
กรมที่ดินยันหมดหน้าที่เพิกถอนโฉนด อัลไพน์ 1,200 ไร่ หลัง ปี 2545 เคยตั้งคณะกรรมการ ตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดินมาแล้วกลับถูกตีกลับว่า ไม่ใช่ธรณีสงฆ์โยนกรมการศาสนา เจ้าของเรื่องฟ้องศาลปกครองเอง ด้าน"หมอบุญ" เจ้าของที่ดินอัลไพน์ตัวจริงแจงที่ดินได้มาถูกต้องลูกบ้าน 400 หลังซื้อ-ขายโอนเข้าอยู่แล้วเผยหากเอาผิดรัฐบาลต้องชดเชย 6,000 ล้าน
สืบเนื่องจาก อัยการสูงสุด ยืนคำวินิจฉัยตามคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดย้อนหลัง ต่อ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่มีคำสั่งเพิกถอนคำสั่ง อธิบดีกรมที่ดิน ให้ ที่ดินอัลไพน์ไม่ใช่ที่ธรณีสงฆ์ ในสมัยเป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย รักษาการปลัดกระทรวงมหาดไทยแทน นายชนะศักดิ์ ยุวบูรณ์ ที่ลาออกไปช่วงรัฐบาลทักษิณ 1 ทั้งที่กรมที่ดินในขณะนั้น ได้ปฏิบัติตามมติความเห็นของที่ประชุมใหญ่คณะกรรมการกฤษฎีกาที่มีความเห็นว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นที่ธรณีสงฆ์ จึงต้องมีการเพิกถอนโฉนดเพื่อคืนสภาพเดิม
สืบเนื่องจาก อัยการสูงสุด ยืนคำวินิจฉัยตามคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดย้อนหลัง ต่อ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่มีคำสั่งเพิกถอนคำสั่ง อธิบดีกรมที่ดิน ให้ ที่ดินอัลไพน์ไม่ใช่ที่ธรณีสงฆ์ ในสมัยเป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย รักษาการปลัดกระทรวงมหาดไทยแทน นายชนะศักดิ์ ยุวบูรณ์ ที่ลาออกไปช่วงรัฐบาลทักษิณ 1 ทั้งที่กรมที่ดินในขณะนั้น ได้ปฏิบัติตามมติความเห็นของที่ประชุมใหญ่คณะกรรมการกฤษฎีกาที่มีความเห็นว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นที่ธรณีสงฆ์ จึงต้องมีการเพิกถอนโฉนดเพื่อคืนสภาพเดิม
ต่อเรื่องนี้ นายบุญเชิด คิดเห็น อธิบดีกรมที่ดิน เปิดเผย"ฐานเศรษฐกิจ " ว่า ที่ผ่านมา กรมที่ดินได้ปฏิบัติหน้าที่ ด้วยการตั้งคณะกรรมการพิจารณาเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ออกโดยมิชอบ ตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดินไปแล้วเมื่อปี 2545 แต่ปรากฏว่า ได้ถูกกระทรวงมหาดไทยยับยั้ง เนื่องจากมองว่า จะกระทบกับลูกบ้านอัลไพน์จำนวนมาก ที่ซื้อบ้านและโอนกรรมสิทธิ์ไปเรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ดี หลังจากที่ ป.ป.ช. มีมติ ย้อนหลัง กรณี ที่ดินอัลไพน์เป็นที่ธรณีสงฆ์ ดังกล่าว กรมที่ดินไม่สามารถเพิกถอนโฉนดอัลไพน์ได้อีก เพราะที่ผ่านมาได้ดำเนินการผ่านช่วงนั้นไปแล้ว ขณะเดียวกัน รักษาการปลัดกระทรวงมหาดไทยในช่วงนั้น ได้อาศัยคำสั่งทางปกครองเพื่อให้เรื่องยุติ โดยพิจารณาความเดือดร้อนที่กระทบต่อประชาชนเป็นหลัก ส่งผลให้ต้องเพิกถอนคำสั่งกรมที่ดิน เพิกถอนโฉนดอัลไพน์ ให้กลับคืนเป็นที่ธรณีสงฆ์ เป็นอันต้องยุติลง และให้คงสภาพดังเดิมคือ ที่ดินอัลไพน์ ไม่ใช่ที่ธรณีสงฆ์
