อสังหาฯเชียงใหม่แนวโน้มสดใส นักลงทุนทั้งจากส่วนกลางและในพื้นที่แห่ผุดโครงการต่อเนื่อง ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯธอส.เผยปลายปี 2554 มีโครงการอยู่ระหว่างการขาย 241 โครงการ รวม 22,650 หน่วย รวมมูลค่ากว่า 6.4 หมื่นล้าน
แบ่งเป็นแนวราบ 208 โครงการ อาคารชุด 33 โครงการ ชี้แนวโน้มอาคารชุดขยับเพิ่มขึ้น เหตุจากคนต่างถิ่นและชาวต่างชาตินิยมซื้อ
นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส) เปิดเผยว่า มีแนวโน้มสูงที่จะมีการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดเชียงใหม่เพิ่มมากขึ้น และยังจะดึงดูดให้นักลงทุนรายใหญ่จากส่วนกลางสนใจเข้ามาลงทุนเพิ่มมากขึ้นด้วย โดยน่าจะอยู่ในพื้นที่อำเภอเมืองเป็นหลัก รวมถึงพื้นที่ในอำเภออื่นๆ ที่มีการเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง อาทิ อำเภอหางดง สันทราย สันกำแพง เป็นต้น อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องนำมาพิจารณาประกอบ คือ เรื่องของการจัดผังเมืองจังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากเป็นปัจจัยที่ระบุว่าพื้นที่สามารถใช้ประโยชน์ในด้านใดได้บ้าง และจะมีผลต่อตลาดที่อยู่อาศัยว่าพื้นที่ใดจะมีการขยายตัวและเติบโตมากที่สุด
ทั้งนี้เป็นผลมาจากการสำรวจของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธอส. ในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2554 ที่พบว่า ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ มีที่อยู่อาศัย ซึ่งอยู่ระหว่างการขายทั้งสิ้น 241 โครงการ มีหน่วยในผังโครงการทั้งสิ้นประมาณ 22,650 หน่วย แบ่งเป็นบ้านจัดสรร 208 โครงการ จำนวนรวมประมาณ 19,150 หน่วย และอาคารชุด 33 โครงการ จำนวนรวมประมาณ 3,500 หน่วย โดยบ้านจัดสรรที่อยู่ระหว่างการขายทั้ง 19,150 หน่วย มีมูลค่าโครงการรวมทั้งสิ้นประมาณ 56,800 ล้านบาท มีหน่วยที่ขายได้สะสมทั้งสิ้นประมาณ 11,500 หน่วย คิดเป็นมูลค่าที่ขายได้ประมาณ 32,600 ล้านบาท ส่วนใหญ่อยู่ในอำเภอสันทราย อำเภอหางดง และอำเภอดอยสะเก็ด ประเภทบ้านที่นิยมสูงสุดอยู่ในระดับช่วงราคา 1 - 1.99 ล้านบาท ตามด้วยช่วงราคา 2-2.99 ล้านบาท ภาพรวมบ้านจัดสรรทุกประเภททุกระดับราคามีอัตราการดูดซับเฉลี่ยประมาณ 5.5% สำหรับสถานะของการก่อสร้างพบว่า เป็นหน่วยที่ยังไม่ก่อสร้างประมาณ 7,000 หน่วย อยู่ระหว่างก่อสร้างประมาณ 3,650 หน่วย และสร้างแล้วเสร็จประมาณ 8,500 หน่วย โดยหน่วยที่สร้างเสร็จเหลือขาย (บ้านว่าง) มีจำนวนน้อยเพียงประมาณ 500 หน่วย
