ฟันธง 'คอนโด' ชานเมืองรุ่ง ผุดตามรอยต่อรถไฟฟา3ทำเลทอง : โดย ... ปรียา เทศนอก
ในช่วงระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-15 กุมภาพันธ์ 2555 ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์สำรวจพบว่า ผู้ประกอบการมีการเปิดโครงการที่อยู่อาศัยรวมกันทั้งสิ้น 8,800 หน่วย แบ่งเป็นห้องชุดคอนโดมิเนียมมากถึงประมาณ 7,960 หน่วย และบ้านจัดสรรเพียงประมาณ 840 หน่วย ซึ่งก็สอดคล้องกับความเห็นของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่เห็นในทิศทางเดียวกันว่า ปีนี้ "คอนโดมิเนียม" น่าจะเป็นพระเอก ในขณะที่จำนวนหน่วยบ้านจัดสรรมีน้อยมาก สะท้อนแนวโน้มทิศทางการพัฒนาโครงการในปีนี้ โดยคาดว่าตลอดทั้งปีผู้ประกอบการจะเปิดโครงการที่อยู่อาศัยประเภทอาคารชุดมากกว่า 5 หมื่นหน่วย และโครงการแนวราบไม่เกิน 4 หมื่นหน่วย
แห่ผุดคอนโดแนวรถไฟฟ้า
นายพนม กาญจนเทียมเท่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริเวณชานเมืองกรุงเทพมหานครยังคงเป็นบริเวณที่มีจำนวนคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ในอัตราสูงที่สุด คิดเป็นอัตราส่วน 65% ของจำนวนสินค้าที่เปิดขาย ในปีพ.ศ.2554 บริเวณชานเมืองที่มีคอนโดมิเนียมเป็นจำนวนมาก ได้แก่ 1.บริเวณฝั่งตะวันออกของกรุงเทพมหานคร คือ บริเวณส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อน เริ่มเปิดให้บริการในปีที่แล้ว จากอ่อนนุชไปยังสถานีแบริ่ง โดยคอนโดมิเนียมเริ่มเปิดขายบริเวณนี้ตั้งแต่ปีพ.ศ.2550-2554 มีอยู่ราว 26,903 หน่วย
2.บริเวณทางใต้ของกรุงเทพมหานคร ได้แก่ บริเวณตากสิน ซึ่งเป็นบริเวณที่มีส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม ที่เปิดให้บริการในปีพ.ศ.2552 จากสะพานตากสินไปยังสถานีวงเวียนใหญ่ ดังนั้นจะเห็นได้ว่าบริเวณนี้มีจำนวนคอนโดมิเนียมเริ่มเปิดขายตั้งแต่ปี พ.ศ.2550-2554 อยู่ราว 19,611 หน่วย
และ 3.บริเวณตอนเหนือของกรุงเทพมหานคร ได้แก่ บริเวณถนนงามวงศ์วาน และแจ้งวัฒนะ ซึ่งเริ่มมีการเปิดตัวช้ากว่า 2 บริเวณข้างต้น เนื่องจากรถไฟฟ้าสายสีชมพูมีกำหนดการแล้วเสร็จในปีพ.ศ.2559 มีจำนวนคอนโดมิเนียมเปิดขาย ณ ปลายปี พ.ศ.2554 อยู่ราว 15,185 หน่วย
ปริมาณคอนโดในบริเวณนี้หากเทียบกับบริเวณอื่นๆ ในกรุงเทพมหานคร ยังถือว่ามีจำนวนไม่สูงนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่อยู่บนถนนแจ้งวัฒนะจริงๆ มีเพียง 5,386 หน่วย นอกจากนี้ในจำนวน 5,386 หน่วย ยังมีโครงการที่อยู่ห่างถนนใหญ่หรือห่างจากสถานีรถไฟฟ้าอยู่ถึง 1,765 หน่วย หากเปรียบเทียบจริงๆ คอนโดที่อยู่ในทำเลดี บนนถนนแจ้งวัฒนะมีเพียง 3,621 หน่วย และพบว่ามีผู้ปประกอบการหน้าใหม่ๆ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายสุวัฒน์ เอี่ยมวงศ์วาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท วินซัม จำกัด ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์หน้าใหม่ แบรนด์ซัมเมอร์ การ์เด้นท์ เปิดเผยว่า ได้ทำการศึกษาตลาดคอนโดมิเนียม บริเวณแจ้งวัฒนะอย่างละเอียดถี่ถ้วน และเห็นศักยภาพของที่ดินที่จะนำมาพัฒนา ทำการศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม