นายวรพันธ์ ช้อนทอง กรรมการรองผู้จัดการสายการเงินและบริหาร บริษัทซิโน-ไทยเอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) (STEC) บริษัทได้จัดซื้อที่ดินเพื่อการลงทุน 2 แปลง มูลค่ารวม 766.3 ล้านบาท ราคาซื้อขายเป็นไป ตามราคาตลาด
โดยที่ดินดังกล่าว เป็นโฉนดที่ดินเลขที่ 218 เนื้อที่ 5 ไร่ 42 ตารางวา และที่ดินโฉนดเลขที่219 เนื้อที่ 3 ไร่ 18 ตารางวา ที่ดินทั้งสองติดต่อกันเป็นผืนเดียว ตั้งอยู่ ต.บางโพงพางอ.ยานนาวา กทม. รวม 2 แปลง เนื้อที่ 8 ไร่ 80 ตารางวา ด้านหน้าติดถนนพระราม 3 ด้านหลังติดแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นที่ดินที่มีที่ตั้งดีและเหมาะสม เหมาะแก่การนำมาพัฒนาในเชิงพาณิชย์ หรือซื้อเพื่อการลงทุน
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนการลงทุนจากการลงทุนในที่ดินแปลงนี้ได้ในอนาคต โดยคาดหมายถึงโอกาสในการพัฒนาที่ดินในเชิงพาณิชย์ในอนาคตได้ในหลายรูปแบบ เช่น คอนโดมิเนียมเพื่อการพักอาศัยอาคารสำนักงาน โรงแรม ฯลฯ เป็นต้น
ก่อนหน้านี้ บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคิน จำกัด ระบุว่า ซิโน-ไทย มี Backlog ในมือระดับ 52,000 ล้านบาท ผลักดันรายได้ในปี 2555 เติบโตจากงานในมือปัจจุบัน และยังได้รับงานเร่งด่วนงบประมาณป้องกันเหตุน้ำท่วม พร้อมทั้งงานภาคเอกชนจากงานโรงไฟฟ้างานภาครัฐ
เช่น งานรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ ส่งผลให้มีงานในมือเพิ่ม 20,000 ล้านบาทต่อปี และมีการตั้งเป้ารายได้ปี 55 ไว้ที่ 18,000 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน ราว 29% และในปี 2556 ทำได้ 19,000-20,000 ซึ่งประเภทงาน 40% เป็นรถไฟฟ้า 40%เป็นงานโรงไฟฟ้าและ 20% เป็นงานอื่นๆ
ที่มา : หนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน
โดยที่ดินดังกล่าว เป็นโฉนดที่ดินเลขที่ 218 เนื้อที่ 5 ไร่ 42 ตารางวา และที่ดินโฉนดเลขที่219 เนื้อที่ 3 ไร่ 18 ตารางวา ที่ดินทั้งสองติดต่อกันเป็นผืนเดียว ตั้งอยู่ ต.บางโพงพางอ.ยานนาวา กทม. รวม 2 แปลง เนื้อที่ 8 ไร่ 80 ตารางวา ด้านหน้าติดถนนพระราม 3 ด้านหลังติดแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นที่ดินที่มีที่ตั้งดีและเหมาะสม เหมาะแก่การนำมาพัฒนาในเชิงพาณิชย์ หรือซื้อเพื่อการลงทุน
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนการลงทุนจากการลงทุนในที่ดินแปลงนี้ได้ในอนาคต โดยคาดหมายถึงโอกาสในการพัฒนาที่ดินในเชิงพาณิชย์ในอนาคตได้ในหลายรูปแบบ เช่น คอนโดมิเนียมเพื่อการพักอาศัยอาคารสำนักงาน โรงแรม ฯลฯ เป็นต้น
ก่อนหน้านี้ บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคิน จำกัด ระบุว่า ซิโน-ไทย มี Backlog ในมือระดับ 52,000 ล้านบาท ผลักดันรายได้ในปี 2555 เติบโตจากงานในมือปัจจุบัน และยังได้รับงานเร่งด่วนงบประมาณป้องกันเหตุน้ำท่วม พร้อมทั้งงานภาคเอกชนจากงานโรงไฟฟ้างานภาครัฐ
เช่น งานรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ ส่งผลให้มีงานในมือเพิ่ม 20,000 ล้านบาทต่อปี และมีการตั้งเป้ารายได้ปี 55 ไว้ที่ 18,000 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน ราว 29% และในปี 2556 ทำได้ 19,000-20,000 ซึ่งประเภทงาน 40% เป็นรถไฟฟ้า 40%เป็นงานโรงไฟฟ้าและ 20% เป็นงานอื่นๆ
ที่มา : หนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน