Sittichai Real Estate Agent
  • Home
  • About us
  • Property for sale
    • Land >
      • Beachfront 2 Rai, Jao Samran Beach
      • Beachfront 56.5 Rai, Puektian Beach
      • 3-1-50 Rai, Ratchada 36
      • 3.5 Rai, Lasalle
      • 4 Rai, Buddhabucha 39
      • 7 Rai, Prachauthit
      • 8.5 Rai, Buddhabucha 39
      • 38 Rai, Pathumthani
      • 102 sq.w. Prachauthit 79
      • 223 sq.w. Buddhabucha 39
      • 200 sq.w. Sukhumvit 70/3
    • House >
      • 2 flr. 31sq.w. Lad Proa 71
      • 2 flr. 64 sq.w. Chalearmprakiatlor 9
      • Villa 223 sq.w. Phetchaburi
      • Villa 3-1-50 Rai, Chiang Mai
    • Townhouse >
      • Ratchada Arkadian 29.9 sq.w. Kanjanapisek
      • Bangkok Green Park 36 sq.w. Jaroennakorn
    • Condominium >
      • The Bangkok Narathiwat 75 sq.m. 2 bedroom, Narathiwat Ratchanakarin
      • Baan Nubkluen 62.11 sq.m. Hua Hin
      • Lang Suan Ville 191.72 sq.m. 3 bedroom near BTS Chidlom
      • Liberty Park 252.99 sq.m. 3 bedroom Sukhumwitt 23
      • Prestige Towers 254 sq.m. 3 bedroom Sukhumwitt 23
    • Home Office >
      • 2 Unit 3 flr. 32 sq.w. Sukhumvit 70/3
      • 2 Unit 4 flr. 34 sq.w. Sukhumvit 48
    • Office Building >
      • 5 flr. 576 sq.m. Ratchada 26
    • Factory >
      • 5,936 sq.m. 12 Rai Samutprakarn
    • All
  • Property News
  • Real Estate Tips
  • Contact
085-255-5565

'บุษบา'สานต่องาน'ยิ่งลักษณ์'

2/19/2012

Comments

 
Picture
 นับตั้งแต่นางบุษบา  ดามาพงศ์  ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร  บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)  อย่างเป็นทางการตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคม 2554 ที่ผ่านมา  แทนนางสาวยิ่งลักษณ์  ชินวัตร  ที่หันไปดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี  ช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมานางบุษบา ได้ออกมาแถลงข่าวพบปะสื่อมวลชนเป็นครั้งแรกหลังการเข้ารับตำแหน่ง  พร้อมด้วย 2 ผู้บริหาร ได้แก่ ร.อ.กรี  เดชชัย  ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการปฏิบัติการ  นายอรรถพล สฤษฎิพันธาวาทย์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน ซึ่งถือว่านางบุษบา  เป็นคีย์แมนสำคัญที่เข้ามาสานต่อนโยบายของนางสาวยิ่งลักษณ์ที่ได้วางไว้  โดยเฉพาะกับเป้าหมายการทำยอดขายและรายได้ทะลุ 10,000 ล้านบาท

++สานต่องาน "ปู"
การเข้ามารับช่วงบริหารของนางบุษบา ดามาพงศ์ ต่อจากนางสาวยิ่งลักษณ์  ชินวัตร  นั้นในด้านการบริหารงานและเป้าหมายอาจจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก  เพราะทิศทางของธุรกิจได้ถูกวางไว้ล่วงหน้าที่จะผลักดันให้มียอดขายและรายได้ถึง 10,000 ล้านบาท  ซึ่งในปีนี้คงจะสามารถทำยอดขายได้เป็นไปตามเป้าหมาย 10,000 ล้านบาท  นับเป็นการเติบโต 20% จากปีที่ผ่านมาทำได้ 8,100 ล้านบาท  แต่ในส่วนรายได้อาจจะไม่สามารถทำได้  เนื่องจากผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมใหญ่ครั้งที่ผ่านมา  ทำให้เป้าหมายรายได้คงต้องเลื่อนออกไปอย่างน้อย 1-2 ปีข้างหน้านี้


ขณะที่ทิศทางของบริษัท  เอสซีฯ ภายใต้การบริหารงานของนางบุษบานั้น  ก็ยังคงเป็นไปตามนโยบายเดิมที่นางสาวยิ่งลักษณ์วางไว้  แต่จะเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานให้ดีมากขึ้น  และสร้างผลกำไรให้มีมากขึ้น  และคงต้องสร้างชื่อให้กับเอสซีเป็นที่รู้จักในต่างประเทศ  โดยการนำเอาโครงการคอนโดมิเนียม  ออกไปขายยังต่างประเทศผ่านบริษัทเอเยนต์  โดยวางเป้าหมายกลุ่มประเทศในเอเชีย  เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย และฮ่องกง เป็นต้น   


