กรุงเทพฯ / ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯประเมินผลกระทบอุทกภัยน้ำท่วมใหญ่ต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ คาดลากยาวข้ามปีถึงไตรมาสแรกของปีหน้า พบโครงการบ้านจัดสรรทั่วกทม.-ปริมณฑล และ พระนครศรีอยุธยา จมบาดาลเพิ่มขึ้นอีกมากเป็น 140,000-150,000 หน่วย มึน! โครงการบ้านจัดสรรบางแห่งยอดโอนกรรมสิทธิ์ลดลงถึงร้อยละ 80 จับตารายได้ของผู้ประกอบการถูกกระทบ เหตุมูลค่าโอนกรรสิทธิ์บ้านใหม่-บ้านมือสอง ลดหายไปคาดกว่าแสนล้านบาท
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ได้ออกบทวิเคราะห์ถึงผลกระทบจากอุทกภัยน้ำท่วมต่อตลาดที่อยู่อาศัยล่าสุดว่า วิกฤตน้ำท่วมรุนแรงยังไม่มีทีท่ายุติ และยังขยายพื้นที่ต่อเนื่องอีกหลายเขตหลายพื้นทึ่ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ซึ่งเป็นตลาดที่อยู่อาศัยใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยกรุงเทพฯและหลายพื้นที่ในจังหวัดนครปฐม สมุทรสาคร รวมทั้งถนนสายสำคัญอันเป็นเส้นทางหลักที่จะเดินทางสู่ภาคใต้กำลังกลายเป็นทางน้ำผ่านที่ไหลบ่าจากพื้นที่ต่อเนื่องเพื่อลงสู่ทะเลซึ่งอุทกภัยที่แผ่ขยายออกไปก่อให้เกิดความสูญเสียมากขึ้นทุกวัน ในขณะที่พื้นที่เดิมซึ่งถูกน้ำท่วมมาก่อนหน้านี้ยังไม่ได้รับการฟื้นฟูแต่มีพื้นที่เสียหายใหม่มากขึ้น
ดังนั้นศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ จึงต้องปรับประมาณการความเสียหายที่มีต่อโครงการบ้านปรับประมาณการความเสียหายที่มีต่อโครงการบ้านจัดสรรเพิ่มขึ้นทุกสัปดาห์ ตามพื้นที่ความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง โดยในสัปดาห์นี้ ศูนย์ข้อมูลฯ ปรับเพิ่มประมาณการหน่วยที่อยู่อาศัยในโครงการจัดสรรทั่วทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑลบวกจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมเพิ่มขึ้นอีกมาก เป็นประมาณ 140,000-150,000 หน่วยแล้ว จากจำนวนโครงการบ้านจัดสรรมากกว่า 1,000 โครงการ เป็นการประมาณจากโครงการบ้านจัดสรรทั้งหมดที่มีมาตั้งแต่อดีต แต่ยังไม่รวมหน่วยบ้านที่ประชาชนสร้างเองหรืออยู่นอกโครงการจัดสรร
ทั้งนี้ พื้นที่ด้านเพชรเกษม บางแค และแถบปริมณฑลถึงนครปฐมและสมุทรสาครมีโครงการบ้านจัดสรรทั้งดั้งเดิมและใหม่จำนวนมากหากสถานการณ์อุทกภัยยังดำเนินไปต่อเนื่องตัวเลขความเสียหายอาจขยับเพิ่มขึ้นได้อีกก่อนสิ้นสุดวิกฤต
ศูนย์ข้อมูลฯระบุว่า จากการตรวจสอบกับผู้ประกอบการหลายราย ทำให้เห็นภาพความซบเซาอย่างมากของตลาดที่อยู่อาศัย ทั้งในส่วนตลาดที่อยู่อาศัยสร้างใหม่และตลาดที่อยู่อาศัยมือสอง โดยทั้งจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมโครงการ และจำนวนหน่วยบ้านจัดสรรที่ผู้ซื้อขอโอนกรรมสิทธิ์ ลดลงมากกว่าร้อยละ 50 ในระยะนี้ และในบางกรณีสำหรับบางโครงการอาจลดลงถึงร้อยละ 80 โดยในส่วนของโครงการแนวราบจะลดลงมากกว่า
สำหรับโครงการอาคารชุดนั้น แม้จะในภาวะน้ำท่วมและจะเป็นทางเลือกของผู้บริโภคมากกว่าโครงการแนวราบ แต่ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน เพราะกำลังซื้อของประชาชนโดยภาพรวมลดลงมากและการเดินทางสัญจรยังลำบาก โดยผู้บริโภคซึ่งได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเลือกที่จะใช้วิธีเช่าอยู่ก่อนในขณะนี้
จากข้อมูลล่าสุดศูนย์ข้อมูลฯ จึงประมาณการจำนวนหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทั้งที่อยู่อาศัยสร้างขายใหม่และที่อยู่อาศัยมือสองในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล สำหรับปี2554ทั้งปีว่าอาจปรับลดลงอีกเหลือประมาณ135,000-140,000 หน่วยหรือเท่ากับลดลงอย่างน้อยร้อยละ20เมื่อเทียบกับปี2553ที่มีประมาณ178,000หน่วย
