"ทีซีซี แลนด์" ทุ่มหมื่นล้าน ลุยธุรกิจค้าปลีก โรงแรม เล็งรับตลาดเออีซี ผุด 4 ศูนย์ค้าปลีก พร้อม 4 โรงแรมกรุงเทพฯ- ต่างจังหวัด
นายปณต สิริวัฒนภักดี รองกรรมการเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส บริษัท ทีซีซี แลนด์ รีเทล จำกัด เปิดเผยว่า ทิศทางการดำเนินธุรกิจปีนี้ จะเน้นกลุ่มธุรกิจค้าปลีกและโรงแรมเป็นหลัก เพื่อรองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจ และความต้องการของตลาดซึ่งยังมีอีกมาก เพราะลูกค้ากลุ่มเป้าหมายไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะคนไทย เพราะอีก 3 ปีข้างหน้าตลาดจะเปิดกว้างทั่วทั้งอาเซียนด้วยประชาชนกรราว 600 ล้านคน จากการเกิดขึ้นของประชาคมอาเซียน หรือ เออีซี
"เรามองศักยภาพเศรษฐกิจของไทย ยังพัฒนาและเติบโตได้อีกมาก และเมื่อเปิดเออีซีแล้ว การทำธุรกิจจะสามารถข้ามผ่านแต่ละประเทศได้อย่างเสรี อีกทั้งอาเซียนยังถือว่ามีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจโลก เติบโตปีละกว่า 10% และด้วยความได้เปรียบด้านทำเลที่ตั้งของไทย การดึงตลาดอาเซียนเข้ามาจึงไม่ใช่เรื่องยาก"
นายปณต สิริวัฒนภักดี รองกรรมการเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส บริษัท ทีซีซี แลนด์ รีเทล จำกัด เปิดเผยว่า ทิศทางการดำเนินธุรกิจปีนี้ จะเน้นกลุ่มธุรกิจค้าปลีกและโรงแรมเป็นหลัก เพื่อรองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจ และความต้องการของตลาดซึ่งยังมีอีกมาก เพราะลูกค้ากลุ่มเป้าหมายไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะคนไทย เพราะอีก 3 ปีข้างหน้าตลาดจะเปิดกว้างทั่วทั้งอาเซียนด้วยประชาชนกรราว 600 ล้านคน จากการเกิดขึ้นของประชาคมอาเซียน หรือ เออีซี
"เรามองศักยภาพเศรษฐกิจของไทย ยังพัฒนาและเติบโตได้อีกมาก และเมื่อเปิดเออีซีแล้ว การทำธุรกิจจะสามารถข้ามผ่านแต่ละประเทศได้อย่างเสรี อีกทั้งอาเซียนยังถือว่ามีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจโลก เติบโตปีละกว่า 10% และด้วยความได้เปรียบด้านทำเลที่ตั้งของไทย การดึงตลาดอาเซียนเข้ามาจึงไม่ใช่เรื่องยาก"
นายปณต กล่าวว่า ธุรกิจค้าปลีกเป็นกลุ่มธุรกิจที่น่าจับตามอง ซึ่งบริษัทกำลังศึกษาแนวทางการลงทุน โดยมีแนวคิดใช้แลนด์แบงก์ที่มีอยู่ขณะนี้ โดยเลือกทำเลที่เหมาะสมเพื่อพัฒนาต่อยอดธุรกิจ
ด้าน นายวิษณุ หวังวิสุทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจศูนย์การค้าและตลาด เปิดเผยว่า แนวทางพัฒนาธุรกิจค้าปลีกของบริษัท จะเน้นการกระจายทำเลที่ตั้ง เพื่อหลีกเลี่ยงการแข่งขันกับเจ้าตลาดเดิม โดยส่วนใหญ่จะเป็นโครงการค้าปลีกที่มีลักษณะเฉพาะ สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนแต่ละพื้นที่ ขณะนี้มีโครงการที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง และคาดจะเปิดตัวไตรมาส 2 ปีนี้ 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ เอเชีย ที เดอะ ริเวอร์ ฟร้อนท์ บริเวณถนนเจริญกรุง ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยลงทุนทั้งสิ้น 2,800 ล้านบาท ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโครงการที่เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยว สนองความต้องการของการชอปปิงในยามเย็น ซึ่งมีร้านค้ากว่า 1,000 ร้านค้า ซึ่งขณะนี้มียอดจองเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว
โครงการที่ 2 คือ การเกตเวย์ เอกมัย พื้นที่ 9 ไร่ ซึ่งเช่ามาจากสภากาชาดไทย โดยวางงบลงทุน 2,000 ล้านบาท ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง มีร้านค้าเข้าจองพื้นที่แล้วกว่า 90% และจะสามารถเปิดให้บริการได้ในไตรมาส 2 ปีนี้ โดยคาดว่าจะสามารถคืนทุนได้ระยะเวลา 11-12 ปี
"ผมมองว่าศูนย์การค้าของไทยยังกระจุกกันเกินไป อีกทั้งเอกมัยเป็นทำเลที่มีศักยภาพ ใกล้รถไฟฟ้า เป็นชุมชนที่มีการใช้จ่ายสูง โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นที่พักอาศัยบริเวณเอกมัยรัศมี 5 กิโลเมตร กว่า 32,000 คน ซึ่งทำให้เราวางคอนเซปต์เป็นญี่ปุ่น เพื่อรองรับทั้งชาวไทยและต่างประเทศ" นายวิษณุ กล่าว
ทั้งนี้ ทั้ง 2 โครงการ บริษัทตั้งเป้าให้เป็นตัวพิสูจน์ความสำเร็จของธุรกิจเพื่อสร้างความภักดีต่อผู้เช่า นอกจากนี้ยังมีโครงการที่อยู่ในแผนงานอีก ได้แก่ โครงการพัฒนาที่ดินบริเวณตลาดสามย่านเดิม บริเวณหัวมุมแยกสามย่านด้านติดถนนพญาไท พื้นที่ประมาณ 13 ไร่ ที่ ทีซีซี และ แลนด์แอนด์เฮ้าส์ ได้ยื่นข้อเสนอทีโออาร์เข้าไป 2 ราย และรอการประกาศผลจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ ในเดือนก.พ. นี้
พัฒนาแลนด์แบงก์ขยายค้าปลีกทั้งนี้ในส่วนของแผนการของทีซีซีแลนด์ หากได้เป็นผู้พัฒนา คือ โครงการมิกซ์ยูส ได้แก่ โรงแรมระดับ 3-4 ดาว ศูนย์การประชุม ศูนย์การเรียนรู้และห้างค้าปลีก ด้วยแนวคิด “INNOVATIVE CENTER” รวบรวมสินค้านวัตกรรมต่างๆ มีพื้นที่รวมกว่า 2 แสนตร.ม. ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้งบลงทุนประมาณ 5,000-6,000 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 30 ปี ไม่รวมผลตอบแทนจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้สอดคล้องกับโจทย์ของเจ้าของพื้นที่ที่ต้องการให้พื้นที่แห่งนี้สร้างประโยชน์แก่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สังคมและประเทศชาติ โดยคาดว่าจะใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 3 ปี เสร็จทันกับการเปิดรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาพื้นที่ในแลนด์แบงก์เดิมอีก 3 โครงการภายในปีนี้ ได้แก่ 1.อาคารพาณิชย์กว่า 40 ห้อง บริเวณถนนทรงวาด ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งซื้อมาเมื่อกลางปีที่ผ่านมา โดยจะพัฒนาเป็นศูนย์การค้าขนาดเล็ก เพื่อรองรับคนในพื้นที่และผู้ที่สัญจรไปมา 2.ที่ทำการพรรคการเมืองเดิมของ นายวัฒนา อัศวเหม ย่านเทเวศร์ ซึ่งเป็นพื้นที่ซื้อขาด และมีแผนเช่าพื้นที่เพิ่มจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัติรย์ บริเวณใกล้เคียง รวมทั้งสิ้น 2 ไร่ โดยจะพัฒนาเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ ใช้งบลงทุน 30-50 ล้านบาท
3.พื้นที่ 8 ไร่ ของการรถไฟฯ บนถนนรัชดาภิเษก ติดโครงการเอสซีบี ปาร์ค โดยระยะแรกจะพัฒนาเป็นตลาดนัด สวนอาหาร ใช้เงินลงทุนไม่เกิน 10 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการชั่วคราวนอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงและปรับภาพลักษณ์ธุรกิจค้าปลีกเดิมอย่างต่อเนื่อง ทั้งพันธุ์ทิพย์พลาซ่า ประตูน้ำ งามวงศ์วาน เป็นต้น
ทุ่ม 6 พันล้าน ผุด 4 โรงแรมส่วนธุรกิจโรงแรมปีนี้ บริษัทมีแผนสร้างโรงแรมใหม่ทั้งสิ้น 4 แห่ง ทั้งในกรุงเทพฯ และ ต่างจังหวัด ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 6,000 ล้านบาท แหล่งข่าวกล่าวว่า แผนการสร้างโรงแรมของ ทีซีซี แห่งหนึ่งคือโรงแรมบริเวณศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งขณะนี้ทางกรุงเทพมหานครกำลังแก้ไขข้อบัญญัติเกี่ยวกับการห้ามก่อสร้างตึกสูงเกิน 23 เมตรในพื้นที่บริเวณสวนสาธารณะเบญจกิติที่บังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2547 โดยจะยกเลิกการควบคุมความสูงการก่อสร้างอาคารทั้งหมด ทั้งนี้โครงการดังกล่าวเป็นแผนขยายธุรกิจระยะที่ 2 ของบริษัท เอ็นซีซี แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ บริษัทในกลุ่มทีซีซีแลนด์
นายปณต กล่าวว่า แม้ประเทศไทยจะมีปัจจัยเสี่ยงทั้งทางเศรษฐกิจและการเมือง แต่ประธานกลุ่มทีซีซี นายเจริญ สิริวัฒนภักดี เชื่อว่าการลงทุนในไทยต้องเป็นการลงทุนระยะยาว หากมองระยะสั้นคงไม่ประสบความสำเร็จ และเห็นว่าไทยนั้นผ่านวิกฤติมามาก แต่พื้นฐานยังแข็งแกร่ง ขณะเดียวกันก็ยังต้องการสิ่งใหม่ๆ ที่จะมายกระดับคุณภาพชีวิตและการอยู่อาศัยที่ดีขึ้นส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นั้นจะเปิดทั้งสิ้น 3 โครงการ เช่น โครงการวิลล่า อโศก เป็นต้น
ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ
ด้าน นายวิษณุ หวังวิสุทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจศูนย์การค้าและตลาด เปิดเผยว่า แนวทางพัฒนาธุรกิจค้าปลีกของบริษัท จะเน้นการกระจายทำเลที่ตั้ง เพื่อหลีกเลี่ยงการแข่งขันกับเจ้าตลาดเดิม โดยส่วนใหญ่จะเป็นโครงการค้าปลีกที่มีลักษณะเฉพาะ สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนแต่ละพื้นที่ ขณะนี้มีโครงการที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง และคาดจะเปิดตัวไตรมาส 2 ปีนี้ 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ เอเชีย ที เดอะ ริเวอร์ ฟร้อนท์ บริเวณถนนเจริญกรุง ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยลงทุนทั้งสิ้น 2,800 ล้านบาท ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโครงการที่เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยว สนองความต้องการของการชอปปิงในยามเย็น ซึ่งมีร้านค้ากว่า 1,000 ร้านค้า ซึ่งขณะนี้มียอดจองเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว
โครงการที่ 2 คือ การเกตเวย์ เอกมัย พื้นที่ 9 ไร่ ซึ่งเช่ามาจากสภากาชาดไทย โดยวางงบลงทุน 2,000 ล้านบาท ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง มีร้านค้าเข้าจองพื้นที่แล้วกว่า 90% และจะสามารถเปิดให้บริการได้ในไตรมาส 2 ปีนี้ โดยคาดว่าจะสามารถคืนทุนได้ระยะเวลา 11-12 ปี
"ผมมองว่าศูนย์การค้าของไทยยังกระจุกกันเกินไป อีกทั้งเอกมัยเป็นทำเลที่มีศักยภาพ ใกล้รถไฟฟ้า เป็นชุมชนที่มีการใช้จ่ายสูง โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นที่พักอาศัยบริเวณเอกมัยรัศมี 5 กิโลเมตร กว่า 32,000 คน ซึ่งทำให้เราวางคอนเซปต์เป็นญี่ปุ่น เพื่อรองรับทั้งชาวไทยและต่างประเทศ" นายวิษณุ กล่าว
ทั้งนี้ ทั้ง 2 โครงการ บริษัทตั้งเป้าให้เป็นตัวพิสูจน์ความสำเร็จของธุรกิจเพื่อสร้างความภักดีต่อผู้เช่า นอกจากนี้ยังมีโครงการที่อยู่ในแผนงานอีก ได้แก่ โครงการพัฒนาที่ดินบริเวณตลาดสามย่านเดิม บริเวณหัวมุมแยกสามย่านด้านติดถนนพญาไท พื้นที่ประมาณ 13 ไร่ ที่ ทีซีซี และ แลนด์แอนด์เฮ้าส์ ได้ยื่นข้อเสนอทีโออาร์เข้าไป 2 ราย และรอการประกาศผลจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ ในเดือนก.พ. นี้