 ส่วนภาพลักษณ์ของบริษัท เอสซีฯ ยังคงเป็นของตระกูล "ชินวัตร" นั้น  นางบุษบา  ก็ยืนยันว่าหากมองในเรื่องของการถือหุ้นใหญ่  ก็ยังคงปฏิเสธไม่ได้  แต่หากมองดูในด้านการบริหารงานนั้น  ก็เป็นไปตามข้อกำหนดของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)  และดำเนินงานถูกต้องตามระเบียบข้อบังคับทุกอย่าง  แม้แต่การที่นางสาวยิ่งลักษณ์  อดีตผู้บริหารไปนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี  บริษัท เอสซีฯ ก็ไม่ได้รับประโยชน์อะไรนอกเหนือจากนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันเคยบริหารงานเท่านั้นเอง  


 ++ลุยโปรเจ็กต์ใหม่1.7หมื่นล.
 ด้านแผนการพัฒนาโครงการใหม่ในปีนี้  วางแผนการพัฒนาไว้ 16 โครงการ มูลค่ารวม 17,000 ล้านบาท  และบริษัทยังมีโครงการต่อเนื่องอีก 6 โครงการ มูลค่าคงเหลือประมาณ 11,500 ล้านบาท ทำให้บริษัทมีโครงการที่จะขายในปีนี้ 32 โครงการ รวมมูลค่า 28,500 ล้านบาท  ส่วนเป้าหมายรายได้ปีนี้คาดว่าจะทำได้ไม่ต่ำกว่า 10% จากปีที่ผ่านมา  ปัจจุบันบริษัทมียอดขายล่วงหน้าที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ประมาณ 3,400 ล้านบาท โดยจะสามารถรับรู้รายได้ในปีนี้ 60%   โดยในปีนี้บริษัทจะขยายทำเลใหม่และกลุ่มลูกค้าใหม่ พร้อมทั้งยังเน้นการพัฒนาโครงการแนวราบเป็นหลักด้วยสัดส่วน 70% และจะมีการออกไปทำตลาดในเมืองท่องเที่ยว อย่างหัวหิน และชะอำเพิ่มด้วย  ขณะที่พัทยาก็อยู่ระหว่างการหาซื้อที่ดิน  มูลค่าราว 500 ล้านบาท โดยจะพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมแบรนด์เซ็นทริค  ซึ่งในปีนี้บริษัทได้ตั้งงบลงทุนที่ดินไว้  3,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการพัฒนาโครงการใหม่ในปีอีก 1-2 ข้างหน้า


 สำหรับโครงการแนวสูงมี 4 โครงการ รวมมูลค่าโครงการ 5,600 ล้านบาท  โดยโครงการแรกจะเปิดให้เยี่ยมชมในปลายไตรมาสแรกนี้   เป็นโครงการคอนโดมิเนียมและที่พักตากอากาศที่หัวหิน ชื่อ  "เดอะ  เครสท์ แซนโตรา หัวหิน" มีขนาดพื้นที่โครงการประมาณ  11 ไร่   ด้วยแนวคิดโครงการ "Santorini Island"   มูลค่าโครงการ 1,250  ล้านบาท  ราคาเฉลี่ย 1 แสนบาทต่อตารางเมตร  มีจุดเด่นทำเลที่ติดชายหาดหัวหิน หน้ากว้างประมาณ 80 เมตร     สำหรับคอนโดมิเนียมใหม่อีก 3 โครงการ ยังมุ่งเน้นทำเลหลักที่อยู่ใจกลางธุรกิจ   ได้แก่  ทำเลสุขุมวิท สาทร และ รัชดาฯ-รามอินทรา ซึ่งยังคงใช้แบรนด์หลัก คือ เดอะ เครสท์ และ เซ็นทริค


ส่วนพื้นที่สำนักงานให้เช่าในปีนี้บริษัทยังไม่มีแผนการพัฒนา เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจและความต้องการพื้นที่เช่าไม่เติบโต และที่ผ่านมาอัตราการเช่าลดลงด้วย  ปีที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้จากค่าเช่าพื้นที่ประมาณ 800 ล้านบาท หรือสัดส่วน 10% ของรายได้รวม 


 นอกจากนี้  บริษัทยังมีแผนการนำเทคโนโลยีชิ้นส่วนคอนกรีตสำเร็จรูป (พรีแฟบ) มาใช้ในการสร้างโครงการแนวราบทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม ซึ่งจะส่งผลให้ระยะเวลาการก่อสร้างเร็วขึ้น  โดยการก่อสร้างทาวน์โฮมจะใช้เวลา 4 เดือนจากเดิม 7 เดือน หรือจำนวน 20-25 ยูนิตต่อเดือน ขณะที่บ้านเดี่ยวก็จะใช้เวลาเพียง 4 เดือนครึ่ง หรือ 10 หลังต่อเดือน  โดยจะส่งผลให้มีการโอนได้เร็วขึ้น โดยจะเริ่มใช้กับบ้านระดับราคา 5 ล้านบาท

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,715   19-22  กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555


Comments
    Picture

    Author

    ข่าวสาร สาระน่ารู้ ที่น่าติดตามของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย

    ติดตาม @ThaiRealtyNews
    Click to Hot Line
    Picture
    Picture
    Picture
    Picture
    Picture
    Picture
    Picture
    Picture
    Picture
    Picture
    Picture
    ติดตาม @ThaiRealtyNews

    RSS Feed

    • Home
    • About us
    • Property for Sale
    • Property News
    • Real Estate Tips
    • Contact
Powered by Create your own unique website with customizable templates.