นายนริศ ชัยสูตร อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวถึงกรณีที่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์เสนอให้ขยายระยะเวลาการใช้ราคาประเมินที่ดินเดิมออกไปเป็น 1 ปีจากเดิมที่ขยายเพียง 6 เดือนโดยอ้างว่าได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาน้ำท่วม นั้นขอยืนยันว่ากรมไม่มีแนวคิดที่จะขยายเวลาออกไปอีกเพราะยังไม่มีเหตุผลใหม่เพียงพอที่จะต้องขยายเวลาออกไปอีก
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาได้มีการขยายเวลา โดยใช้ราคาประเมินเดิมออกไปเพราะเศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมทำให้อัตราการขยายตัวเศรษฐกิจ (จีดีพี) ลดลงเหลือ 1%กว่า จากเดิมที่คาดไว้ว่าจะขยายตัวประมาณ4-5% เนื่องจากมีประชาชนที่เป็นเจ้าของบ้านและที่ดินที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเป็นจำนวนมาก ทำให้ต้องขยายเวลาการใช้ราคาประเมินออกไปอีก เพื่อลดภาระของประชาชนในการทำธุรกรรมเกี่ยวกับที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดขึ้น
นายนริศยังกล่าวอีกว่าขณะนี้รัฐบาลมีแผนงานต่างๆ ในการรับมือน้ำท่วมรอบใหม่อยู่จำนวนมาก เชื่อว่าจะป้องกันได้ไม่ทำให้เกิดความเสียเหมือนปีที่ผ่านมาจึงยังไม่มีความจำเป็นต้องขยายเวลาการประเมินออกไปอีก
นอกจากนี้ ราคาประเมินตามกฎหมายที่ให้ประกาศใหม่ทุก 4 ปี ซึ่งที่ผ่านมาได้ประกาศครบแล้ว หากสถานการณ์ปกติก็ควรจะใช้ราคาใหม่ เพราะมีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่ได้รับประโยชน์จากราคาประเมินทำให้มีการขอสินเชื่อได้มากขึ้น เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม กรมธนารักษ์ต้องการให้รัฐบาลหาแนวฟลัดเวย์หรือทางน้ำผ่านโดยเร็ว เพื่อจะได้เข้าไปประเมินราคาที่ดินในบริเวณดังกล่าวใหม่ซึ่งคาดว่าจะมีราคาประเมินที่ลดลง ซึ่งหากประเมินไม่ทัน อาจประกาศราคาประเมินใหม่ โดยให้ใช้ราคาประเมินเดิมสำหรับราคาประเมินแนวฟลัดเวย์ที่ลดลงไม่มีผลต่อราคาเวนคืนที่ดิน เพราะราคาเวนคืนที่ดินจะใช้ราคาตลาดกับราคาที่เจ้าของที่ดินใช้เป็นหลักสำคัญในการคำนวณ
อนึ่งก่อนหน้านี้กรมธนารักษ์ได้ประกาศราคาประเมินที่ดินใหม่มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2555 โดยจากการประเมินราคาที่ดินทั่วประเทศ 29.3 ล้านแปลง หรือ321 ล้านไร่ เป็นที่ดินรายแปลง 6 ล้านแปลงและรายบล็อก 23.3 ล้านแปลง พบว่าราคาเฉลี่ยปรับตัวสูงขึ้น 21.34% ที่ดินต่างจังหวัดเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 21.4% ส่วนกทม.เพิ่มขึ้นเฉลี่ย17.13%
ที่มา: หนังสือพิมพ์แนวหน้า
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาได้มีการขยายเวลา โดยใช้ราคาประเมินเดิมออกไปเพราะเศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมทำให้อัตราการขยายตัวเศรษฐกิจ (จีดีพี) ลดลงเหลือ 1%กว่า จากเดิมที่คาดไว้ว่าจะขยายตัวประมาณ4-5% เนื่องจากมีประชาชนที่เป็นเจ้าของบ้านและที่ดินที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเป็นจำนวนมาก ทำให้ต้องขยายเวลาการใช้ราคาประเมินออกไปอีก เพื่อลดภาระของประชาชนในการทำธุรกรรมเกี่ยวกับที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดขึ้น
นายนริศยังกล่าวอีกว่าขณะนี้รัฐบาลมีแผนงานต่างๆ ในการรับมือน้ำท่วมรอบใหม่อยู่จำนวนมาก เชื่อว่าจะป้องกันได้ไม่ทำให้เกิดความเสียเหมือนปีที่ผ่านมาจึงยังไม่มีความจำเป็นต้องขยายเวลาการประเมินออกไปอีก
นอกจากนี้ ราคาประเมินตามกฎหมายที่ให้ประกาศใหม่ทุก 4 ปี ซึ่งที่ผ่านมาได้ประกาศครบแล้ว หากสถานการณ์ปกติก็ควรจะใช้ราคาใหม่ เพราะมีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่ได้รับประโยชน์จากราคาประเมินทำให้มีการขอสินเชื่อได้มากขึ้น เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม กรมธนารักษ์ต้องการให้รัฐบาลหาแนวฟลัดเวย์หรือทางน้ำผ่านโดยเร็ว เพื่อจะได้เข้าไปประเมินราคาที่ดินในบริเวณดังกล่าวใหม่ซึ่งคาดว่าจะมีราคาประเมินที่ลดลง ซึ่งหากประเมินไม่ทัน อาจประกาศราคาประเมินใหม่ โดยให้ใช้ราคาประเมินเดิมสำหรับราคาประเมินแนวฟลัดเวย์ที่ลดลงไม่มีผลต่อราคาเวนคืนที่ดิน เพราะราคาเวนคืนที่ดินจะใช้ราคาตลาดกับราคาที่เจ้าของที่ดินใช้เป็นหลักสำคัญในการคำนวณ
อนึ่งก่อนหน้านี้กรมธนารักษ์ได้ประกาศราคาประเมินที่ดินใหม่มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2555 โดยจากการประเมินราคาที่ดินทั่วประเทศ 29.3 ล้านแปลง หรือ321 ล้านไร่ เป็นที่ดินรายแปลง 6 ล้านแปลงและรายบล็อก 23.3 ล้านแปลง พบว่าราคาเฉลี่ยปรับตัวสูงขึ้น 21.34% ที่ดินต่างจังหวัดเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 21.4% ส่วนกทม.เพิ่มขึ้นเฉลี่ย17.13%
ที่มา: หนังสือพิมพ์แนวหน้า