นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์(REIC) กล่าวว่า จากการสำรวจข้อมูลความต้องการซื้อที่อยู่อาศัย กลุ่มตัวอย่างผู้ชมงาน"มหกรรมบ้านและคอนโดครั้งที่ 25" ซึ่งมีกลุ่มตัวอย่างจำนวนทั้งสิ้น 10,399 ราย พบว่า 90%ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยสร้างใหม่ มีเพียง 10% ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยมือสอง นอกจากนี้พบว่าลักษณะที่อยู่อาศัยเดิม รายได้ครอบครัวต่อเดือนมีผลต่อความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในอนาคตอย่างมีนัยสำคัญ
จากตัวอย่าง 10,399 คน ที่เข้าชมงานส่วนใหญ่ยังคงเป็นกลุ่มผู้ที่มีที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพมหานคร โดยมีสัดส่วนถึง 68% รองลงมา 16% อาศัยอยู่ในพื้นที่ปริมณฑล ส่วนอีก 16%อยู่ในจังหวัดอื่นๆ โดยลักษณะที่อยู่อาศัยในปัจจุบันส่วนใหญ่35% เป็นบ้านเดี่ยว รองลงมาคือ อพาร์ตเมนต์/หอพัก 19% ใกล้เคียงกับทาวน์เฮาส์ 18% คอนโดมิเนียม 14% อาคารพาณิชย์13% โดย 49% มีสถานะเป็นผู้อยู่อาศัยรองลงมา 25% มีสถานะเป็นเจ้าของไม่มีภาระผ่อน 14% เป็นเจ้าของมีภาระผ่อนชำระ8% อาศัยอยู่ในที่พักประเภทเช่า
ทั้งนี้ ที่อยู่อาศัยที่ต้องการซื้อของผู้บริโภค32% ต้องการซื้อบ้านเดี่ยว 23% ต้องการซื้อคอนโดมิเนียม 20% ต้องการซื้อทาวน์เฮาส์ 15%ต้องการซื้อบ้านแฝด และ 10% ต้องการซื้ออาคารพาณิชย์ ซึ่งที่อยู่อาศัยในระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ยังคงเป็นที่ต้องการสูงสุด โดย 40% ต้องการซื้อบ้านในระดับราคา 1.1-2 ล้านบาท และ 26%ต้องการซื้อบ้านในระดับราคา 2.1-3 ล้านบาทโดยผู้เข้าชมงานส่วนใหญ่ 80% สนใจกู้เงินจากสถาบันการเงิน ขณะที่ 20% ใช้เงินออม
ส่วนทำเลที่ผู้บริโภคต้องการซื้อมากที่สุดคือ ทำเลในเขตกรุงเทพมหานคร โดยเขตที่มีผู้ต้องการซื้อใน 5 อันดับแรก คือ เขตจตุจักรบางนา คลองเตย ลาดพร้าว และดอนเมือง ส่วนในพื้นที่ปริมณฑล 3 อันดับแรกของทำเลที่ผู้ตอบแบบสอบถามต้องการซื้อ ประกอบด้วยอำเภอบางบัวทอง อำเภอเมือง และอำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี อำเภอบางพลี อำเภอเมือง และอำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ อำเภอคลองหลวง อำเภอลำลูกกาอำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี อำเภอพุทธมณฑล เมืองนครปฐม อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม อำเภอเมืองสมุทรสาคร อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร
โดย 35% ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยใกล้รถไฟฟ้า 29% ต้องการซื้อใกล้ที่ทำงาน และ 20%ต้องการใกล้ห้างสรรพสินค้า ส่วนสาเหตุที่ต้องการที่อยู่ใหม่พบว่า 33% ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง18% ต้องการซื้อเพื่อเป็นทรัพย์สิน17%ต้องการความสะดวกในการเดินทาง
ทั้งนี้ ที่อยู่อาศัยราคา 1.1-3 ล้านบาท เป็นกลุ่มที่มีความต้องการสูงสุด โดยเป็นบ้านเดี่ยว37% ผู้ซื้อที่อยู่อาศัยประเภทนี้ต้องการซื้อบ้านในระดับราคา 1.1-2 ล้านบาท มีเพียงช่วงครึ่งแรกของปี 2553 ซึ่งสัดส่วนความต้องการในระดับราคาดังกล่าวสูงขึ้นเป็น 40% ส่วนบ้านเดี่ยวในระดับราคา 2.1-3 ล้านบาท มีความต้องการซื้อโดยเฉลี่ย 26% และบ้านเดี่ยวในระดับราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท มีความต้องการซื้อโดยเฉลี่ยประมาณ 10%
ส่วนกลุ่มห้องชุดในคอนโดมิเนียม โดยเฉลี่ย 44% ผู้ซื้อห้องชุดในคอนโดมิเนียมต้องการซื้อในระดับราคา 1.1-2 ล้านบาท ทั้งนี้ความต้องการซื้อในกลุ่มราคาดังกล่าวขยับสูงขึ้นถึง 50% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2554 ในขณะที่คอนโดมิเนียมระดับราคา 2.1-3 ล้านบาท มีความต้องการซื้อโดยเฉลี่ย 21% และเพิ่มขึ้นเป็น26% ในช่วงครึ่งหลังของปี 2554 ขณะที่ทาวน์เฮาส์มีความต้องการระดับราคา 1.1-2 ล้านบาท 48%รองลงมาคือระดับราคา 2.1-3 ล้านบาท 20% และราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท17%
