปีแรกน่าจะอยู่ในภาวะทรง ตัว ฉะนั้นจำเป็นที่ผู้ประกอบการจะต้องวางกลยุทธ์เพื่อเรียกความเชื่อมั่นและกำลังซื้อคืนมาโดยการพัฒนาสินค้าและบริการ รวมถึงควรหันมาใช้ระบบก่อสร้างสำเร็จรูปหรือกึ่งสำเร็จรูปแทนการก่อสร้างแบบเดิม เพื่อลดการใช้แรงงานและแก้ปัญหาแรงงานขาดแคลน อย่างไรก็ดี สมาคม เล็งเปิดโรงเรียนหรือสถาบันสอนอาชีพสร้างบ้าน ซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาระยะยาวอย่างมีระบบ เพราะเรื่องดังกล่าวเป็นโครงการหนึ่งที่สมาคมกำหนดไว้ในกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาธุรกิจรับสร้างบ้านประเทศไทย โดยจะเริ่มขับเคลื่อนตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นไป
ที่มา: หนังสือพิมพ์โลกวันนี้