ยุทธนา เตรียมเสนอบอร์ด ร.ฟ.ท.เพิ่มกรอบวงเงินรถไฟสายสีแดง 10% คิดเป็นเงินเพิ่มกว่า 4.8 พันล้านบาท พร้อมต่อรองราคากับผู้รับเหมาสัญญาที่ 1 ลงอีกกว่า 1 พันล้านบาทไม่ให้เกินกรอบวงเงินใหม่
นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยภายหลังรายงานความคืบหน้าการดำเนินโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต ระยะทาง 26 กม.ว่า ในวันที่ 10 เม.ย.นี้ ร.ฟ.ท.จะเสนอให้คณะกรรมการ ร.ฟ.ท. ซึ่งมีนางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เป็นประธาน พิจารณาปรับเพิ่มกรอบวงเงินโครงการรถไฟสายสีแดงเป็นเงิน 80,373 ล้านบาท จากเดิม 75,548 ล้านบาท และจะเสนอให้ ครม.พิจารณาต่อไป
นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยภายหลังรายงานความคืบหน้าการดำเนินโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต ระยะทาง 26 กม.ว่า ในวันที่ 10 เม.ย.นี้ ร.ฟ.ท.จะเสนอให้คณะกรรมการ ร.ฟ.ท. ซึ่งมีนางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เป็นประธาน พิจารณาปรับเพิ่มกรอบวงเงินโครงการรถไฟสายสีแดงเป็นเงิน 80,373 ล้านบาท จากเดิม 75,548 ล้านบาท และจะเสนอให้ ครม.พิจารณาต่อไป
ทั้งนี้ เพื่อแก้ปัญหาการประกวดราคาที่ล่าช้ามากว่า 1 ปี เนื่องจากการเปิดซองราคาสัญญาที่ 1 หรืองานก่อสร้างงานโยธา สถานีกลางบางซื่อและศูนย์ซ่อมบำรุง พบว่ากลุ่มกิจการร่วมค้า SU ประกอบด้วย บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้เสนอราคาต่ำสุดเสนอราคาที่ต่อรองแล้วเหลือ 31,170 ล้านบาท ขณะที่กรอบวงเงินของ ร.ฟ.ท.อยู่ที่ 27,344 ล้านบาท ซึ่งตามระเบียบการประกวดราคาของไทยไม่สามารถดำเนินการได้
การปรับกรอบวงเงินดังกล่าว เป็นการปรับเพิ่มกรอบวงเงินตามระเบียบพัสดุของการรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2544 ที่เปิดโอกาสให้ปรับเพิ่มกรอบวงเงินได้ไม่เกิน 10% สาเหตุที่ต้องปรับกรอบวงเงิน เพราะกรอบวงเงินเดิมคิดเมื่อปี 2552 แต่ขั้นตอนดำเนินงานจนกว่าจะประกวดราคาแบบนานาชาติใช้เวลากว่า 4 ปี ทำให้ราคาไม่เป็นปัจจุบัน นายยุทธนา กล่าว
สำหรับกรอบวงเงินใหม่ แบ่งเป็น 3 สัญญา ได้แก่ สัญญาที่ 1 เพิ่มเป็น 30,078 ล้าน จากเดิม 27,344 ล้านบาท สัญญาที่ 2 งานโยธาสำหรับทางรถไฟ ระยะทาง 21 กม. เพิ่มเป็น 21,406 ล้านบาท จากเดิม 18,861 ล้านบาท และสัญญาที่ 3 งานระบบรถไฟฟ้าและเครื่องกลรวมงานจัดซื้อตู้รถไฟฟ้าช่วงตลิ่งชัน-บางซื่อ-รังสิต เพิ่มเป็น 28,899 ล้านบาท จากเดิม 26,272 ล้านบาท
ต้องเร่งยุติเรื่องกรอบวงเงินให้ชัดเจน เพื่อจะได้เจรจาต่อรองกับกลุ่มกิจการร่วมค้า SU ให้ปรับลดวงเงินอีกกว่า 1 พันล้านบาท เพื่อให้วงเงินอยู่ในกรอบ หากบริษัทแรกไม่ยอมจะได้เจรจากับบริษัทที่ 2 ต่อไป นายยุทธนา กล่าว
นายยุทธนา ยังกล่าวถึงแนวทางการพิจารณาข้อเสนอด้านเทคนิคสัญญาที่ 3 ว่า พบปัญหาว่าผู้เข้าร่วมประมูล 2 รายคือที่เป็นบริษัทญี่ปุ่นอาจเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.ฮั้วประมูล เนื่องมีกรรมการอิสระ 1 คนเข้าไปเป็นกรรมของทั้ง 2 บริษัท แต่องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น หรือไจกา ในฐานะเจ้าของเงินกู้โครงการดังกล่าว เห็นว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกัน
ทั้งนี้ ร.ฟ.ท.ได้ส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุ (กพว.) ซึ่งตอบกลับมาว่า ให้ ร.ฟ.ท.พิจารณาดำเนินการตามกฎหมายโดยไม่ให้ขัดต่อ พ.ร.บ.ฮั้วและต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขของไจกา
ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
การปรับกรอบวงเงินดังกล่าว เป็นการปรับเพิ่มกรอบวงเงินตามระเบียบพัสดุของการรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2544 ที่เปิดโอกาสให้ปรับเพิ่มกรอบวงเงินได้ไม่เกิน 10% สาเหตุที่ต้องปรับกรอบวงเงิน เพราะกรอบวงเงินเดิมคิดเมื่อปี 2552 แต่ขั้นตอนดำเนินงานจนกว่าจะประกวดราคาแบบนานาชาติใช้เวลากว่า 4 ปี ทำให้ราคาไม่เป็นปัจจุบัน นายยุทธนา กล่าว
สำหรับกรอบวงเงินใหม่ แบ่งเป็น 3 สัญญา ได้แก่ สัญญาที่ 1 เพิ่มเป็น 30,078 ล้าน จากเดิม 27,344 ล้านบาท สัญญาที่ 2 งานโยธาสำหรับทางรถไฟ ระยะทาง 21 กม. เพิ่มเป็น 21,406 ล้านบาท จากเดิม 18,861 ล้านบาท และสัญญาที่ 3 งานระบบรถไฟฟ้าและเครื่องกลรวมงานจัดซื้อตู้รถไฟฟ้าช่วงตลิ่งชัน-บางซื่อ-รังสิต เพิ่มเป็น 28,899 ล้านบาท จากเดิม 26,272 ล้านบาท
ต้องเร่งยุติเรื่องกรอบวงเงินให้ชัดเจน เพื่อจะได้เจรจาต่อรองกับกลุ่มกิจการร่วมค้า SU ให้ปรับลดวงเงินอีกกว่า 1 พันล้านบาท เพื่อให้วงเงินอยู่ในกรอบ หากบริษัทแรกไม่ยอมจะได้เจรจากับบริษัทที่ 2 ต่อไป นายยุทธนา กล่าว
นายยุทธนา ยังกล่าวถึงแนวทางการพิจารณาข้อเสนอด้านเทคนิคสัญญาที่ 3 ว่า พบปัญหาว่าผู้เข้าร่วมประมูล 2 รายคือที่เป็นบริษัทญี่ปุ่นอาจเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.ฮั้วประมูล เนื่องมีกรรมการอิสระ 1 คนเข้าไปเป็นกรรมของทั้ง 2 บริษัท แต่องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น หรือไจกา ในฐานะเจ้าของเงินกู้โครงการดังกล่าว เห็นว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกัน
ทั้งนี้ ร.ฟ.ท.ได้ส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุ (กพว.) ซึ่งตอบกลับมาว่า ให้ ร.ฟ.ท.พิจารณาดำเนินการตามกฎหมายโดยไม่ให้ขัดต่อ พ.ร.บ.ฮั้วและต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขของไจกา
ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