ต่างชาติโหมซื้อหุ้นอสังหารายใหญ่ เผย "เอเชี่ยนพร็อพเพอร์ตี้" เด่นสุด มีมอร์แกนสแตนเลย์-เจพี-เดอะแบงก์ ออฟ นิวยอร์กซื้อเพิ่ม ด้านจีไอซีถือเพิ่มหุ้นแลนด์ฯ อีก 40.6 ล้านหุ้น ขณะที่เอชเอสบีซีฯ ขายทุกตัวด้านศุภาลัยขยับเป้ายอดขายปีนี้เป็น 1.9 หมื่นล้านบาท หลังไตรมาสแรกสดใส ส่วนโบรกยังแนะซื้อคาดยอดขาย 7 บริษัท 4.08 หมื่นล้านบาท โต 21% จากปีก่อน
การสำรวจข้อมูลโครงสร้างผู้ถือหุ้นในกลุ่มบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ 3 บริษัทประกอบด้วย บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) บริษัท เอเชี่ยนพร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ (AP) บริษัท ศุภาลัย (SPALI) และบริษัท ควอลิตีเฮ้าส์ (QH) พบว่านักลงทุนสถาบันได้เพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้น โดยเฉพาะหุ้นเอเชี่ยนพร็อพเพอร์ตี้ มีสถาบันต่างชาติซื้อหุ้นเข้าพอร์ตจำนวนมาก
การสำรวจข้อมูลโครงสร้างผู้ถือหุ้นในกลุ่มบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ 3 บริษัทประกอบด้วย บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) บริษัท เอเชี่ยนพร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ (AP) บริษัท ศุภาลัย (SPALI) และบริษัท ควอลิตีเฮ้าส์ (QH) พบว่านักลงทุนสถาบันได้เพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้น โดยเฉพาะหุ้นเอเชี่ยนพร็อพเพอร์ตี้ มีสถาบันต่างชาติซื้อหุ้นเข้าพอร์ตจำนวนมาก
จากข้อมูลต่างชาติที่เพิ่มการถือหุ้นเอเชี่ยนประกอบด้วยเดอะแบงก์ ออฟ นิวยอร์ก มิลเลียน-ซีจีที แท็กซ์เอเบิ้ล ถือเพิ่ม 76.67 ล้านหุ้น เชส นอมินี ลิมิเต็ด 1 ถือเพิ่ม 46.58 ล้านหุ้น ทีเอฟบี ฟอร์ เอ็มเอฟซี-ไทย อินเวสเม้นท์ 7.31 ล้านหุ้น บีเอ็นวาย มิลเลียน นอมินี ลิมิเต็ด 41.7 ล้านหุ้น มอร์แกน สแตนเลย์ แอนด์ โค อินเตอร์เนชั่นนัล 41.01 ล้านหุ้น สเตรทสตรีท แบงก์ แอนด์ ทรัสต์ คอมพานี 40.59 ล้านหุ้น
เดอะแบงก์ ออฟ นิวยอร์ก (นอมินี) 12.45 ล้านหุ้น นอร์ทรัสต์ นอมินี ลิมิเต็ด 20.70 ล้านหุ้น สเตรท สตรีท แบงก์ ยุโรป ลิมิเต็ด 17.76 ล้านหุ้น เชส นอมินี 47 17.71 ล้านหุ้น สเตรท สตรีท แบงก์ แอนด์ ทรัสต์ คอมปะนี ฟอร์ แคนาดา 17.37 ล้านหุ้น โซเมอร์ (ยู.เค.) ลิมิเต็ด 16.44 ล้านหุ้น และเจพี มอร์แกน ไอแลนด์ (นอมินี) 574 จำนวน 15.27 ล้านหุ้น
ทั้งนี้สถาบันที่ขายหุ้น ได้แก่ เอชเอสบีซี (สิงคโปร์) นอมินี 32.03 ล้านหุ้น เชส ซี.เอส.ซิปทรัล นอมินี ลิมิเต็ด 24 ขาย 16.40 ล้านหุ้น และเอชเอสบีซี แบงก์ 0.30 ล้านหุ้น หุ้นแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มีต่างชาติที่เพิ่มการถือหุ้น ได้แก่ กองทุนรัฐบาลสิงคโปร์ (gic) 40.66 ล้านหุ้น เชส นอมินี ลิมิเต็ด 42 ถือเพิ่ม 16.27 ล้านหุ้น ขณะที่ในส่วนที่ขายประกอบด้วย สเตรท สตรีท แบงก์ แอนด์ ทรัสต์ คอมปะนี ออสเตรเลีย 1.09 ล้านหุ้น และเอชเอสบีซี (สิงคโปร์) นอมินี 105.54 ล้านหุ้น