ในส่วนของที่อยู่อาศัยประเภทอาคารชุด มีหน่วยที่อยู่ระหว่างการขายประมาณ 3,500 หน่วย มีมูลค่าโครงการรวมประมาณ 8,000 ล้านบาท จากจำนวนทั้งหมดอยู่ในอำเภอเมืองมากถึงเกือบ 3,300 หน่วยสำหรับประเภทห้องชุดที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ ห้องชุดแบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยประมาณ 31-35 ตารางเมตร ราคาขายอยู่ในช่วง 1 - 2 ล้านบาท จากจำนวนห้องชุดทั้งหมด มีหน่วยที่ขายได้สะสมประมาณ 2,000 หน่วย ในจำนวนนี้เป็นหน่วยที่ขายได้ใหม่ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2554 จำนวน 680 หน่วย มีอัตราการดูดซับเฉลี่ยในทุกประเภทและทุกระดับราคาประมาณร้อยละ 10.6 ส่วนในด้านสถานะของการก่อสร้างพบว่า เป็นหน่วยที่ยังไม่ก่อสร้างประมาณ 850 หน่วย อยู่ระหว่างก่อสร้างประมาณ 1,750 หน่วย และสร้างเสร็จแล้วประมาณ 900 หน่วย โดยมีหน่วยสร้างเสร็จเหลือขาย (ห้องชุดว่าง) ประมาณ 150 หน่วย
นายสัมมา กล่าวต่อไปว่า ผลจากการสำรวจในครั้งนี้ว่า ขอบเขตการสำรวจครอบคลุม 8 อำเภอ ประกอบด้วย 1. อำเภอเมืองเชียงใหม่ 2. อำเภอสันทราย 3. อำเภอดอยสะเก็ด 4. อำเภอแม่ริม 5. อำเภอสันกำแพง 6. อำเภอหางดง 7. อำเภอสารภี และ8. อำเภอสันป่าตอง จากข้อมูลที่ได้พบว่าบ้านเดี่ยวและที่อยู่อาศัยในแนวราบยังคงเป็นรูปแบบที่อยู่อาศัยที่ได้รับความนิยมในจังหวัดเชียงใหม่มากที่สุด ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของอาคารชุดแสดงให้เห็นถึงความต้องการห้องพักที่เพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณารายละเอียดแล้วจะพบว่า ผู้ที่ซื้ออาคารชุดมักเป็นประชากรที่มาจากพื้นที่อื่นๆ หรือชาวต่างชาติที่เข้ามาพักอาศัยในจังหวัดเชียงใหม่ ขณะที่คนในท้องถิ่นจะมุ่งเลือกซื้อบ้านเดี่ยวมากกว่า
ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ วันที่ 9-11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555
แบ่งเป็นแนวราบ 208 โครงการ อาคารชุด 33 โครงการ ชี้แนวโน้มอาคารชุดขยับเพิ่มขึ้น เหตุจากคนต่างถิ่นและชาวต่างชาตินิยมซื้อ
นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส) เปิดเผยว่า มีแนวโน้มสูงที่จะมีการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดเชียงใหม่เพิ่มมากขึ้น และยังจะดึงดูดให้นักลงทุนรายใหญ่จากส่วนกลางสนใจเข้ามาลงทุนเพิ่มมากขึ้นด้วย โดยน่าจะอยู่ในพื้นที่อำเภอเมืองเป็นหลัก รวมถึงพื้นที่ในอำเภออื่นๆ ที่มีการเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง อาทิ อำเภอหางดง สันทราย สันกำแพง เป็นต้น อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องนำมาพิจารณาประกอบ คือ เรื่องของการจัดผังเมืองจังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากเป็นปัจจัยที่ระบุว่าพื้นที่สามารถใช้ประโยชน์ในด้านใดได้บ้าง และจะมีผลต่อตลาดที่อยู่อาศัยว่าพื้นที่ใดจะมีการขยายตัวและเติบโตมากที่สุด