ที่มา : หนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน
จากตัวอย่าง 10,399 คน ที่เข้าชมงานส่วนใหญ่ยังคงเป็นกลุ่มผู้ที่มีที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพมหานคร โดยมีสัดส่วนถึง 68% รองลงมา 16% อาศัยอยู่ในพื้นที่ปริมณฑล ส่วนอีก 16%อยู่ในจังหวัดอื่นๆ โดยลักษณะที่อยู่อาศัยในปัจจุบันส่วนใหญ่35% เป็นบ้านเดี่ยว รองลงมาคือ อพาร์ตเมนต์/หอพัก 19% ใกล้เคียงกับทาวน์เฮาส์ 18% คอนโดมิเนียม 14% อาคารพาณิชย์13% โดย 49% มีสถานะเป็นผู้อยู่อาศัยรองลงมา 25% มีสถานะเป็นเจ้าของไม่มีภาระผ่อน 14% เป็นเจ้าของมีภาระผ่อนชำระ8% อาศัยอยู่ในที่พักประเภทเช่า
ทั้งนี้ ที่อยู่อาศัยที่ต้องการซื้อของผู้บริโภค32% ต้องการซื้อบ้านเดี่ยว 23% ต้องการซื้อคอนโดมิเนียม 20% ต้องการซื้อทาวน์เฮาส์ 15%ต้องการซื้อบ้านแฝด และ 10% ต้องการซื้ออาคารพาณิชย์ ซึ่งที่อยู่อาศัยในระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ยังคงเป็นที่ต้องการสูงสุด โดย 40% ต้องการซื้อบ้านในระดับราคา 1.1-2 ล้านบาท และ 26%ต้องการซื้อบ้านในระดับราคา 2.1-3 ล้านบาทโดยผู้เข้าชมงานส่วนใหญ่ 80% สนใจกู้เงินจากสถาบันการเงิน ขณะที่ 20% ใช้เงินออม
ส่วนทำเลที่ผู้บริโภคต้องการซื้อมากที่สุดคือ ทำเลในเขตกรุงเทพมหานคร โดยเขตที่มีผู้ต้องการซื้อใน 5 อันดับแรก คือ เขตจตุจักรบางนา คลองเตย ลาดพร้าว และดอนเมือง ส่วนในพื้นที่ปริมณฑล 3 อันดับแรกของทำเลที่ผู้ตอบแบบสอบถามต้องการซื้อ ประกอบด้วยอำเภอบางบัวทอง อำเภอเมือง และอำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี อำเภอบางพลี อำเภอเมือง และอำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ อำเภอคลองหลวง อำเภอลำลูกกาอำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี อำเภอพุทธมณฑล เมืองนครปฐม อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม อำเภอเมืองสมุทรสาคร อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร
โดย 35% ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยใกล้รถไฟฟ้า 29% ต้องการซื้อใกล้ที่ทำงาน และ 20%ต้องการใกล้ห้างสรรพสินค้า ส่วนสาเหตุที่ต้องการที่อยู่ใหม่พบว่า 33% ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง18% ต้องการซื้อเพื่อเป็นทรัพย์สิน17%ต้องการความสะดวกในการเดินทาง
ทั้งนี้ ที่อยู่อาศัยราคา 1.1-3 ล้านบาท เป็นกลุ่มที่มีความต้องการสูงสุด โดยเป็นบ้านเดี่ยว37% ผู้ซื้อที่อยู่อาศัยประเภทนี้ต้องการซื้อบ้านในระดับราคา 1.1-2 ล้านบาท มีเพียงช่วงครึ่งแรกของปี 2553 ซึ่งสัดส่วนความต้องการในระดับราคาดังกล่าวสูงขึ้นเป็น 40% ส่วนบ้านเดี่ยวในระดับราคา 2.1-3 ล้านบาท มีความต้องการซื้อโดยเฉลี่ย 26% และบ้านเดี่ยวในระดับราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท มีความต้องการซื้อโดยเฉลี่ยประมาณ 10%
ส่วนกลุ่มห้องชุดในคอนโดมิเนียม โดยเฉลี่ย 44% ผู้ซื้อห้องชุดในคอนโดมิเนียมต้องการซื้อในระดับราคา 1.1-2 ล้านบาท ทั้งนี้ความต้องการซื้อในกลุ่มราคาดังกล่าวขยับสูงขึ้นถึง 50% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2554 ในขณะที่คอนโดมิเนียมระดับราคา 2.1-3 ล้านบาท มีความต้องการซื้อโดยเฉลี่ย 21% และเพิ่มขึ้นเป็น26% ในช่วงครึ่งหลังของปี 2554 ขณะที่ทาวน์เฮาส์มีความต้องการระดับราคา 1.1-2 ล้านบาท 48%รองลงมาคือระดับราคา 2.1-3 ล้านบาท 20% และราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท17%
ที่มา : หนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน