นายกิตติพล ปราโมช ณ อยุธยา นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทยกล่าวว่า จากการประเมินการชะลอโอนกรรมสิทธิ์ในช่วงน้ำท่วมที่ผ่านมา คาดว่าจะอยู่ที่ 4 หมื่นล้านบาท ซึ่งมีการคาดการณ์ต่ออีกว่าในมูลค่าดังกล่าวอาจมีกลุ่มผู้ทิ้งดาวน์อยู่ที่ประมาณ 10-15%หรือประมาณ 4,000-6,000 ล้านบาท โดยเชื่อว่าในส่วนที่เหลือจะกลับมาทยอยโอนในปี 2555 อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ ปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากบ้านยังสร้างไม่เสร็จ ไม่สามารถก่อสร้างได้ในช่วงน้ำท่วม และผู้ซื้อไม่สะดวกเดินทางไปโอน ส่วนธุรกิจโรงแรมในกรุงเทพมหานคร(กทม.) ในช่วงน้ำท่วมจะมีผลกระทบบ้าง แต่ไม่มากนัก เรียกว่าอยู่ในภาวะทรงตัวมากกว่า เพราะในช่วงนั้นยังไม่ใช่ไฮซีซัน ขณะที่โรงแรมและคอนโดมิเนียมให้เช่าในหัวเมืองท่องเที่ยวย่านพัทยา หัวหิน และเชียงใหม่ จะสวนกระแสในช่วงระยะเวลาดังกล่าว มีผู้หนีภัยน้ำท่วมไปเช่าอยู่เป็นจำนวนมาก
สำหรับภาพรวมตลาดในปี2555 จะเป็นอย่างไรคงขึ้นกับสภาวะเศรษฐกิจโดยรวม และการฟื้นตัวของภาคอุตสาหกรรมเป็นหลัก เชื่อว่ายอดการโอนกรรมสิทธิ์โดยรวมในปี 2555 น่าจะดีกว่าปี2554
ด้านนายอิสระ บุญยัง นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า 3 สมาคมอสังหาริมทรัพย์ ประกอบด้วยสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรรสมาคมอาคารชุดไทย และสมาคมอสังหาริมทรัพย์ ได้ยื่นหนังสือเกี่ยวกับมาตรการป้องกันอุทกภัยและการสร้างความเชื่อมั่นต่อภาคที่อยู่อาศัยถึงนายกรัฐมนตรีไปก่อนหน้านี้ ซึ่งมีอยู่ 4 หัวข้อหลัก ประกอบด้วย 1.นโยบายแผนงานที่ชัดเจนในการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบของประเทศที่รัฐบาลควรประกาศอย่างเร่งด่วน
2.การจัดทำผังภาคและผังประเทศ ที่เคยได้ศึกษาไว้มาทบทวนใหม่ รวมไปถึงการออกกฎหมายรองรับ และควรจัดทำผังเมืองภาคมหานครเพื่อให้สอดคล้องกับ กทม.และปริมณฑล อีกทั้งกำหนดความเชื่อมโยงทั้งภาคราชการ ธุรกิจอุตสาหกรรม ธุรกิจการอยู่อาศัยและคมนาคม ให้สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน
3.ธนาคารของรัฐและธนาคารเฉพาะกิจปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยในพื้นที่ประสบอุทกภัย 4.กรมธนารักษ์ควรเลื่อนประกาศการใช้ราคาประเมินใหม่ในรอบบัญชีปี2555-2558 ที่จะเริ่มใช้ในวันที่ 1 ม.ค. 2555 ควรเลื่อนออกไปเป็นวันที่1 ม.ค.2556 หรือประกาศใช้ตามปกติ แต่พื้นที่ที่ประสบอุทกภัยให้ใช้ราคาประเมินปี 2554 แทน แต่ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าจากรัฐบาล
ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
ทั้งนี้ ปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากบ้านยังสร้างไม่เสร็จ ไม่สามารถก่อสร้างได้ในช่วงน้ำท่วม และผู้ซื้อไม่สะดวกเดินทางไปโอน ส่วนธุรกิจโรงแรมในกรุงเทพมหานคร(กทม.) ในช่วงน้ำท่วมจะมีผลกระทบบ้าง แต่ไม่มากนัก เรียกว่าอยู่ในภาวะทรงตัวมากกว่า เพราะในช่วงนั้นยังไม่ใช่ไฮซีซัน ขณะที่โรงแรมและคอนโดมิเนียมให้เช่าในหัวเมืองท่องเที่ยวย่านพัทยา หัวหิน และเชียงใหม่ จะสวนกระแสในช่วงระยะเวลาดังกล่าว มีผู้หนีภัยน้ำท่วมไปเช่าอยู่เป็นจำนวนมาก
สำหรับภาพรวมตลาดในปี2555 จะเป็นอย่างไรคงขึ้นกับสภาวะเศรษฐกิจโดยรวม และการฟื้นตัวของภาคอุตสาหกรรมเป็นหลัก เชื่อว่ายอดการโอนกรรมสิทธิ์โดยรวมในปี 2555 น่าจะดีกว่าปี2554
ด้านนายอิสระ บุญยัง นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า 3 สมาคมอสังหาริมทรัพย์ ประกอบด้วยสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรรสมาคมอาคารชุดไทย และสมาคมอสังหาริมทรัพย์ ได้ยื่นหนังสือเกี่ยวกับมาตรการป้องกันอุทกภัยและการสร้างความเชื่อมั่นต่อภาคที่อยู่อาศัยถึงนายกรัฐมนตรีไปก่อนหน้านี้ ซึ่งมีอยู่ 4 หัวข้อหลัก ประกอบด้วย 1.นโยบายแผนงานที่ชัดเจนในการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบของประเทศที่รัฐบาลควรประกาศอย่างเร่งด่วน
2.การจัดทำผังภาคและผังประเทศ ที่เคยได้ศึกษาไว้มาทบทวนใหม่ รวมไปถึงการออกกฎหมายรองรับ และควรจัดทำผังเมืองภาคมหานครเพื่อให้สอดคล้องกับ กทม.และปริมณฑล อีกทั้งกำหนดความเชื่อมโยงทั้งภาคราชการ ธุรกิจอุตสาหกรรม ธุรกิจการอยู่อาศัยและคมนาคม ให้สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน
3.ธนาคารของรัฐและธนาคารเฉพาะกิจปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยในพื้นที่ประสบอุทกภัย 4.กรมธนารักษ์ควรเลื่อนประกาศการใช้ราคาประเมินใหม่ในรอบบัญชีปี2555-2558 ที่จะเริ่มใช้ในวันที่ 1 ม.ค. 2555 ควรเลื่อนออกไปเป็นวันที่1 ม.ค.2556 หรือประกาศใช้ตามปกติ แต่พื้นที่ที่ประสบอุทกภัยให้ใช้ราคาประเมินปี 2554 แทน แต่ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าจากรัฐบาล
ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์