
ร.ฟ.ท. มีลุ้นยื่นอุทธรณ์กรณีกรมที่ดินออกโฉนดทับซ้อนที่ดินของการรถไฟฯที่สถานีท่านุ่น รวมทั้งเชิงสะพานสารสินพื้นที่พังงากว่า 800 ไร่ หลังยื่นฟ้องมาตั้งแต่ปี 2540 ล่าสุดศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาเมื่อ 21 มี.ค.นี้ให้เพิกถอนเอกสารสิทธิทั้งหมด "ชัจจ์" สั่งฝ่ายบริหารทรัพย์สินเตรียมความพร้อมนำออกเปิดประมูล ชี้แต่ละแปลงมูลค่าไม่เกิน 1 พันล้านจึงไม่ต้องร่วมทุน จุดเด่นติดทะเลยาวประมาณ 1 กม.เหมาะสร้างรีสอร์ตเพื่อการพักผ่อน
พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยในงานสัมมนา "จตุจักรมิติใหม่ปลุกตลาด SMEsไทย" ที่จัดโดยหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจว่าเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2555 ที่ผ่านมาศาลปกครองกลางได้พิพากษาให้เพิกถอนเอกสารสิทธิทั้งหมดกับผู้บุกรุกที่ดินประมาณ 1,200 ราย และกรณีที่กรมที่ดินออกเอกสารสิทธิทับซ้อนที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.)ที่ย่านท่านุ่นประมาณ 17 ราย หลังจากที่ยื่นฟ้องมาตั้งแต่ปี 2540 พร้อมกันนั้นการรถไฟฯได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีอาญากับผู้ที่ทำให้เสียทรัพย์ ลักทรัพย์บุกรุกที่ดินร.ฟ.ท.เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2551 ที่ผ่านมา รวมที่ดินทั้งสิ้นประมาณ 800 ไร่
พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยในงานสัมมนา "จตุจักรมิติใหม่ปลุกตลาด SMEsไทย" ที่จัดโดยหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจว่าเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2555 ที่ผ่านมาศาลปกครองกลางได้พิพากษาให้เพิกถอนเอกสารสิทธิทั้งหมดกับผู้บุกรุกที่ดินประมาณ 1,200 ราย และกรณีที่กรมที่ดินออกเอกสารสิทธิทับซ้อนที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.)ที่ย่านท่านุ่นประมาณ 17 ราย หลังจากที่ยื่นฟ้องมาตั้งแต่ปี 2540 พร้อมกันนั้นการรถไฟฯได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีอาญากับผู้ที่ทำให้เสียทรัพย์ ลักทรัพย์บุกรุกที่ดินร.ฟ.ท.เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2551 ที่ผ่านมา รวมที่ดินทั้งสิ้นประมาณ 800 ไร่
"โครงการดังกล่าวนี้อยู่ในทำเลที่ดีติดทะเลยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ใกล้สะพานสารสิน สามารถเชื่อมโยงกับบ้านท่าฉัตรชัย พื้นที่จังหวัดภูเก็ต ในเบื้องต้นเร่งเตรียมพื้นที่ให้สามารถนำออกประมูลได้โดยเร็วที่สุดเมื่อการอุทธรณ์ของผู้ที่เสียหายสิ้นสุดลงแล้วเพื่อหารายได้ให้การรถไฟฯ คาดว่า 4 แปลงจะนำออกประมูลได้เร็วกว่าแปลงอื่น ๆ ซึ่งแต่ละแปลงมูลค่าไม่น่าเกิน 1,000 ล้านบาท จึงไม่เข้าพ.ร.บ.ร่วมทุนการรถไฟฯสามารถนำออกประมูลได้ทันที กำหนดระยะเวลาให้เช่าประมาณ 30 ปีเหมาะสำหรับสร้างรีสอร์ตเพื่อการพักผ่อนจึงน่าจะตรงกับความต้องการนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย"