อีกทั้งยังศึกษาคู่แข่ง เพื่อหาจุดแข็ง และการสร้างความแตกต่างจากโครงการในละแวกใกล้เคียง เน้นเพื่อพัฒนาที่พักอาศัยสำหรับคนเมือง ในระดับราคาที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า นอกจากนี้ยังยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่ผู้ที่พักอาศัยในโครงการ ด้วยการมีพื้นที่สวนส่วนกลางที่มีพื้นที่กว่า 2 ไร่ อยู่ภายในโครงการ โอบล้อมด้วยสระว่ายน้ำขนาดใหญ่แบบฟรี ฟอร์ม และฟิตเนสเน้นธรรมชาติแบบสบายๆ ในสวน เปิดเฟสแรกภายในระยะเวลาอันสั้น ขายไปกว่า 50%
"บริษัทได้เล็งเห็นความต้องการคอนโดในบริเวณนี้ เนื่องจากเป็นบริเวณที่มีการพัฒนาระบบขนส่งมวลชน กล่าวคือ รถไฟฟ้าสายสีชมพู ซึ่งจะแล้วเสร็จในอีกไม่นาน ราวปีพ.ศ.2559 เมื่อย้อนไปดูอุปทานและอุปสงค์ของบริเวณอื่นๆ ในกรุงเทพฯ ที่เป็นเส้นทางรถไฟฟ้าในอนาคต และการพัฒนาคอนโดในย่านส่วนต่อขยายรถไฟฟ้า จึงเล็งเห็นศักยภาพของที่ดิน"
ย้ายจากบ้านขึ้นคอนโด
แต่หากจะถามว่า กลุ่มลูกค้าบริเวณนี้คือใคร? นายพนมกล่าวว่า กลุ่มลูกค้าที่ซื้อคอนโดมิเนียมในบริเวณนี้ ได้แก่ ผู้ที่พักอาศัยที่มีที่พักในรูปแบบบ้านเดี่ยว ที่ตั้งอยู่ในบริเวณนนทบุรี ซึ่งข้ามฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาไป หรือผู้ที่มีบ้านพักในหมู่บ้านบริเวณแจ้งวัฒนะ กล่าวคือ หมู่บ้านกฤษดามหานคร หมู่บ้านเมืองทองธานี นิชาดาธานี และมีความต้องการซื้อคอนโดมิเนียมให้ลูกหลานเพื่ออยู่ในละแวกไม่ไกลนัก จึงนิยมซื้อคอนโดมิเนียมในบริเวณนี้เก็บไว้ให้ลูกหลาน
นอกจากนี้ยังอาจซื้อเก็บไว้ในอนาคต เนื่องจากการขยายตัวของรถไฟฟ้าสายสีชมพู ซึ่งผ่านบริเวณแจ้งวัฒนะ และงามวงศ์วาน ซึ่งมีผลในด้านราคาในอนาคตของคอนโดมิเนียมในบริเวณนี้ นอกจากนี้ยังมีกลุ่มข้าราชการ ซึ่งศูนย์ราชการได้ย้ายมาตั้งในบริเวณถนนแจ้งวัฒนะ อีกทั้งยังมีหน่วยงานราชการต่างๆ เช่น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และส่วนราชการอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก ห่างไปหน่อยจะมีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งมีผู้ปกครองซื้อให้ลูกหลานที่เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แต่คอนโดมิเนียมดังกล่าวมักมีสถานที่ตั้งอยู่บริเวณถนนงามวงศ์วาน จากสภาพที่รายล้อมไปด้วยมหาวิทยาลัย และสถาบันการศึกษาต่างๆ ทำให้บริเวณนี้มีกลุ่มลูกค้าเป็นผู้ปกครองที่มีลูกศึกษาในมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อีกทั้งในอนาคตมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยจะย้ายมาอยู่ในบริเวณนี้อีกด้วย
รวมทั้งยังมีกลุ่มนักลงทุนระยะยาวที่สนใจซื้อคอนโดมิเนียมในบริเวณนี้ เพื่อปล่อยเช่า เนื่องจากอัตราการเข้าพักของอพาร์ตเมนต์ในบริเวณนี้อยู่สูงถึงร้อยละ 99.5 ทำให้นักลงทุนสนใจซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อปล่อยเช่า โดยรูปแบบห้องที่เป็นที่นิยมสำหรับการปล่อยเช่าคือ แบบสตูดิโอ หรือ แบบ 1 ห้องนอนขนาดเล็ก ซึ่งผลตอบแทนในการลงทุนปล่อยเช่าในบริเวณนี้พบว่ามีผลตอบแทนที่สูงกว่าบริเวณใจกลางธุรกิจบางแห่ง กล่าวคือ ผลตอบแทนในการปล่อยเช่าในบริเวณนี้สูงถึงร้อยละ 7-9
ที่มา คมชัดลึก
ในช่วงระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-15 กุมภาพันธ์ 2555 ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์สำรวจพบว่า ผู้ประกอบการมีการเปิดโครงการที่อยู่อาศัยรวมกันทั้งสิ้น 8,800 หน่วย แบ่งเป็นห้องชุดคอนโดมิเนียมมากถึงประมาณ 7,960 หน่วย และบ้านจัดสรรเพียงประมาณ 840 หน่วย ซึ่งก็สอดคล้องกับความเห็นของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่เห็นในทิศทางเดียวกันว่า ปีนี้ "คอนโดมิเนียม" น่าจะเป็นพระเอก ในขณะที่จำนวนหน่วยบ้านจัดสรรมีน้อยมาก สะท้อนแนวโน้มทิศทางการพัฒนาโครงการในปีนี้ โดยคาดว่าตลอดทั้งปีผู้ประกอบการจะเปิดโครงการที่อยู่อาศัยประเภทอาคารชุดมากกว่า 5 หมื่นหน่วย และโครงการแนวราบไม่เกิน 4 หมื่นหน่วย
แห่ผุดคอนโดแนวรถไฟฟ้า
นายพนม กาญจนเทียมเท่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริเวณชานเมืองกรุงเทพมหานครยังคงเป็นบริเวณที่มีจำนวนคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ในอัตราสูงที่สุด คิดเป็นอัตราส่วน 65% ของจำนวนสินค้าที่เปิดขาย ในปีพ.ศ.2554 บริเวณชานเมืองที่มีคอนโดมิเนียมเป็นจำนวนมาก ได้แก่ 1.บริเวณฝั่งตะวันออกของกรุงเทพมหานคร คือ บริเวณส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อน เริ่มเปิดให้บริการในปีที่แล้ว จากอ่อนนุชไปยังสถานีแบริ่ง โดยคอนโดมิเนียมเริ่มเปิดขายบริเวณนี้ตั้งแต่ปีพ.ศ.2550-2554 มีอยู่ราว 26,903 หน่วย
2.บริเวณทางใต้ของกรุงเทพมหานคร ได้แก่ บริเวณตากสิน ซึ่งเป็นบริเวณที่มีส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม ที่เปิดให้บริการในปีพ.ศ.2552 จากสะพานตากสินไปยังสถานีวงเวียนใหญ่ ดังนั้นจะเห็นได้ว่าบริเวณนี้มีจำนวนคอนโดมิเนียมเริ่มเปิดขายตั้งแต่ปี พ.ศ.2550-2554 อยู่ราว 19,611 หน่วย
และ 3.บริเวณตอนเหนือของกรุงเทพมหานคร ได้แก่ บริเวณถนนงามวงศ์วาน และแจ้งวัฒนะ ซึ่งเริ่มมีการเปิดตัวช้ากว่า 2 บริเวณข้างต้น เนื่องจากรถไฟฟ้าสายสีชมพูมีกำหนดการแล้วเสร็จในปีพ.ศ.2559 มีจำนวนคอนโดมิเนียมเปิดขาย ณ ปลายปี พ.ศ.2554 อยู่ราว 15,185 หน่วย
ปริมาณคอนโดในบริเวณนี้หากเทียบกับบริเวณอื่นๆ ในกรุงเทพมหานคร ยังถือว่ามีจำนวนไม่สูงนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่อยู่บนถนนแจ้งวัฒนะจริงๆ มีเพียง 5,386 หน่วย นอกจากนี้ในจำนวน 5,386 หน่วย ยังมีโครงการที่อยู่ห่างถนนใหญ่หรือห่างจากสถานีรถไฟฟ้าอยู่ถึง 1,765 หน่วย หากเปรียบเทียบจริงๆ คอนโดที่อยู่ในทำเลดี บนนถนนแจ้งวัฒนะมีเพียง 3,621 หน่วย และพบว่ามีผู้ปประกอบการหน้าใหม่ๆ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายสุวัฒน์ เอี่ยมวงศ์วาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท วินซัม จำกัด ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์หน้าใหม่ แบรนด์ซัมเมอร์ การ์เด้นท์ เปิดเผยว่า ได้ทำการศึกษาตลาดคอนโดมิเนียม บริเวณแจ้งวัฒนะอย่างละเอียดถี่ถ้วน และเห็นศักยภาพของที่ดินที่จะนำมาพัฒนา ทำการศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม อีกทั้งยังศึกษาคู่แข่ง