ธนารักษ์ยันมหาอุทกภัยไม่กระทบราคาประเมินที่ดินใหม่ 1 ม.ค. 55 ประกาศใช้แน่ แม้จะเกิดปัญหาน้ำท่วมกว่า 60 จังหวัด โดยเฉพาะ กทม.และปริมณฑล ชี้เป็นภัยธรรมชาติเกิดแล้วก็จากไป
ต่างจากวิกฤติต้มยำกุ้งปี 40 แต่ไม่ปิดช่องแก้ไขหากเห็นว่าไม่เป็นธรรม เผยราคาประเมินตามแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางซื่อ-บางใหญ่)พาดผ่านขึ้นถ้วนหน้า
นายชูชีพ จิตร์อำไพ ผู้อำนวยการสำนักประเมินราคาทรัพย์สิน กรมธนารักษ์ เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ขณะนี้กรมอยู่ระหว่างเร่งรัดการจัดทำบัญชีราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดินรอบ ปี 2555-2558 โดยเริ่มประกาศใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2555 เป็นต้นไป ทั้งนี้อาจล่าช้า บ้าง เนื่องจากหลายจังหวัดติดปัญหาน้ำท่วม ส่งผลให้การดำเนินการ ทั้งการลงพื้นที่ การประชุม การส่งข้อมูลบัญชีราคาประเมิน ที่ดินของแต่ละพื้นที่มายังส่วนกลาง ไม่สะดวกเท่าที่ควร ประกอบกับศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะซึ่งกรมธนารักษ์ใช้พื้นที่อยู่ยังมีปัญหาน้ำท่วมขัง
อย่างไรก็ดี ผลกระทบจากน้ำท่วมใหญ่ที่เกิดขึ้นกว่า 60 จังหวัดทั่วประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่เขตเศรษฐกิจสำคัญประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร (กทม.) บางบริเวณ และจังหวัดในปริมณฑล อย่างจังหวัดปทุมธานีทั้งจังหวัด นนทบุรี นคร ปฐม ในภาพรวมไม่กระทบต่อบัญชีราคาประเมินที่ดิน แม้บางพื้นที่น้ำท่วมสูงก็ตาม เช่น บางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ทำเลแนว รถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ ถนนราชพฤกษ์ ท่าอิฐ บางกรวย-ไทรน้อย ศูนย์ราชการจังหวัด พุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม รังสิต-นครนายก ลำลูกกา ปทุม ธานี เขตกทม. ที่ได้รับผลกระทบถนนสาย สำคัญๆ เช่น ถนนวิภาวดีรังสิต พหลโยธิน รัชดาภิเษก ห้าแยกลาดพร้าว รวมถึงย่าน ฝั่งธนบุรี
กรมประเมินว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้น เป็นภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นแล้วจบไปในระยะเวลาอันสั้น ไม่มีผลต่อราคาที่ดินแต่อย่างไร แต่จะมีบ้าง ในกรณีของการตัดสิน ใจซื้อ-ขายที่อยู่อาศัย หรือผู้บริโภคอาจเกิด ความลังเล รวมถึงราคาบอกขายอาจลดลง แต่เหล่านี้ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจที่จะซื้อขายกัน ไม่เกี่ยวกับราคาประเมินที่จะประกาศใช้ที่สำคัญ ราคาประเมินจะทบ ทวนหรือปรับลด จะขึ้นอยู่กับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจที่เลวร้ายเท่านั้น อย่างกรณีวิกฤติต้มยำกุ้งปี 2540 ที่ต้องเลื่อนการใช้ราคาประเมินใหม่ไปใช้ราคาเก่าและมีการคำนวณราคากันใหม่
นายชูชีพ กล่าวต่อไปว่า แม้ว่าย่าน ใจกลางเมืองกรุงเทพฯชั้นใน โดยเฉพาะแนวรถไฟฟ้า จะรอดพ้นวิกฤติน้ำท่วม กรมก็ไม่พิจารณาปรับให้สูงขึ้น เพราะราคาที่ออกมาสะท้อนกับราคาที่ใกล้เคียงตลาดมากแล้ว ขณะเดียวกันราคาประเมิน จะนำไปใช้เพื่อเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการโอน ซื้อ-ขายบ้าน ของกรมที่ดินเท่านั้น เช่น ทำเลสำคัญ อย่างถนนเพลินจิต-พระราม 1 (แยกปทุมวัน) ตารางวาละ 700,000 บาท ถนนราชดำริ ตารางวาละ 500,000 บาท ถนนพญาไท ถนนพระราม 4 ตารางวาละ 450,000 บาท นนทบุรี เดอะมอลล์งามวงศ์วาน ตารางวาละ 150,000 บาท จาก 96,000 บาท บริเวณรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางซื่อ-บางใหญ่) พาดผ่านพื้นที่ บริเวณกรุงเทพฯ-นนทบุรี ตารางวาละ 100,000 บาท จาก 64,000 บาทต่อตารางวา ถนนรัตนาธิเบศร์จากศาลากลางจังหวัดนนทบุรี-ห้างเซ็นทรัลทาวน์ ตารางวาละ 120,000 บาท จาก 80,000 บาทต่อตารางวา ถนนราชพฤกษ์ ตัดใหม่ ตารางวาละ 65,000 บาท จาก 50,000 บาท ฯลฯ
อย่างไรก็ดี หากจะมีการทบทวนปรับเปลี่ยนราคาประเมิน จะต้องพิจารณา เป็นรายกรณี หากมีการร้องขอมา และเห็นว่าไม่เป็นธรรม และจะต้องพิจารณาภายหลังจากที่ประกาศใช้ราคาประเมินใหม่ไปแล้วในปี 2555