ทั้งนี้เป็นผลมาจากการสำรวจของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธอส. ในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2554 ที่พบว่า ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ มีที่อยู่อาศัย ซึ่งอยู่ระหว่างการขายทั้งสิ้น 241 โครงการ มีหน่วยในผังโครงการทั้งสิ้นประมาณ 22,650 หน่วย แบ่งเป็นบ้านจัดสรร 208 โครงการ จำนวนรวมประมาณ 19,150 หน่วย และอาคารชุด 33 โครงการ จำนวนรวมประมาณ 3,500 หน่วย โดยบ้านจัดสรรที่อยู่ระหว่างการขายทั้ง 19,150 หน่วย มีมูลค่าโครงการรวมทั้งสิ้นประมาณ 56,800 ล้านบาท มีหน่วยที่ขายได้สะสมทั้งสิ้นประมาณ 11,500 หน่วย คิดเป็นมูลค่าที่ขายได้ประมาณ 32,600 ล้านบาท ส่วนใหญ่อยู่ในอำเภอสันทราย อำเภอหางดง และอำเภอดอยสะเก็ด ประเภทบ้านที่นิยมสูงสุดอยู่ในระดับช่วงราคา 1 - 1.99 ล้านบาท ตามด้วยช่วงราคา 2-2.99 ล้านบาท ภาพรวมบ้านจัดสรรทุกประเภททุกระดับราคามีอัตราการดูดซับเฉลี่ยประมาณ 5.5% สำหรับสถานะของการก่อสร้างพบว่า เป็นหน่วยที่ยังไม่ก่อสร้างประมาณ 7,000 หน่วย อยู่ระหว่างก่อสร้างประมาณ 3,650 หน่วย และสร้างแล้วเสร็จประมาณ 8,500 หน่วย โดยหน่วยที่สร้างเสร็จเหลือขาย (บ้านว่าง) มีจำนวนน้อยเพียงประมาณ 500 หน่วย
ในส่วนของที่อยู่อาศัยประเภทอาคารชุด มีหน่วยที่อยู่ระหว่างการขายประมาณ 3,500 หน่วย มีมูลค่าโครงการรวมประมาณ 8,000 ล้านบาท จากจำนวนทั้งหมดอยู่ในอำเภอเมืองมากถึงเกือบ 3,300 หน่วยสำหรับประเภทห้องชุดที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ ห้องชุดแบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยประมาณ 31-35 ตารางเมตร ราคาขายอยู่ในช่วง 1 - 2 ล้านบาท จากจำนวนห้องชุดทั้งหมด มีหน่วยที่ขายได้สะสมประมาณ 2,000 หน่วย ในจำนวนนี้เป็นหน่วยที่ขายได้ใหม่ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2554 จำนวน 680 หน่วย มีอัตราการดูดซับเฉลี่ยในทุกประเภทและทุกระดับราคาประมาณร้อยละ 10.6 ส่วนในด้านสถานะของการก่อสร้างพบว่า เป็นหน่วยที่ยังไม่ก่อสร้างประมาณ 850 หน่วย อยู่ระหว่างก่อสร้างประมาณ 1,750 หน่วย และสร้างเสร็จแล้วประมาณ 900 หน่วย โดยมีหน่วยสร้างเสร็จเหลือขาย (ห้องชุดว่าง) ประมาณ 150 หน่วย
นายสัมมา กล่าวต่อไปว่า ผลจากการสำรวจในครั้งนี้ว่า ขอบเขตการสำรวจครอบคลุม 8 อำเภอ ประกอบด้วย 1. อำเภอเมืองเชียงใหม่ 2. อำเภอสันทราย 3. อำเภอดอยสะเก็ด 4. อำเภอแม่ริม 5. อำเภอสันกำแพง 6. อำเภอหางดง 7. อำเภอสารภี และ8. อำเภอสันป่าตอง จากข้อมูลที่ได้พบว่าบ้านเดี่ยวและที่อยู่อาศัยในแนวราบยังคงเป็นรูปแบบที่อยู่อาศัยที่ได้รับความนิยมในจังหวัดเชียงใหม่มากที่สุด ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของอาคารชุดแสดงให้เห็นถึงความต้องการห้องพักที่เพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณารายละเอียดแล้วจะพบว่า ผู้ที่ซื้ออาคารชุดมักเป็นประชากรที่มาจากพื้นที่อื่นๆ หรือชาวต่างชาติที่เข้ามาพักอาศัยในจังหวัดเชียงใหม่ ขณะที่คนในท้องถิ่นจะมุ่งเลือกซื้อบ้านเดี่ยวมากกว่า
ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ วันที่ 9-11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555