ขณะเดียวกัน ประมวลกฎหมายที่ดิน ตามมาตรา 84 ยังเปิดช่องให้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือกรมการศาสนา และผู้มีส่วนได้เสีย ยื่นฟ้องศาลปกครอง คัดค้านภายใน 90 วัน ว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นที่ธรณีสงฆ์ แต่ปรากฏว่า ไม่มีเจ้าทุกข์รายใดเข้ามายื่นฟ้องร้อง ส่งผลให้เรื่องดังกล่าวต้องเป็นอันตกไป อย่างไรก็ดี ทางออก กรมการศาสนา จะต้องยื่นฟ้องศาลปกครองเองหาก องการที่ดินคืน เป็นที่ธรณีสงฆ์
ด้านน.พ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ บริษัท ราชานีเรียลเอสเตท จำกัด กล่าวว่า บริษัทเป็นเจ้าของที่ดินอัลไพน์ บริเวณอำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี โดยซื้อต่อจากวัดธรรมมิการามวรวิหาร จังหวัดนครนายก โดยขณะนั้นยังไม่โอนเป็นที่ธรณีสงฆ์ เนื่องจาก วัดไม่สามารถหาเงินจำนวน 10 ล้านบาท มาโอนกรรมสิทธิ์ จาก มรดกที่ดินแปลงดังกล่าว 1,200 ไร่ ที่นางเนื่อม ชำนาญชาติศักดา เจ้าของที่ดินถวายวัดหากเสียชีวิตขณะเดียวกัน วัดไม่สามารถดูแลที่ดินดังกล่าวได้ ส่งผลให้ต้องขายต่อให้กับบริษัทอย่างถูกต้องเมื่อ 25 ปีก่อน ที่ผ่านมา บริษัทได้พัฒนาที่ดินเป็นสนามกอล์ฟและบ้านจัดสรรโดยรอบโดยมีนายเสนาะ เทียนทอง นั่งเป็นประธาน ในเวลาต่อมา บริษัทได้ขายตัวสนามกอล์ฟ 400 ไร่ ให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
"วัดธรรมมิการาม ได้ตั้งให้มูลนิธิดูแล และไม่ติดใจ เพราะขายที่ดินให้ บริษัท 178 ล้านบาท เมื่อปี 2533 ซึ่งเข้าใจว่า เงินที่ขายที่ดินก็หมดไปแล้วและ วัดและมูลนิธิ ของวัด ก็ไม่มีเงินคืนมาให้กับบริษัท ที่สำคัญจะกระทบกับลูกบ้านและ เมมเบอร์สนามกอล์ฟอัลไพน์ กว่า 900 คน "
อย่างไรก็ดี หากจะมีการเพิกถอนโฉนด บริษัทอยากให้รัฐบาลรับผิดชอบ โดย จ่ายเงินชดเชยให้ตนกับลูกบ้านมูลค่า 6,000 ล้านบาท ทั้งนี้ที่ผ่านมา รัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้สั่งให้นายถาวรเสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยในสมัยนั้น รื้อฟื้นคดีอัลไพน์ขึ้นมา ดังกล่าว
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,750 21-23 มิถุนายน พ.ศ. 2555