หุ้นควอลิตี้เฮ้าส์ มีสถาบันเพิ่มสัดส่วนถือหุ้น ได้แก่ สเตรท สตรีท แบงก์ ยุโรป ลิมิเต็ด 137.17 ล้านหุ้น อีสท์ โฟรทีน ลิมิเต็ด 46.50 ล้านหุ้น เชส นอมินี ลิมิเต็ด 4 ถือ45.74 ล้านหุ้น และเดอะแบงก์ ออฟ นิวยอร์ก นอมินี 1.80 ล้านหุ้น ส่วนที่ขาย ได้แก่ เอชเอสบีซี (สิงคโปร์) นอมินี 22.42 ล้านหุ้น เดอะแบงก์ ออฟ นิวยอร์ก (นอมินี) 10.73 ล้านหุ้น เชส นอมินี ลิมิเต็ด 15 ขาย 133.65 ล้านหุ้น
บริษัท ศุภาลัย มีสถาบันที่เพิ่มสัดส่วนถือหุ้น ได้แก่ โซเมอร์ (ยู.เค.) ลิมิเต็ด 2.48 ล้านหุ้น นอร์แบกซ์ 4.03 ล้านหุ้น เดอะ แบงก์ ออฟ นิวยอร์ก (นอมินี) 15.24 ล้านหุ้น สเตรท สตรีท แบงก์ แอนด์ ทรัสต์ คอมปะนี 28.40 ล้านหุ้น เชส นอมินี ลิมิเต็ด 4.12 ล้านหุ้น เชส นอมินี ลิมิเต็ด 4.12 ล้านหุ้น ลิตเติ้ล ดาวน์ นอมินี 5 จำนวน 22.37 ล้านหุ้น สเตรท สตรีท แบงก์ยุโรป ลิมิเต็ด 6.77 ล้านหุ้น และสเตรท สตรีท แบงก์ แอนด์ ทรัสต์ คอมพานี ฟอร์ ออสเตรเลีย 18.28 ล้านหุ้น ขณะที่เอชเอสบีซี (สิงคโปร์) นอมินีลดสัดส่วน 7.19 ล้านหุ้น
นายอธิป พีชานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย กล่าวว่า การที่นักลงทุนต่างชาติเพิ่มสัดส่วนหุ้นอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากมีไตรมาสแรกมีปัจจัยสนับสนุนหลายเรื่อง เช่น แนวโน้มอุตสาหกรรมเติบโตต่อเนื่อง ภาพรวมผลประกอบการดีขึ้น พีอีเรโชหุ้นต่ำกว่าพื้นฐาน รวมทั้งเป็นหุ้นที่อยู่ในกลุ่มให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลในระดับที่ดี จึงทำให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาถือครองหุ้นเพิ่มขึ้น
เขากล่าวว่า ในส่วนของบริษัท ศุภาลัย ในไตรมาสแรกบริษัทมียอดขายเกือบ 6 พันล้านบาท ถือว่าเติบโตได้เกินเป้าหมายที่วางไว้ ทำให้บริษัทเตรียมประกาศปรับเป้ายอดขายปีนี้เป็น 1.9 หมื่นล้านบาทจากเดิมที่คาดไว้ 1.8 หมื่นล้านบาท ซึ่งตลาดคอนโดมิเนียมยังคงมีอัตราเติบโตมากสุด ขณะที่ที่อยู่อาศัยแนวราบยังกระเตื้องขึ้นได้เล็กน้อยแต่ยังไม่ดีเท่าเดิม
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส วิคเคอร์ส ประเทศไทย กล่าวว่า ฝ่ายวิจัยได้แนะนำให้ซื้อหุ้นอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ เนื่องจากยังมีมุมมองที่ดีกับหลักทรัพย์หมวดที่อยู่อาศัย พิจารณาได้จากยอดขายในไตรมาส 1/2555 จากการสำรวจ 7 บริษัทชั้นนำพบว่า มียอดขายรวมน่าประทับใจเป็น 4.08 หมื่นล้านบาท เติบโตก้าวกระโดด 49% จากงวดไตรมาส 4/2554 และ 21% จากงวดเดียวกันปีก่อน ถือว่าฟื้นตัวดีกว่าที่ฝ่ายวิจัยฯ คาดไว้ก่อนหน้า
ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
เดอะแบงก์ ออฟ นิวยอร์ก (นอมินี) 12.45 ล้านหุ้น นอร์ทรัสต์ นอมินี ลิมิเต็ด 20.70 ล้านหุ้น สเตรท สตรีท แบงก์ ยุโรป ลิมิเต็ด 17.76 ล้านหุ้น เชส นอมินี 47 17.71 ล้านหุ้น สเตรท สตรีท แบงก์ แอนด์ ทรัสต์ คอมปะนี ฟอร์ แคนาดา 17.37 ล้านหุ้น โซเมอร์ (ยู.เค.) ลิมิเต็ด 16.44 ล้านหุ้น และเจพี มอร์แกน ไอแลนด์ (นอมินี) 574 จำนวน 15.27 ล้านหุ้น
ทั้งนี้สถาบันที่ขายหุ้น ได้แก่ เอชเอสบีซี (สิงคโปร์) นอมินี 32.03 ล้านหุ้น เชส ซี.เอส.ซิปทรัล นอมินี ลิมิเต็ด 24 ขาย 16.40 ล้านหุ้น และเอชเอสบีซี แบงก์ 0.30 ล้านหุ้น หุ้นแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มีต่างชาติที่เพิ่มการถือหุ้น ได้แก่ กองทุนรัฐบาลสิงคโปร์ (gic) 40.66 ล้านหุ้น เชส นอมินี ลิมิเต็ด 42 ถือเพิ่ม 16.27 ล้านหุ้น ขณะที่ในส่วนที่ขายประกอบด้วย สเตรท สตรีท แบงก์ แอนด์ ทรัสต์ คอมปะนี ออสเตรเลีย 1.09 ล้านหุ้น และเอชเอสบีซี (สิงคโปร์) นอมินี 105.54 ล้านหุ้น
หุ้นควอลิตี้เฮ้าส์ มีสถาบันเพิ่มสัดส่วนถือหุ้น ได้แก่ สเตรท สตรีท แบงก์ ยุโรป ลิมิเต็ด 137.17 ล้านหุ้น อีสท์ โฟรทีน ลิมิเต็ด 46.50 ล้านหุ้น เชส นอมินี ลิมิเต็ด 4 ถือ45.74 ล้านหุ้น และเดอะแบงก์ ออฟ นิวยอร์ก นอมินี 1.80 ล้านหุ้น ส่วนที่ขาย ได้แก่ เอชเอสบีซี (สิงคโปร์) นอมินี 22.42 ล้านหุ้น เดอะแบงก์ ออฟ นิวยอร์ก (นอมินี) 10.73 ล้านหุ้น เชส นอมินี ลิมิเต็ด 15 ขาย 133.65 ล้านหุ้น
บริษัท ศุภาลัย มีสถาบันที่เพิ่มสัดส่วนถือหุ้น ได้แก่ โซเมอร์ (ยู.เค.) ลิมิเต็ด 2.48 ล้านหุ้น นอร์แบกซ์ 4.03 ล้านหุ้น เดอะ แบงก์ ออฟ นิวยอร์ก (นอมินี) 15.24 ล้านหุ้น สเตรท สตรีท แบงก์ แอนด์ ทรัสต์ คอมปะนี 28.40 ล้านหุ้น เชส นอมินี ลิมิเต็ด 4.12 ล้านหุ้น เชส นอมินี ลิมิเต็ด 4.12 ล้านหุ้น ลิตเติ้ล ดาวน์ นอมินี 5 จำนวน 22.37 ล้านหุ้น สเตรท สตรีท แบงก์ยุโรป ลิมิเต็ด 6.77 ล้านหุ้น และสเตรท สตรีท แบงก์ แอนด์ ทรัสต์ คอมพานี ฟอร์ ออสเตรเลีย 18.28 ล้านหุ้น ขณะที่เอชเอสบีซี (สิงคโปร์) นอมินีลดสัดส่วน 7.19 ล้านหุ้น
นายอธิป พีชานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย กล่าวว่า การที่นักลงทุนต่างชาติเพิ่มสัดส่วนหุ้นอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากมีไตรมาสแรกมีปัจจัยสนับสนุนหลายเรื่อง เช่น แนวโน้มอุตสาหกรรมเติบโตต่อเนื่อง ภาพรวมผลประกอบการดีขึ้น พีอีเรโชหุ้นต่ำกว่าพื้นฐาน รวมทั้งเป็นหุ้นที่อยู่ในกลุ่มให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลในระดับที่ดี จึงทำให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาถือครองหุ้นเพิ่มขึ้น
เขากล่าวว่า ในส่วนของบริษัท ศุภาลัย ในไตรมาสแรกบริษัทมียอดขายเกือบ 6 พันล้านบาท ถือว่าเติบโตได้เกินเป้าหมายที่วางไว้ ทำให้บริษัทเตรียมประกาศปรับเป้ายอดขายปีนี้เป็น 1.9 หมื่นล้านบาทจากเดิมที่คาดไว้ 1.8 หมื่นล้านบาท ซึ่งตลาดคอนโดมิเนียมยังคงมีอัตราเติบโตมากสุด ขณะที่ที่อยู่อาศัยแนวราบยังกระเตื้องขึ้นได้เล็กน้อยแต่ยังไม่ดีเท่าเดิม
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส วิคเคอร์ส ประเทศไทย กล่าวว่า ฝ่ายวิจัยได้แนะนำให้ซื้อหุ้นอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ เนื่องจากยังมีมุมมองที่ดีกับหลักทรัพย์หมวดที่อยู่อาศัย พิจารณาได้จากยอดขายในไตรมาส 1/2555 จากการสำรวจ 7 บริษัทชั้นนำพบว่า มียอดขายรวมน่าประทับใจเป็น 4.08 หมื่นล้านบาท เติบโตก้าวกระโดด 49% จากงวดไตรมาส 4/2554 และ 21% จากงวดเดียวกันปีก่อน ถือว่าฟื้นตัวดีกว่าที่ฝ่ายวิจัยฯ คาดไว้ก่อนหน้า
ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