ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ รายงานสถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยปี 2555 โดยระบุว่ามีปัจจัยเกื้อหนุนและปัจจัยที่เป็นอุปสรรค อีกทั้งอาจมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในหมู่ผู้บริโภคบางส่วนที่ผ่านประสบการณ์อุทกภัยใหญ่ในปีที่ผ่านมา โดยที่อยู่อาศัยประเภทแนวสูงจะเป็นตัวเลือกใหม่ของผู้บริโภค ที่ยังมีความหวั่นไหวต่อภัยน้ำท่วม
อาคารชุดตามแนวรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแถบปริมณฑล ที่ไม่ห่างไกลจากเมืองมากนักในบริเวณที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมน้อย และอยู่ใกล้เคียงสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ เช่น ห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ โรงพยาบาล ถนนสายหลัก ฯลฯ อาจจะได้รับความนิยมมากขึ้น เมื่อเทียบกับโครงการแนวราบในบริเวณใกล้เคียง
ผู้บริโภคจะพิถีพิถันในการเลือกโครงการมากขึ้น และใช้เวลาพิจารณายาวนานขึ้นในการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยใหม่ในอนาคตโดยเฉพาะด้านทำเลที่อยู่อาศัย โดยจะให้ความสำคัญกับระดับความสูงของพื้นที่โครงการ และระดับความสูงของเส้นทางสัญจรรอบด้าน
ผู้บริโภคส่วนหนึ่งที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยแต่ไม่สามารถซื้อบ้านเดี่ยวได้เพราะมีงบประมาณจำกัด หรือความสามารถในการหารายได้ลดลง อาจพิจารณาซื้อห้องชุดคอนโดมิเนียมแทนการซื้อทาวน์เฮาส์ หากไม่มั่นใจว่าโครงการแนวราบในทำเลที่ต้องการจะอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัยจากภาวะน้ำท่วม อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคส่วนหนึ่งซึ่งไม่มีรายได้เพียงพออาจจำเป็นต้องซ่อมแซมที่อยู่อาศัยเดิมไปก่อน
สำหรับผู้ประกอบการที่มีแปลงที่ดินในบริเวณดังกล่าวอาจกระจายความเสี่ยงโดยเปิดโครงการแนวสูงแทนแนวราบในสัดส่วนที่มากขึ้น หรือดำเนินโครงการในพื้นที่อื่นๆ ซึ่งไม่กระจุกตัวหรือกระจายโครงการออกไปสู่ต่างจังหวัด ส่วนผู้ประกอบการที่ไม่มีแลนด์แบงก์หรือแปลงที่ดินในความครอบครองในพื้นที่น้ำท่วมหนักอยู่ก่อนแล้ว มีโอกาสน้อยลงที่จะเปิดโครงการจัดสรรใหม่ในพื้นที่ดังกล่าว
เนื่องจากจะมีหน่วยที่ผู้บริโภคประกาศขายเป็นที่อยู่อาศัยมือสองเพิ่มขึ้น แต่สำหรับผู้ประกอบการที่มีแลนด์แบงก์ในความครอบครองอยู่ก่อนแล้วจะต้องพิจารณาปรับปรุงคุณภาพของแปลงที่ดินให้ดีขึ้น เช่น การถมที่ให้สูงขึ้น การเสริมความมั่นคงแข็งแรงของแปลงที่ดิน การจัดเตรียมระบบระบายน้ำภายในและบริเวณรอบแปลงที่ดิน ก่อนที่ผู้ประกอบการจะเปิดโครงการใหม่บนแปลงที่ดินนั้น
สำหรับที่อยู่อาศัยในโครงการซึ่งจะสร้างใหม่ น่าจะมีราคาแพงขึ้น แต่สำหรับที่อยู่อาศัยที่สร้างเสร็จและขายอยู่ก่อนแล้ว ผู้ประกอบการอาจต้องทำกิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อระบายสินค้าคงค้าง จากช่วงเกิดอุทกภัยจึงไม่สามารถขึ้นราคาได้
ในปี 2555 ผู้ประกอบการอาจต้องเผชิญกับภาวะขาดแคลนแรงงาน เนื่องจากแรงงานส่วนหนึ่งในภาคการก่อสร้าง ทั้งแรงงานไทยจากต่างจังหวัดและแรงงานต่างด้าว ซึ่งโยกย้ายถิ่นฐานในช่วงเกิดอุทกภัยและไม่กลับมาอีก
วัสดุก่อสร้างน่าจะมีราคาแพงขึ้น เนื่องจากภาครัฐต้องบูรณะซ่อมแซมถนน สะพาน และสิ่งปลูกสร้างต่างๆ จำนวนมาก อีกทั้งปัจจุบันยังมีการตรึงราคาวัสดุก่อสร้างเพื่อช่วยเหลือประชาชนในการซ่อมแซมบ้านเรือนที่ประสบอุทกภัย ซึ่งเมื่อหมดช่วงตรึงราคาแล้ว ราคาวัสดุก่อสร้างอาจดีดกลับขึ้น
แต่ในมุมมองหนึ่ง สภาวะการชะลอตัวในภาคที่อยู่อาศัยของหลายประเทศในภูมิภาคอาจกดให้ราคาวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้นในอัตราที่ไม่สูงมากนัก เว้นแต่จะมีสถานการณ์รุนแรงในตะวันออกกลางซึ่งมีผลต่อราคาน้ำมันโดยตรงและราคาวัสดุทางอ้อม
ผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลายรายได้ประกาศเลื่อนการเปิดโครงการที่อยู่อาศัยออกไปจากแผนเดิมที่จะเปิดในไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมามาเป็นปีนี้ แต่การเปิดโครงการใหม่จำนวนมากน่าจะเกิดต่อเมื่อผ่านพ้นฤดูฝนไปแล้วโดยในช่วงครึ่งแรกของปีผู้ประกอบการยังมีโครงการเดิมคั่งค้างจะต้องเร่งก่อสร้างและเร่งระบายหน่วยในโครงการเดิมออกไปก่อนหลังจากที่หยุดชะงักไปนานในช่วงเกิดอุทกภัย แล้วจึงจะเปิดโครงการใหม่
ภาวะหยุดชะงักของตลาดที่อยู่อาศัยน่าจะเกิดขึ้นต่อเนื่องตลอดไตรมาสสุดท้ายของปี 2554 ไปจนถึงไตรมาสแรกของปี2555 โดยภายหลังน้ำลดจะเป็นช่วงเวลาของการปรับปรุงซ่อมแซมที่อยู่อาศัยเป็นหลัก ความต้องการสินเชื่อเพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัยน่าจะมีมาก แต่ความต้องการสินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยใหม่จะลดลงเพราะมีการชะลอการขอโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัย
ตลาดที่อยู่อาศัยอาจเริ่มปรับตัวดีขึ้นได้เล็กน้อยในช่วงไตรมาส2 และหากสามารถผ่านพ้นช่วงไตรมาส 2 และหากสามารถผ่านพ้นช่วงกลางปีไปได้โดยไม่มีปัจจัยเสี่ยงทั้งเรื่องอุทกภัยเศรษฐกิจ และการเมือง รวมถึงวิกฤตเศรษฐกิจในยุโรปไม่ส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยมากนัก ตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2555 จะสามารถฟื้นตัวได้อย่างช้าๆ
ที่มา: หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
อาคารชุดตามแนวรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแถบปริมณฑล ที่ไม่ห่างไกลจากเมืองมากนักในบริเวณที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมน้อย และอยู่ใกล้เคียงสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ เช่น ห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ โรงพยาบาล ถนนสายหลัก ฯลฯ อาจจะได้รับความนิยมมากขึ้น เมื่อเทียบกับโครงการแนวราบในบริเวณใกล้เคียง
ผู้บริโภคจะพิถีพิถันในการเลือกโครงการมากขึ้น และใช้เวลาพิจารณายาวนานขึ้นในการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยใหม่ในอนาคตโดยเฉพาะด้านทำเลที่อยู่อาศัย โดยจะให้ความสำคัญกับระดับความสูงของพื้นที่โครงการ และระดับความสูงของเส้นทางสัญจรรอบด้าน
ผู้บริโภคส่วนหนึ่งที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยแต่ไม่สามารถซื้อบ้านเดี่ยวได้เพราะมีงบประมาณจำกัด หรือความสามารถในการหารายได้ลดลง อาจพิจารณาซื้อห้องชุดคอนโดมิเนียมแทนการซื้อทาวน์เฮาส์ หากไม่มั่นใจว่าโครงการแนวราบในทำเลที่ต้องการจะอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัยจากภาวะน้ำท่วม อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคส่วนหนึ่งซึ่งไม่มีรายได้เพียงพออาจจำเป็นต้องซ่อมแซมที่อยู่อาศัยเดิมไปก่อน
สำหรับผู้ประกอบการที่มีแปลงที่ดินในบริเวณดังกล่าวอาจกระจายความเสี่ยงโดยเปิดโครงการแนวสูงแทนแนวราบในสัดส่วนที่มากขึ้น หรือดำเนินโครงการในพื้นที่อื่นๆ ซึ่งไม่กระจุกตัวหรือกระจายโครงการออกไปสู่ต่างจังหวัด ส่วนผู้ประกอบการที่ไม่มีแลนด์แบงก์หรือแปลงที่ดินในความครอบครองในพื้นที่น้ำท่วมหนักอยู่ก่อนแล้ว มีโอกาสน้อยลงที่จะเปิดโครงการจัดสรรใหม่ในพื้นที่ดังกล่าว
เนื่องจากจะมีหน่วยที่ผู้บริโภคประกาศขายเป็นที่อยู่อาศัยมือสองเพิ่มขึ้น แต่สำหรับผู้ประกอบการที่มีแลนด์แบงก์ในความครอบครองอยู่ก่อนแล้วจะต้องพิจารณาปรับปรุงคุณภาพของแปลงที่ดินให้ดีขึ้น เช่น การถมที่ให้สูงขึ้น การเสริมความมั่นคงแข็งแรงของแปลงที่ดิน การจัดเตรียมระบบระบายน้ำภายในและบริเวณรอบแปลงที่ดิน ก่อนที่ผู้ประกอบการจะเปิดโครงการใหม่บนแปลงที่ดินนั้น
สำหรับที่อยู่อาศัยในโครงการซึ่งจะสร้างใหม่ น่าจะมีราคาแพงขึ้น แต่สำหรับที่อยู่อาศัยที่สร้างเสร็จและขายอยู่ก่อนแล้ว ผู้ประกอบการอาจต้องทำกิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อระบายสินค้าคงค้าง จากช่วงเกิดอุทกภัยจึงไม่สามารถขึ้นราคาได้
ในปี 2555 ผู้ประกอบการอาจต้องเผชิญกับภาวะขาดแคลนแรงงาน เนื่องจากแรงงานส่วนหนึ่งในภาคการก่อสร้าง ทั้งแรงงานไทยจากต่างจังหวัดและแรงงานต่างด้าว ซึ่งโยกย้ายถิ่นฐานในช่วงเกิดอุทกภัยและไม่กลับมาอีก
วัสดุก่อสร้างน่าจะมีราคาแพงขึ้น เนื่องจากภาครัฐต้องบูรณะซ่อมแซมถนน สะพาน และสิ่งปลูกสร้างต่างๆ จำนวนมาก อีกทั้งปัจจุบันยังมีการตรึงราคาวัสดุก่อสร้างเพื่อช่วยเหลือประชาชนในการซ่อมแซมบ้านเรือนที่ประสบอุทกภัย ซึ่งเมื่อหมดช่วงตรึงราคาแล้ว ราคาวัสดุก่อสร้างอาจดีดกลับขึ้น
แต่ในมุมมองหนึ่ง สภาวะการชะลอตัวในภาคที่อยู่อาศัยของหลายประเทศในภูมิภาคอาจกดให้ราคาวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้นในอัตราที่ไม่สูงมากนัก เว้นแต่จะมีสถานการณ์รุนแรงในตะวันออกกลางซึ่งมีผลต่อราคาน้ำมันโดยตรงและราคาวัสดุทางอ้อม
ผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลายรายได้ประกาศเลื่อนการเปิดโครงการที่อยู่อาศัยออกไปจากแผนเดิมที่จะเปิดในไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมามาเป็นปีนี้ แต่การเปิดโครงการใหม่จำนวนมากน่าจะเกิดต่อเมื่อผ่านพ้นฤดูฝนไปแล้วโดยในช่วงครึ่งแรกของปีผู้ประกอบการยังมีโครงการเดิมคั่งค้างจะต้องเร่งก่อสร้างและเร่งระบายหน่วยในโครงการเดิมออกไปก่อนหลังจากที่หยุดชะงักไปนานในช่วงเกิดอุทกภัย แล้วจึงจะเปิดโครงการใหม่
ภาวะหยุดชะงักของตลาดที่อยู่อาศัยน่าจะเกิดขึ้นต่อเนื่องตลอดไตรมาสสุดท้ายของปี 2554 ไปจนถึงไตรมาสแรกของปี2555 โดยภายหลังน้ำลดจะเป็นช่วงเวลาของการปรับปรุงซ่อมแซมที่อยู่อาศัยเป็นหลัก ความต้องการสินเชื่อเพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัยน่าจะมีมาก แต่ความต้องการสินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยใหม่จะลดลงเพราะมีการชะลอการขอโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัย
ตลาดที่อยู่อาศัยอาจเริ่มปรับตัวดีขึ้นได้เล็กน้อยในช่วงไตรมาส2 และหากสามารถผ่านพ้นช่วงไตรมาส 2 และหากสามารถผ่านพ้นช่วงกลางปีไปได้โดยไม่มีปัจจัยเสี่ยงทั้งเรื่องอุทกภัยเศรษฐกิจ และการเมือง รวมถึงวิกฤตเศรษฐกิจในยุโรปไม่ส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยมากนัก ตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2555 จะสามารถฟื้นตัวได้อย่างช้าๆ
ที่มา: หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์