ที่มา : บิสซิเนส ไบ-วีคลี่ ฉบับวันที่ 20 ตุลาคม - 4 พฤศจิกายน 2554
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ได้ออกบทวิเคราะห์ถึงผลกระทบจากอุทกภัยน้ำท่วมต่อตลาดที่อยู่อาศัยล่าสุดว่า วิกฤตน้ำท่วมรุนแรงยังไม่มีทีท่ายุติ และยังขยายพื้นที่ต่อเนื่องอีกหลายเขตหลายพื้นทึ่ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ซึ่งเป็นตลาดที่อยู่อาศัยใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยกรุงเทพฯและหลายพื้นที่ในจังหวัดนครปฐม สมุทรสาคร รวมทั้งถนนสายสำคัญอันเป็นเส้นทางหลักที่จะเดินทางสู่ภาคใต้กำลังกลายเป็นทางน้ำผ่านที่ไหลบ่าจากพื้นที่ต่อเนื่องเพื่อลงสู่ทะเลซึ่งอุทกภัยที่แผ่ขยายออกไปก่อให้เกิดความสูญเสียมากขึ้นทุกวัน ในขณะที่พื้นที่เดิมซึ่งถูกน้ำท่วมมาก่อนหน้านี้ยังไม่ได้รับการฟื้นฟูแต่มีพื้นที่เสียหายใหม่มากขึ้น
ดังนั้นศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ จึงต้องปรับประมาณการความเสียหายที่มีต่อโครงการบ้านปรับประมาณการความเสียหายที่มีต่อโครงการบ้านจัดสรรเพิ่มขึ้นทุกสัปดาห์ ตามพื้นที่ความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง โดยในสัปดาห์นี้ ศูนย์ข้อมูลฯ ปรับเพิ่มประมาณการหน่วยที่อยู่อาศัยในโครงการจัดสรรทั่วทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑลบวกจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมเพิ่มขึ้นอีกมาก เป็นประมาณ 140,000-150,000 หน่วยแล้ว จากจำนวนโครงการบ้านจัดสรรมากกว่า 1,000 โครงการ เป็นการประมาณจากโครงการบ้านจัดสรรทั้งหมดที่มีมาตั้งแต่อดีต แต่ยังไม่รวมหน่วยบ้านที่ประชาชนสร้างเองหรืออยู่นอกโครงการจัดสรร
ทั้งนี้ พื้นที่ด้านเพชรเกษม บางแค และแถบปริมณฑลถึงนครปฐมและสมุทรสาครมีโครงการบ้านจัดสรรทั้งดั้งเดิมและใหม่จำนวนมากหากสถานการณ์อุทกภัยยังดำเนินไปต่อเนื่องตัวเลขความเสียหายอาจขยับเพิ่มขึ้นได้อีกก่อนสิ้นสุดวิกฤต
ศูนย์ข้อมูลฯระบุว่า จากการตรวจสอบกับผู้ประกอบการหลายราย ทำให้เห็นภาพความซบเซาอย่างมากของตลาดที่อยู่อาศัย ทั้งในส่วนตลาดที่อยู่อาศัยสร้างใหม่และตลาดที่อยู่อาศัยมือสอง โดยทั้งจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมโครงการ และจำนวนหน่วยบ้านจัดสรรที่ผู้ซื้อขอโอนกรรมสิทธิ์ ลดลงมากกว่าร้อยละ 50 ในระยะนี้ และในบางกรณีสำหรับบางโครงการอาจลดลงถึงร้อยละ 80 โดยในส่วนของโครงการแนวราบจะลดลงมากกว่า
สำหรับโครงการอาคารชุดนั้น แม้จะในภาวะน้ำท่วมและจะเป็นทางเลือกของผู้บริโภคมากกว่าโครงการแนวราบ แต่ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน เพราะกำลังซื้อของประชาชนโดยภาพรวมลดลงมากและการเดินทางสัญจรยังลำบาก โดยผู้บริโภคซึ่งได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเลือกที่จะใช้วิธีเช่าอยู่ก่อนในขณะนี้
จากข้อมูลล่าสุดศูนย์ข้อมูลฯ จึงประมาณการจำนวนหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทั้งที่อยู่อาศัยสร้างขายใหม่และที่อยู่อาศัยมือสองในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล สำหรับปี2554ทั้งปีว่าอาจปรับลดลงอีกเหลือประมาณ135,000-140,000 หน่วยหรือเท่ากับลดลงอย่างน้อยร้อยละ20เมื่อเทียบกับปี2553ที่มีประมาณ178,000หน่วย
ที่มา : บิสซิเนส ไบ-วีคลี่ ฉบับวันที่ 20 ตุลาคม - 4 พฤศจิกายน 2554