อินเด็กซ์ลิฟวิ่งมอลล์ พลิกยุทธศาสตร์บุกคอมมูนิตี้ มอลล์ ทุ่ม 5,000 ล้านบาท ปักธง ‘เดอะวอล์ค’ 5 แห่งใน 5 ปี
นายเอกลักษณ์ ปัทมสัตยาสนธิ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจองค์กร บริษัทอินเด็กซ์ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด เปิดเผยว่า ยุทธศาสตร์การลงทุนของอินเด็กซ์ จะใช้โมเดลธุรกิจคอมมูนิตี้มอลล์ ภายใต้ชื่อ “เดอะวอล์ค” ในการขยายเครือข่ายทั่วประเทศ ต่อยอดธุรกิจหลักอินเด็กซ์ลิฟวิ่งมอลล์ โดยตั้งเป้าหมายเปิดบริการเดอะวอล์ค คอมมูนิตี้มอลล์ 5 แห่งภายใน 5 ปีข้างหน้า ด้วยเม็ดเงินลงทุนกว่า 5,000 ล้านบาท
โมเดลใหม่ครั้งนี้เป็นการต่อยอดธุรกิจของอินเด็กซ์ฯ เป็นการขยายฐานลูกค้าและเป็นช่องทางใหม่ๆ ในการสร้างรายได้ให้กับบริษัทซึ่งคาดว่าใน 5 ปีข้างหน้าจะสร้างสัดส่วนรายได้ประมาณ 10% ของกลุ่ม
นายเอกลักษณ์ ปัทมสัตยาสนธิ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจองค์กร บริษัทอินเด็กซ์ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด เปิดเผยว่า ยุทธศาสตร์การลงทุนของอินเด็กซ์ จะใช้โมเดลธุรกิจคอมมูนิตี้มอลล์ ภายใต้ชื่อ “เดอะวอล์ค” ในการขยายเครือข่ายทั่วประเทศ ต่อยอดธุรกิจหลักอินเด็กซ์ลิฟวิ่งมอลล์ โดยตั้งเป้าหมายเปิดบริการเดอะวอล์ค คอมมูนิตี้มอลล์ 5 แห่งภายใน 5 ปีข้างหน้า ด้วยเม็ดเงินลงทุนกว่า 5,000 ล้านบาท
โมเดลใหม่ครั้งนี้เป็นการต่อยอดธุรกิจของอินเด็กซ์ฯ เป็นการขยายฐานลูกค้าและเป็นช่องทางใหม่ๆ ในการสร้างรายได้ให้กับบริษัทซึ่งคาดว่าใน 5 ปีข้างหน้าจะสร้างสัดส่วนรายได้ประมาณ 10% ของกลุ่ม
สำหรับ เดอะวอล์ค คอมมูนิตี้มอลล์ สาขาแรกบนถนนราชพฤกษ์ มูลค่ากว่า 1,300 ล้านบาท เปิดบริการอย่างเป็นทางการเมื่อ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา ในพื้นที่ 25 ไร่ ในคอนเซปต์ วิลเลจ วอล์คกิ้ง สตรีท (Village Walking Street) ตกแต่งในสไตล์ Santa Monica Village พื้นที่อาคารมากกว่า 7 หมื่น ตร.ม. และพื้นที่ร้านค้ากว่า 2.5 หมื่น ตร.ม. รวม 300 ร้านค้า มีแม่เหล็กหลัก ได้แก่ อินเด็กซ์ลิฟวิ่งมอลล์ บิ๊กซีมาร์เก็ต เป็นต้น
“เดอะวอล์คเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ ที่มีรูปแบบอินดอร์ (Indoor) ทั้งหมด ถือเป็นที่แรกและที่เดียวในประเทศไทย ติดตั้งเครื่องปรับอากาศทั้งอาคาร สอดคล้องกับสภาพอากาศของไทยทั้งฤดูร้อนและฤดูฝนจะไม่ใช่อุปสรรคของการใช้บริการในคอมมูนิตี้มอลล์อีกต่อไป” นายเอกลักษณ์กล่าวและว่า นับเป็นการฉีกแนวจากคอมมูนิตี้มอลล์ส่วนใหญ่พัฒนาโครงการในรูปแบบของเอาท์ดอร์ (Outdoor) หรือ โอเพ่นแอร์ (Open Air)
สำหรับย่าน ราชพฤกษ์ พบว่าเป็นทำเลที่มีกำลังซื้อสูง เป็นครอบครัวรุ่นใหม่ คู่รักเพิ่งแต่งงาน จากการสำรวจย่านนี้มีโครงการบ้านจัดสรรไม่ต่ำกว่า 15 โครงการ ระดับราคาตั้งแต่ 4 ถึง 160 ล้านบาท มูลค่ารวมประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาท มีจำนวนบ้าน 4.05 แสนหลังและประชากร 1.3 ล้านคน ลูกค้าในย่านนี้มีพฤติกรรมการซื้อสินค้าในแต่ละครั้งในปริมาณมากเพราะเป็นลักษณะที่อยู่อาศัยเป็นครอบครัว สถานที่ไปซื้อของ คือ ดิสเคาท์สโตร์ ทั่วไป ในช่วงสุดสัปดาห์มักมองหาแหล่งสังสรรค์ พบปะ หาที่รับประทานอาหาร รับส่งบุตรหลานเข้าในเมืองเพื่อกวดวิชาหรือเรียนกิจกรรมเสริมต่างๆ ซึ่งเดอะวอล์คสามารถตอบโจทย์ความต้องการเหล่านี้ได้ ภายในไตรมาส 4 ปีนี้ ยังเตรียมเปิดบริการสาขาที่ 2 ย่านเกษตรนวมินทร์บนพื้นที่ 20 ไร่ ลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท อีก 2-3 ปีจากนี้จะเริ่มขยายตลาดต่างจังหวัดด้วย
ในปีนี้บริษัทวางเป้าหมายสร้างยอดขายรวม 8,600 ล้านบาท จากปีก่อนทำยอดขายได้ 8,050 บาท ใน 2-3 ปีข้างหน้าจะผลักดันรายได้ทะลุ 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งภายในปีหน้าเตรียมเปิดตัวธุรกิจโมเดลใหม่รองรับแผนเร่งขยายสาขาคลุมทั่วประเทศอีกด้วย
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
“เดอะวอล์คเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ ที่มีรูปแบบอินดอร์ (Indoor) ทั้งหมด ถือเป็นที่แรกและที่เดียวในประเทศไทย ติดตั้งเครื่องปรับอากาศทั้งอาคาร สอดคล้องกับสภาพอากาศของไทยทั้งฤดูร้อนและฤดูฝนจะไม่ใช่อุปสรรคของการใช้บริการในคอมมูนิตี้มอลล์อีกต่อไป” นายเอกลักษณ์กล่าวและว่า นับเป็นการฉีกแนวจากคอมมูนิตี้มอลล์ส่วนใหญ่พัฒนาโครงการในรูปแบบของเอาท์ดอร์ (Outdoor) หรือ โอเพ่นแอร์ (Open Air)
สำหรับย่าน ราชพฤกษ์ พบว่าเป็นทำเลที่มีกำลังซื้อสูง เป็นครอบครัวรุ่นใหม่ คู่รักเพิ่งแต่งงาน จากการสำรวจย่านนี้มีโครงการบ้านจัดสรรไม่ต่ำกว่า 15 โครงการ ระดับราคาตั้งแต่ 4 ถึง 160 ล้านบาท มูลค่ารวมประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาท มีจำนวนบ้าน 4.05 แสนหลังและประชากร 1.3 ล้านคน ลูกค้าในย่านนี้มีพฤติกรรมการซื้อสินค้าในแต่ละครั้งในปริมาณมากเพราะเป็นลักษณะที่อยู่อาศัยเป็นครอบครัว สถานที่ไปซื้อของ คือ ดิสเคาท์สโตร์ ทั่วไป ในช่วงสุดสัปดาห์มักมองหาแหล่งสังสรรค์ พบปะ หาที่รับประทานอาหาร รับส่งบุตรหลานเข้าในเมืองเพื่อกวดวิชาหรือเรียนกิจกรรมเสริมต่างๆ ซึ่งเดอะวอล์คสามารถตอบโจทย์ความต้องการเหล่านี้ได้ ภายในไตรมาส 4 ปีนี้ ยังเตรียมเปิดบริการสาขาที่ 2 ย่านเกษตรนวมินทร์บนพื้นที่ 20 ไร่ ลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท อีก 2-3 ปีจากนี้จะเริ่มขยายตลาดต่างจังหวัดด้วย
ในปีนี้บริษัทวางเป้าหมายสร้างยอดขายรวม 8,600 ล้านบาท จากปีก่อนทำยอดขายได้ 8,050 บาท ใน 2-3 ปีข้างหน้าจะผลักดันรายได้ทะลุ 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งภายในปีหน้าเตรียมเปิดตัวธุรกิจโมเดลใหม่รองรับแผนเร่งขยายสาขาคลุมทั่วประเทศอีกด้วย
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