พัฒนาแลนด์แบงก์ขยายค้าปลีกทั้งนี้ในส่วนของแผนการของทีซีซีแลนด์ หากได้เป็นผู้พัฒนา คือ โครงการมิกซ์ยูส ได้แก่ โรงแรมระดับ 3-4 ดาว ศูนย์การประชุม ศูนย์การเรียนรู้และห้างค้าปลีก ด้วยแนวคิด “INNOVATIVE CENTER” รวบรวมสินค้านวัตกรรมต่างๆ มีพื้นที่รวมกว่า 2 แสนตร.ม. ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้งบลงทุนประมาณ 5,000-6,000 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 30 ปี ไม่รวมผลตอบแทนจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้สอดคล้องกับโจทย์ของเจ้าของพื้นที่ที่ต้องการให้พื้นที่แห่งนี้สร้างประโยชน์แก่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สังคมและประเทศชาติ โดยคาดว่าจะใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 3 ปี เสร็จทันกับการเปิดรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาพื้นที่ในแลนด์แบงก์เดิมอีก 3 โครงการภายในปีนี้ ได้แก่ 1.อาคารพาณิชย์กว่า 40 ห้อง บริเวณถนนทรงวาด ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งซื้อมาเมื่อกลางปีที่ผ่านมา โดยจะพัฒนาเป็นศูนย์การค้าขนาดเล็ก เพื่อรองรับคนในพื้นที่และผู้ที่สัญจรไปมา 2.ที่ทำการพรรคการเมืองเดิมของ นายวัฒนา อัศวเหม ย่านเทเวศร์ ซึ่งเป็นพื้นที่ซื้อขาด และมีแผนเช่าพื้นที่เพิ่มจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัติรย์ บริเวณใกล้เคียง รวมทั้งสิ้น 2 ไร่ โดยจะพัฒนาเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ ใช้งบลงทุน 30-50 ล้านบาท
3.พื้นที่ 8 ไร่ ของการรถไฟฯ บนถนนรัชดาภิเษก ติดโครงการเอสซีบี ปาร์ค โดยระยะแรกจะพัฒนาเป็นตลาดนัด สวนอาหาร ใช้เงินลงทุนไม่เกิน 10 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการชั่วคราวนอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงและปรับภาพลักษณ์ธุรกิจค้าปลีกเดิมอย่างต่อเนื่อง ทั้งพันธุ์ทิพย์พลาซ่า ประตูน้ำ งามวงศ์วาน เป็นต้น
ทุ่ม 6 พันล้าน ผุด 4 โรงแรมส่วนธุรกิจโรงแรมปีนี้ บริษัทมีแผนสร้างโรงแรมใหม่ทั้งสิ้น 4 แห่ง ทั้งในกรุงเทพฯ และ ต่างจังหวัด ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 6,000 ล้านบาท แหล่งข่าวกล่าวว่า แผนการสร้างโรงแรมของ ทีซีซี แห่งหนึ่งคือโรงแรมบริเวณศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งขณะนี้ทางกรุงเทพมหานครกำลังแก้ไขข้อบัญญัติเกี่ยวกับการห้ามก่อสร้างตึกสูงเกิน 23 เมตรในพื้นที่บริเวณสวนสาธารณะเบญจกิติที่บังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2547 โดยจะยกเลิกการควบคุมความสูงการก่อสร้างอาคารทั้งหมด ทั้งนี้โครงการดังกล่าวเป็นแผนขยายธุรกิจระยะที่ 2 ของบริษัท เอ็นซีซี แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ บริษัทในกลุ่มทีซีซีแลนด์
นายปณต กล่าวว่า แม้ประเทศไทยจะมีปัจจัยเสี่ยงทั้งทางเศรษฐกิจและการเมือง แต่ประธานกลุ่มทีซีซี นายเจริญ สิริวัฒนภักดี เชื่อว่าการลงทุนในไทยต้องเป็นการลงทุนระยะยาว หากมองระยะสั้นคงไม่ประสบความสำเร็จ และเห็นว่าไทยนั้นผ่านวิกฤติมามาก แต่พื้นฐานยังแข็งแกร่ง ขณะเดียวกันก็ยังต้องการสิ่งใหม่ๆ ที่จะมายกระดับคุณภาพชีวิตและการอยู่อาศัยที่ดีขึ้นส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นั้นจะเปิดทั้งสิ้น 3 โครงการ เช่น โครงการวิลล่า อโศก เป็นต้น
ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