เพื่อหาจุดแข็ง และการสร้างความแตกต่างจากโครงการในละแวกใกล้เคียง เน้นเพื่อพัฒนาที่พักอาศัยสำหรับคนเมือง ในระดับราคาที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า นอกจากนี้ยังยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่ผู้ที่พักอาศัยในโครงการ ด้วยการมีพื้นที่สวนส่วนกลางที่มีพื้นที่กว่า 2 ไร่ อยู่ภายในโครงการ โอบล้อมด้วยสระว่ายน้ำขนาดใหญ่แบบฟรี ฟอร์ม และฟิตเนสเน้นธรรมชาติแบบสบายๆ ในสวน เปิดเฟสแรกภายในระยะเวลาอันสั้น ขายไปกว่า 50%
"บริษัทได้เล็งเห็นความต้องการคอนโดในบริเวณนี้ เนื่องจากเป็นบริเวณที่มีการพัฒนาระบบขนส่งมวลชน กล่าวคือ รถไฟฟ้าสายสีชมพู ซึ่งจะแล้วเสร็จในอีกไม่นาน ราวปีพ.ศ.2559 เมื่อย้อนไปดูอุปทานและอุปสงค์ของบริเวณอื่นๆ ในกรุงเทพฯ ที่เป็นเส้นทางรถไฟฟ้าในอนาคต และการพัฒนาคอนโดในย่านส่วนต่อขยายรถไฟฟ้า จึงเล็งเห็นศักยภาพของที่ดิน"
ย้ายจากบ้านขึ้นคอนโด
แต่หากจะถามว่า กลุ่มลูกค้าบริเวณนี้คือใคร? นายพนมกล่าวว่า กลุ่มลูกค้าที่ซื้อคอนโดมิเนียมในบริเวณนี้ ได้แก่ ผู้ที่พักอาศัยที่มีที่พักในรูปแบบบ้านเดี่ยว ที่ตั้งอยู่ในบริเวณนนทบุรี ซึ่งข้ามฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาไป หรือผู้ที่มีบ้านพักในหมู่บ้านบริเวณแจ้งวัฒนะ กล่าวคือ หมู่บ้านกฤษดามหานคร หมู่บ้านเมืองทองธานี นิชาดาธานี และมีความต้องการซื้อคอนโดมิเนียมให้ลูกหลานเพื่ออยู่ในละแวกไม่ไกลนัก จึงนิยมซื้อคอนโดมิเนียมในบริเวณนี้เก็บไว้ให้ลูกหลาน
นอกจากนี้ยังอาจซื้อเก็บไว้ในอนาคต เนื่องจากการขยายตัวของรถไฟฟ้าสายสีชมพู ซึ่งผ่านบริเวณแจ้งวัฒนะ และงามวงศ์วาน ซึ่งมีผลในด้านราคาในอนาคตของคอนโดมิเนียมในบริเวณนี้ นอกจากนี้ยังมีกลุ่มข้าราชการ ซึ่งศูนย์ราชการได้ย้ายมาตั้งในบริเวณถนนแจ้งวัฒนะ อีกทั้งยังมีหน่วยงานราชการต่างๆ เช่น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และส่วนราชการอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก ห่างไปหน่อยจะมีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งมีผู้ปกครองซื้อให้ลูกหลานที่เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แต่คอนโดมิเนียมดังกล่าวมักมีสถานที่ตั้งอยู่บริเวณถนนงามวงศ์วาน จากสภาพที่รายล้อมไปด้วยมหาวิทยาลัย และสถาบันการศึกษาต่างๆ ทำให้บริเวณนี้มีกลุ่มลูกค้าเป็นผู้ปกครองที่มีลูกศึกษาในมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อีกทั้งในอนาคตมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยจะย้ายมาอยู่ในบริเวณนี้อีกด้วย
รวมทั้งยังมีกลุ่มนักลงทุนระยะยาวที่สนใจซื้อคอนโดมิเนียมในบริเวณนี้ เพื่อปล่อยเช่า เนื่องจากอัตราการเข้าพักของอพาร์ตเมนต์ในบริเวณนี้อยู่สูงถึงร้อยละ 99.5 ทำให้นักลงทุนสนใจซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อปล่อยเช่า โดยรูปแบบห้องที่เป็นที่นิยมสำหรับการปล่อยเช่าคือ แบบสตูดิโอ หรือ แบบ 1 ห้องนอนขนาดเล็ก ซึ่งผลตอบแทนในการลงทุนปล่อยเช่าในบริเวณนี้พบว่ามีผลตอบแทนที่สูงกว่าบริเวณใจกลางธุรกิจบางแห่ง กล่าวคือ ผลตอบแทนในการปล่อยเช่าในบริเวณนี้สูงถึงร้อยละ 7-9
ที่มา คมชัดลึก