"ลลิล" เขย่าพอร์ตเปิดตัวโครงการใหม่ รับความเสี่ยงปีมังกร ไม่ยึดติดตลาดจัดสรรในกรุงเทพฯ-นนทบุรี เน้นกระจายพอร์ตทุกระดับราคา ทุกทำเล เปิดตัวใหม่อย่างน้อย 6-8 โครงการ กว่า 3,500 ล้าน ตั้งหน่วยธุรกิจใหม่รองรับแผนบุกตลาดภูธร คอนโดฯโฟกัสกรุงเทพฯ
นายไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้มี 2 ปัจจัยที่เป็นกังวลคือ 1) เหตุการณ์น้ำท่วม 2) ความขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งเป็นสิ่งที่นักธุรกิจไม่อยากให้เกิดขึ้น
นายไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้มี 2 ปัจจัยที่เป็นกังวลคือ 1) เหตุการณ์น้ำท่วม 2) ความขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งเป็นสิ่งที่นักธุรกิจไม่อยากให้เกิดขึ้น
สำหรับน้ำท่วม การที่รัฐบาลเริ่มประกาศนโยบายป้องกันน้ำท่วมออกมา ทั้งการผ่านพระราชกฤษฎีกากู้เงิน 350,000 ล้านบาท การกำหนดพื้นที่ฟลัดเวย์ (ทางน้ำผ่าน) 2 ล้านไร่ และการพร่องน้ำในเขื่อนในฐานะนักธุรกิจมีความพอใจในระดับ 70-80% แต่ฐบาลต้องลงมือปฏิบัติตามแผนให้เห็นเป็นรูปธรรม จึงจะทำให้การลงทุนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่น้ำท่วมเริ่มกลับมาในช่วงครึ่งปีหลัง ส่วนกำลังซื้อบ้านในโซนน้ำท่วมที่ผ่านมาคาดว่าไตรมาส 2 น่าจะเริ่มฟื้นตัวได้
ขณะที่สถานการณ์เศรษฐกิจยุโรปยังคงเป็นปัจจัยที่ต้องติดตาม ส่วนประเทศไทยแม้ปัจจุบันรัฐบาลมีหนี้ 30% ของจีดีพี ยังห่วงการก่อหนี้ในอนาคต
"ผมให้นโยบายลูกน้องคำเดียวว่า เฟล็กซิเบิล การพัฒนาโครงการปีนี้ต้องยืดหยุ่น ลองสิ่งใหม่ ๆ ไม่ทำเฉพาะบ้านแนวราบในกรุงเทพฯและ จ.นนทบุรีเหมือนที่ผ่านมา"
ปีนี้ลลิลจะมีโครงการใหม่ 6-8 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 3,500 ล้านบาท จะพัฒนาโครงการหลากหลายรูปแบบมากขึ้น ทั้งกระจายทำเล ระดับราคา และพัฒนาคอนโดฯเพิ่มขึ้น
รวมทั้งตั้งหน่วยธุรกิจใหม่ เพื่อรับผิดชอบการพัฒนาโครงการหัวเมืองภูมิภาคโดยเฉพาะ จังหวัดที่สนใจอยู่ในภาคตะวันออกและอีสานเป็นหลัก ได้แก่ พัทยา ชลบุรี ระยอง นครปฐม ขอนแก่น นครราชสีมา อุบลราชธานี และอุดรธานี กำหนดไว้อย่างน้อย 3-4 โครงการ จะเห็นความชัดเจนภายในไตรมาส 2
อีกทั้งจะขยายการลงทุนคอนโดฯมากขึ้น จากปลายปีที่แล้วได้ทดลองเปิดตัวโครงการ "LEVO"ลาดพร้าว 18 และผลตอบรับดี มียอดจองแล้ว 70% ปีนี้จึงวางแผนเปิดตัวคอนโดฯเพิ่มอีก 2-3 โครงการ ราคายูนิตละ 1 ล้านต้น ๆ และคอนโดฯบีโอไอราคายูนิตไม่เกิน 1 ล้านบาท ซึ่งจะไม่ได้อยู่ในทำเลติดรถไฟฟ้า
ส่วนโครงการแนวราบมีที่ดินจะพัฒนาโครงการแล้ว 2 แปลงใน จ.นนทบุรี ซึ่งได้ลงทุนถมที่ดินยกบ้านในโครงการสูงจากถนนรวม 1 เมตร ปรับตำแหน่งสายไฟและแยกแผงควบคุมไฟชั้น 1 และ 2