แหล่งข่าวระดับสูงการรถไฟแห่งประเทศไทยกล่าวว่าปัจจุบันที่ดินในโครงการนี้อยู่ในความดูแลของกองจัดการที่ดิน ศูนย์โครงการก่อสร้าง ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้างการรถไฟฯ ไม่มีเจ้าหน้าที่ดูแลประจำ มีเพียงพนักงานเทคนิค 8 จำนวน 1 นายไปตรวจสอบพื้นที่ระวังแนวเขตที่ดินร่วมกับเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดหรือตรวจสอบพื้นที่เมื่อมีผู้ขอเช่าเป็นครั้งคราวจึงปรากฏว่ามีผู้บุกรุกพื้นที่ดังกล่าวจำนวนมาก นอกจากนั้น 2 ข้างทางรถไฟสายคีรีรัฐนิคม-ท่านุ่นในปัจจุบันยังมีบางตอนเกิดแหล่งชุมชนหนาแน่นจึงมีปัญหาบุกรุกสร้างที่อยู่อาศัย และทำการเกษตร
โดยโครงการดังกล่าวนี้แบ่งพื้นที่ออกเป็น 6 แปลงหลัก ๆ ปัจจุบันพื้นที่ 2 แปลง(E,F)ที่ติดทะเลอันดามัน โดยแปลง E ขนาดพื้นที่ประมาณ 127 ไร่นั้นบริษัทปริ๊นเซสรีสอร์ท จำกัด ขอเช่าในอัตรา 3.8 ล้านบาทต่อปี พื้นที่แปลง F ถัดมาเนื้อที่ประมาณ 117 ไร่ ด้านอ่าวบางขวัญฝั่งทะเลอันดามันบริษัทคาร์โปอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ยื่นขอเช่าใช้พื้นที่ดังกล่าวมาแล้ว แต่ร.ฟ.ท.ยังไม่สามารถดำเนินการให้ได้เนื่องจากติดปัญหาการฟ้องร้องดังกล่าว ส่วนพื้นที่แปลงที่ 2 โซนที่ 2 (D)ขนาดพื้นที่ประมาณ 128 ไร่และพื้นที่แปลงที่ 1 โซนที่ 2 (C) ขนาดพื้นที่ประมาณ 132 ไร่ โซนอ่าวบางขวัญพร้อมดำเนินการปรับพื้นที่และอยู่ใกล้พื้นที่ที่จะก่อสร้างสถานีรถใหม่ที่เชื่อมจากสถานีต้นนุ่นระยะทางประมาณ 131 กิโลเมตร เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการเดินทาง นอกจากนั้นพื้นที่ที่เหลือยังแบ่งเป็นพื้นที่สำหรับก่อสร้างสถานีและแนวเส้นทางรถไฟ(A) พื้นที่ชุมชนหนาแน่น(B)ด้านติดสะพานสารสินที่จะต้องเร่งเคลียร์พื้นที่ต่อไป
"ปมปัญหากรณีดังกล่าวการรถไฟฯเป็นผู้ฟ้องคดีโดยมีอธิบดีกรมที่ดิน(ในขณะนั้น) เป็นผู้ถูกฟ้องจำเลยที่ 1 และเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดพังงา สาขาตะกั่วทุ่งที่ 2 เป็นจำเลยที่ 2 โดยล่าสุดศาลปกครองกลางได้พิพากษาแล้วซึ่งผู้ที่ถูกฟ้องอาจจะยื่นอุทธรณ์ นโยบายผู้บริหารการรถไฟฯและกระทรวงคมนาคมให้เตรียมพร้อมและเร่งเคลียร์ปัญหาต่าง ๆ เพื่อจะนำที่ดินโครงการดังกล่าวออกประมูลหารายได้ให้การรถไฟฯต่อไป"
ทั้งนี้โครงการก่อสร้างเส้นทางรถไฟเชื่อมโยงพื้นที่ดังกล่าวมีแนวเส้นทางจากสถานีชุมทางทุ่งโพธิ์ไปสิ้นสุดที่สถานีคีรีรัตนนิคม ประมาณ 31 กิโลเมตร โดยจะก่อสร้างเพิ่มให้สิ้นสุดที่สถานีท่านุ่นระยะทางประมาณ 131 กิโลเมตร ปัจจุบันได้มีการศึกษาความเหมาะสมเบื้องต้นและพื้นที่ดังกล่าวได้เวนคืนเรียบร้อยแล้วแต่ยังไม่ได้รับงบประมาณก่อสร้างเส้นทางซึ่งคาดว่าจะต้องใช้งบประมาณ 20,000 ล้านบาท โดยนโยบายผู้บริหารต้องการนำพื้นที่ออกประมูลให้เกิดการพัฒนาก่อนแล้วจึงเร่งนำเสนอรัฐบาลเพื่อก่อสร้างเส้นทางรถไฟอำนวยความสะดวกในระยะต่อไป
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,729 8-11 เมษายน พ.ศ. 2555