อย่างไรก็ดี หลังจากที่ ป.ป.ช. มีมติ ย้อนหลัง กรณี ที่ดินอัลไพน์เป็นที่ธรณีสงฆ์ ดังกล่าว กรมที่ดินไม่สามารถเพิกถอนโฉนดอัลไพน์ได้อีก เพราะที่ผ่านมาได้ดำเนินการผ่านช่วงนั้นไปแล้ว ขณะเดียวกัน รักษาการปลัดกระทรวงมหาดไทยในช่วงนั้น ได้อาศัยคำสั่งทางปกครองเพื่อให้เรื่องยุติ โดยพิจารณาความเดือดร้อนที่กระทบต่อประชาชนเป็นหลัก ส่งผลให้ต้องเพิกถอนคำสั่งกรมที่ดิน เพิกถอนโฉนดอัลไพน์ ให้กลับคืนเป็นที่ธรณีสงฆ์ เป็นอันต้องยุติลง และให้คงสภาพดังเดิมคือ ที่ดินอัลไพน์ ไม่ใช่ที่ธรณีสงฆ์
ขณะเดียวกัน ประมวลกฎหมายที่ดิน ตามมาตรา 84 ยังเปิดช่องให้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือกรมการศาสนา และผู้มีส่วนได้เสีย ยื่นฟ้องศาลปกครอง คัดค้านภายใน 90 วัน ว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นที่ธรณีสงฆ์ แต่ปรากฏว่า ไม่มีเจ้าทุกข์รายใดเข้ามายื่นฟ้องร้อง ส่งผลให้เรื่องดังกล่าวต้องเป็นอันตกไป อย่างไรก็ดี ทางออก กรมการศาสนา จะต้องยื่นฟ้องศาลปกครองเองหาก องการที่ดินคืน เป็นที่ธรณีสงฆ์
ด้านน.พ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ บริษัท ราชานีเรียลเอสเตท จำกัด กล่าวว่า บริษัทเป็นเจ้าของที่ดินอัลไพน์ บริเวณอำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี โดยซื้อต่อจากวัดธรรมมิการามวรวิหาร จังหวัดนครนายก โดยขณะนั้นยังไม่โอนเป็นที่ธรณีสงฆ์ เนื่องจาก วัดไม่สามารถหาเงินจำนวน 10 ล้านบาท มาโอนกรรมสิทธิ์ จาก มรดกที่ดินแปลงดังกล่าว 1,200 ไร่ ที่นางเนื่อม ชำนาญชาติศักดา เจ้าของที่ดินถวายวัดหากเสียชีวิตขณะเดียวกัน วัดไม่สามารถดูแลที่ดินดังกล่าวได้ ส่งผลให้ต้องขายต่อให้กับบริษัทอย่างถูกต้องเมื่อ 25 ปีก่อน ที่ผ่านมา บริษัทได้พัฒนาที่ดินเป็นสนามกอล์ฟและบ้านจัดสรรโดยรอบโดยมีนายเสนาะ เทียนทอง นั่งเป็นประธาน ในเวลาต่อมา บริษัทได้ขายตัวสนามกอล์ฟ 400 ไร่ ให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
"วัดธรรมมิการาม ได้ตั้งให้มูลนิธิดูแล และไม่ติดใจ เพราะขายที่ดินให้ บริษัท 178 ล้านบาท เมื่อปี 2533 ซึ่งเข้าใจว่า เงินที่ขายที่ดินก็หมดไปแล้วและ วัดและมูลนิธิ ของวัด ก็ไม่มีเงินคืนมาให้กับบริษัท ที่สำคัญจะกระทบกับลูกบ้านและ เมมเบอร์สนามกอล์ฟอัลไพน์ กว่า 900 คน "
อย่างไรก็ดี หากจะมีการเพิกถอนโฉนด บริษัทอยากให้รัฐบาลรับผิดชอบ โดย จ่ายเงินชดเชยให้ตนกับลูกบ้านมูลค่า 6,000 ล้านบาท ทั้งนี้ที่ผ่านมา รัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้สั่งให้นายถาวรเสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยในสมัยนั้น รื้อฟื้นคดีอัลไพน์ขึ้นมา ดังกล่าว
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,750 21-23 มิถุนายน พ.ศ. 2555