จากแผนงานปีนี้ ตั้งเป้ายอดขาย 2,550 ล้านบาท และรายได้ 2,150 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโต 15% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1,860 ล้านบาท เติบโต 10% บริษัทวางทิศทางจะต้องเติบโตในระดับนี้ไปอีก 3 ปี มาจากการขยายโครงการในต่างจังหวัดและคอนโดฯ เนื่องจากบริษัทได้วางนโยบายขยายตลาดใหม่เต็มตัว และไม่ใช่เป็นการปรับแผนเฉพาะกิจในช่วงที่ตลาดบ้านจัดสรรในกรุงเทพฯและนนทบุรีที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม
ที่มา: หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 12 - 14 มี.ค. 2555
ขณะที่สถานการณ์เศรษฐกิจยุโรปยังคงเป็นปัจจัยที่ต้องติดตาม ส่วนประเทศไทยแม้ปัจจุบันรัฐบาลมีหนี้ 30% ของจีดีพี ยังห่วงการก่อหนี้ในอนาคต
"ผมให้นโยบายลูกน้องคำเดียวว่า เฟล็กซิเบิล การพัฒนาโครงการปีนี้ต้องยืดหยุ่น ลองสิ่งใหม่ ๆ ไม่ทำเฉพาะบ้านแนวราบในกรุงเทพฯและ จ.นนทบุรีเหมือนที่ผ่านมา"
ปีนี้ลลิลจะมีโครงการใหม่ 6-8 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 3,500 ล้านบาท จะพัฒนาโครงการหลากหลายรูปแบบมากขึ้น ทั้งกระจายทำเล ระดับราคา และพัฒนาคอนโดฯเพิ่มขึ้น
รวมทั้งตั้งหน่วยธุรกิจใหม่ เพื่อรับผิดชอบการพัฒนาโครงการหัวเมืองภูมิภาคโดยเฉพาะ จังหวัดที่สนใจอยู่ในภาคตะวันออกและอีสานเป็นหลัก ได้แก่ พัทยา ชลบุรี ระยอง นครปฐม ขอนแก่น นครราชสีมา อุบลราชธานี และอุดรธานี กำหนดไว้อย่างน้อย 3-4 โครงการ จะเห็นความชัดเจนภายในไตรมาส 2
อีกทั้งจะขยายการลงทุนคอนโดฯมากขึ้น จากปลายปีที่แล้วได้ทดลองเปิดตัวโครงการ "LEVO"ลาดพร้าว 18 และผลตอบรับดี มียอดจองแล้ว 70% ปีนี้จึงวางแผนเปิดตัวคอนโดฯเพิ่มอีก 2-3 โครงการ ราคายูนิตละ 1 ล้านต้น ๆ และคอนโดฯบีโอไอราคายูนิตไม่เกิน 1 ล้านบาท ซึ่งจะไม่ได้อยู่ในทำเลติดรถไฟฟ้า
ส่วนโครงการแนวราบมีที่ดินจะพัฒนาโครงการแล้ว 2 แปลงใน จ.นนทบุรี ซึ่งได้ลงทุนถมที่ดินยกบ้านในโครงการสูงจากถนนรวม 1 เมตร ปรับตำแหน่งสายไฟและแยกแผงควบคุมไฟชั้น 1 และ 2
จากแผนงานปีนี้ ตั้งเป้ายอดขาย 2,550 ล้านบาท และรายได้ 2,150 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโต 15% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1,860 ล้านบาท เติบโต 10% บริษัทวางทิศทางจะต้องเติบโตในระดับนี้ไปอีก 3 ปี มาจากการขยายโครงการในต่างจังหวัดและคอนโดฯ เนื่องจากบริษัทได้วางนโยบายขยายตลาดใหม่เต็มตัว และไม่ใช่เป็นการปรับแผนเฉพาะกิจในช่วงที่ตลาดบ้านจัดสรรในกรุงเทพฯและนนทบุรีที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม
ที่มา: หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 12 - 14 มี.ค. 2555