แหล่งข่าวระดับสูงการรถไฟแห่งประเทศไทยกล่าวว่าปัจจุบันที่ดินในโครงการนี้อยู่ในความดูแลของกองจัดการที่ดิน ศูนย์โครงการก่อสร้าง ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้างการรถไฟฯ ไม่มีเจ้าหน้าที่ดูแลประจำ มีเพียงพนักงานเทคนิค 8 จำนวน 1 นายไปตรวจสอบพื้นที่ระวังแนวเขตที่ดินร่วมกับเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดหรือตรวจสอบพื้นที่เมื่อมีผู้ขอเช่าเป็นครั้งคราวจึงปรากฏว่ามีผู้บุกรุกพื้นที่ดังกล่าวจำนวนมาก นอกจากนั้น 2 ข้างทางรถไฟสายคีรีรัฐนิคม-ท่านุ่นในปัจจุบันยังมีบางตอนเกิดแหล่งชุมชนหนาแน่นจึงมีปัญหาบุกรุกสร้างที่อยู่อาศัย และทำการเกษตร
โดยโครงการดังกล่าวนี้แบ่งพื้นที่ออกเป็น 6 แปลงหลัก ๆ ปัจจุบันพื้นที่ 2 แปลง(E,F)ที่ติดทะเลอันดามัน โดยแปลง E ขนาดพื้นที่ประมาณ 127 ไร่นั้นบริษัทปริ๊นเซสรีสอร์ท จำกัด ขอเช่าในอัตรา 3.8 ล้านบาทต่อปี พื้นที่แปลง F ถัดมาเนื้อที่ประมาณ 117 ไร่ ด้านอ่าวบางขวัญฝั่งทะเลอันดามันบริษัทคาร์โปอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ยื่นขอเช่าใช้พื้นที่ดังกล่าวมาแล้ว แต่ร.ฟ.ท.ยังไม่สามารถดำเนินการให้ได้เนื่องจากติดปัญหาการฟ้องร้องดังกล่าว ส่วนพื้นที่แปลงที่ 2 โซนที่ 2 (D)ขนาดพื้นที่ประมาณ 128 ไร่และพื้นที่แปลงที่ 1 โซนที่ 2 (C) ขนาดพื้นที่ประมาณ 132 ไร่ โซนอ่าวบางขวัญพร้อมดำเนินการปรับพื้นที่และอยู่ใกล้พื้นที่ที่จะก่อสร้างสถานีรถใหม่ที่เชื่อมจากสถานีต้นนุ่นระยะทางประมาณ 131 กิโลเมตร เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการเดินทาง นอกจากนั้นพื้นที่ที่เหลือยังแบ่งเป็นพื้นที่สำหรับก่อสร้างสถานีและแนวเส้นทางรถไฟ(A) พื้นที่ชุมชนหนาแน่น(B)ด้านติดสะพานสารสินที่จะต้องเร่งเคลียร์พื้นที่ต่อไป
"ปมปัญหากรณีดังกล่าวการรถไฟฯเป็นผู้ฟ้องคดีโดยมีอธิบดีกรมที่ดิน(ในขณะนั้น) เป็นผู้ถูกฟ้องจำเลยที่ 1 และเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดพังงา สาขาตะกั่วทุ่งที่ 2 เป็นจำเลยที่ 2 โดยล่าสุดศาลปกครองกลางได้พิพากษาแล้วซึ่งผู้ที่ถูกฟ้องอาจจะยื่นอุทธรณ์ นโยบายผู้บริหารการรถไฟฯและกระทรวงคมนาคมให้เตรียมพร้อมและเร่งเคลียร์ปัญหาต่าง ๆ เพื่อจะนำที่ดินโครงการดังกล่าวออกประมูลหารายได้ให้การรถไฟฯต่อไป"
ทั้งนี้โครงการก่อสร้างเส้นทางรถไฟเชื่อมโยงพื้นที่ดังกล่าวมีแนวเส้นทางจากสถานีชุมทางทุ่งโพธิ์ไปสิ้นสุดที่สถานีคีรีรัตนนิคม ประมาณ 31 กิโลเมตร โดยจะก่อสร้างเพิ่มให้สิ้นสุดที่สถานีท่านุ่นระยะทางประมาณ 131 กิโลเมตร ปัจจุบันได้มีการศึกษาความเหมาะสมเบื้องต้นและพื้นที่ดังกล่าวได้เวนคืนเรียบร้อยแล้วแต่ยังไม่ได้รับงบประมาณก่อสร้างเส้นทางซึ่งคาดว่าจะต้องใช้งบประมาณ 20,000 ล้านบาท โดยนโยบายผู้บริหารต้องการนำพื้นที่ออกประมูลให้เกิดการพัฒนาก่อนแล้วจึงเร่งนำเสนอรัฐบาลเพื่อก่อสร้างเส้นทางรถไฟอำนวยความสะดวกในระยะต่อไป
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,729 8-11 เมษายน พ.ศ. 2555