ที่มา: หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,691 27-30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
ต่างจากวิกฤติต้มยำกุ้งปี 40 แต่ไม่ปิดช่องแก้ไขหากเห็นว่าไม่เป็นธรรม เผยราคาประเมินตามแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางซื่อ-บางใหญ่)พาดผ่านขึ้นถ้วนหน้า
นายชูชีพ จิตร์อำไพ ผู้อำนวยการสำนักประเมินราคาทรัพย์สิน กรมธนารักษ์ เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ขณะนี้กรมอยู่ระหว่างเร่งรัดการจัดทำบัญชีราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดินรอบ ปี 2555-2558 โดยเริ่มประกาศใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2555 เป็นต้นไป ทั้งนี้อาจล่าช้า บ้าง เนื่องจากหลายจังหวัดติดปัญหาน้ำท่วม ส่งผลให้การดำเนินการ ทั้งการลงพื้นที่ การประชุม การส่งข้อมูลบัญชีราคาประเมิน ที่ดินของแต่ละพื้นที่มายังส่วนกลาง ไม่สะดวกเท่าที่ควร ประกอบกับศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะซึ่งกรมธนารักษ์ใช้พื้นที่อยู่ยังมีปัญหาน้ำท่วมขัง
อย่างไรก็ดี ผลกระทบจากน้ำท่วมใหญ่ที่เกิดขึ้นกว่า 60 จังหวัดทั่วประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่เขตเศรษฐกิจสำคัญประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร (กทม.) บางบริเวณ และจังหวัดในปริมณฑล อย่างจังหวัดปทุมธานีทั้งจังหวัด นนทบุรี นคร ปฐม ในภาพรวมไม่กระทบต่อบัญชีราคาประเมินที่ดิน แม้บางพื้นที่น้ำท่วมสูงก็ตาม เช่น บางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ทำเลแนว รถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ ถนนราชพฤกษ์ ท่าอิฐ บางกรวย-ไทรน้อย ศูนย์ราชการจังหวัด พุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม รังสิต-นครนายก ลำลูกกา ปทุม ธานี เขตกทม. ที่ได้รับผลกระทบถนนสาย สำคัญๆ เช่น ถนนวิภาวดีรังสิต พหลโยธิน รัชดาภิเษก ห้าแยกลาดพร้าว รวมถึงย่าน ฝั่งธนบุรี
กรมประเมินว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้น เป็นภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นแล้วจบไปในระยะเวลาอันสั้น ไม่มีผลต่อราคาที่ดินแต่อย่างไร แต่จะมีบ้าง ในกรณีของการตัดสิน ใจซื้อ-ขายที่อยู่อาศัย หรือผู้บริโภคอาจเกิด ความลังเล รวมถึงราคาบอกขายอาจลดลง แต่เหล่านี้ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจที่จะซื้อขายกัน ไม่เกี่ยวกับราคาประเมินที่จะประกาศใช้ที่สำคัญ ราคาประเมินจะทบ ทวนหรือปรับลด จะขึ้นอยู่กับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจที่เลวร้ายเท่านั้น อย่างกรณีวิกฤติต้มยำกุ้งปี 2540 ที่ต้องเลื่อนการใช้ราคาประเมินใหม่ไปใช้ราคาเก่าและมีการคำนวณราคากันใหม่
นายชูชีพ กล่าวต่อไปว่า แม้ว่าย่าน ใจกลางเมืองกรุงเทพฯชั้นใน โดยเฉพาะแนวรถไฟฟ้า จะรอดพ้นวิกฤติน้ำท่วม กรมก็ไม่พิจารณาปรับให้สูงขึ้น เพราะราคาที่ออกมาสะท้อนกับราคาที่ใกล้เคียงตลาดมากแล้ว ขณะเดียวกันราคาประเมิน จะนำไปใช้เพื่อเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการโอน ซื้อ-ขายบ้าน ของกรมที่ดินเท่านั้น เช่น ทำเลสำคัญ อย่างถนนเพลินจิต-พระราม 1 (แยกปทุมวัน) ตารางวาละ 700,000 บาท ถนนราชดำริ ตารางวาละ 500,000 บาท ถนนพญาไท ถนนพระราม 4 ตารางวาละ 450,000 บาท นนทบุรี เดอะมอลล์งามวงศ์วาน ตารางวาละ 150,000 บาท จาก 96,000 บาท บริเวณรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางซื่อ-บางใหญ่) พาดผ่านพื้นที่ บริเวณกรุงเทพฯ-นนทบุรี ตารางวาละ 100,000 บาท จาก 64,000 บาทต่อตารางวา ถนนรัตนาธิเบศร์จากศาลากลางจังหวัดนนทบุรี-ห้างเซ็นทรัลทาวน์ ตารางวาละ 120,000 บาท จาก 80,000 บาทต่อตารางวา ถนนราชพฤกษ์ ตัดใหม่ ตารางวาละ 65,000 บาท จาก 50,000 บาท ฯลฯ
อย่างไรก็ดี หากจะมีการทบทวนปรับเปลี่ยนราคาประเมิน จะต้องพิจารณา เป็นรายกรณี หากมีการร้องขอมา และเห็นว่าไม่เป็นธรรม และจะต้องพิจารณาภายหลังจากที่ประกาศใช้ราคาประเมินใหม่ไปแล้วในปี 2555
ที่มา: หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,691 27-30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554