Sittichai Real Estate Agent
  • Home
  • About us
  • Property for sale
    • Land >
      • Beachfront 2 Rai, Jao Samran Beach
      • Beachfront 56.5 Rai, Puektian Beach
      • 3-1-50 Rai, Ratchada 36
      • 3.5 Rai, Lasalle
      • 4 Rai, Buddhabucha 39
      • 7 Rai, Prachauthit
      • 8.5 Rai, Buddhabucha 39
      • 38 Rai, Pathumthani
      • 102 sq.w. Prachauthit 79
      • 223 sq.w. Buddhabucha 39
      • 200 sq.w. Sukhumvit 70/3
    • House >
      • 2 flr. 31sq.w. Lad Proa 71
      • 2 flr. 64 sq.w. Chalearmprakiatlor 9
      • Villa 223 sq.w. Phetchaburi
      • Villa 3-1-50 Rai, Chiang Mai
    • Townhouse >
      • Ratchada Arkadian 29.9 sq.w. Kanjanapisek
      • Bangkok Green Park 36 sq.w. Jaroennakorn
    • Condominium >
      • The Bangkok Narathiwat 75 sq.m. 2 bedroom, Narathiwat Ratchanakarin
      • Baan Nubkluen 62.11 sq.m. Hua Hin
      • Lang Suan Ville 191.72 sq.m. 3 bedroom near BTS Chidlom
      • Liberty Park 252.99 sq.m. 3 bedroom Sukhumwitt 23
      • Prestige Towers 254 sq.m. 3 bedroom Sukhumwitt 23
    • Home Office >
      • 2 Unit 3 flr. 32 sq.w. Sukhumvit 70/3
      • 2 Unit 4 flr. 34 sq.w. Sukhumvit 48
    • Office Building >
      • 5 flr. 576 sq.m. Ratchada 26
    • Factory >
      • 5,936 sq.m. 12 Rai Samutprakarn
    • All
  • Property News
  • Real Estate Tips
  • Contact
085-255-5565

ธปท.คลอดกฎซอฟต์โลน 3 หมื่นล้าน อุ้มเอสเอ็มอี-คนถูกน้ำท่วม-ผิดเงื่อนไขปรับ 10%

2/22/2012

Comments

 
          นางผ่องเพ็ญ เรืองวีรยุทธ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ออกประกาศให้ความช่วยเหลือสถาบันการเงินอัตราดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) วงเงิน 300,000 ล้านบาท โดยเป็นเงินที่ ธปท.สมทบ 70% คิดเป็นไม่เกิน 210,000 ล้านบาท และสถาบันการเงินสมทบไม่น้อยกว่า 30% คิดเป็น 90,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ทั้งนิติบุคคลและบุคคลธรรมดา และบุคคลธรรมดาที่ถูกน้ำท่วมในปี 2554 สำหรับเขตพื้นที่ที่จะได้รับสิทธิ์เข้าร่วมโครงการดังกล่าว กระทรวงการคลังและกระทรวงมหาดไทยกำลังพิจารณา คาดว่าจะชัดเจนไม่เกินวันที่ 20 ก.พ.นี้ เบื้องต้นวงเงินที่จัดสรรให้แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ เอส เอ็มอีนิติบุคคลและประเภทบุคคลธรรมดารายละไม่เกิน 30 ล้านบาท บุคคลธรรมดารายละไม่เกิน 1 ล้านบาท โดยสถาบันการเงินจะอนุมัติสินเชื่อ และรับความเสี่ยงกรณีที่ลูกค้าผิดนัดชำระหนี้ทั้งหมดเอง แต่หากกรณีที่ลูกค้าให้ข้อมูล ไม่ถูกต้องเป็นเท็จ และไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่กำหนด ธปท. อนุญาตให้สถาบันการเงินนั้นๆ มีสิทธิ์เรียกค่าปรับจากลูกค้าได้ในอัตราไม่เกิน 10% ของวงเงินสินเชื่อที่ปล่อยไป ส่วนกรณีที่สถาบันการเงินผิดพลาด ธปท.มีสิทธิ์เรียกค่าปรับได้ในอัตราเดียวกัน

          “เงื่อนไขโดยทั่วไป คือ เป็นเอสเอ็มอี เป็นบุคคลธรรมดา โดยมีภูมิลำเนา ที่อยู่อาศัย สถานที่ทำงาน สถานที่ประกอบอาชีพ หรือสถานประกอบธุรกิจหรือการค้าของตน ได้ถูกน้ำท่วมปี 2554 ในเขตพื้นที่ที่มีการประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยกรณีฉุกเฉินตามประกาศกระทรวงการคลัง ซึ่งคาดว่าจะมีทั้งหมด 77 จังหวัด แต่ต้องดูว่าเป็นบริเวณตำบล อำเภอไหนบ้าง เพราะครั้งนี้ต้องการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายจริงๆ ไม่ได้เป็นการปล่อยกู้โดยทั่วไป” นางผ่องเพ็ญกล่าว

          นางผ่องเพ็ญกล่าวว่า หลังจากประกาศพื้นที่ที่มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการแล้ว ภายใน 14 วันหลังประกาศ สถาบันการเงินจะรวบรวมวงเงินที่ต้องการมายัง ธปท. และหลังจากนั้นภายใน 3 วันทำการ ธปท.จะพิจารณาจัดสรรวงเงินให้สถาบันการเงิน โดยวิธีการโอนเข้าบัญชีทันทีในวันเดียวกัน ส่วนการคิดอัตราดอกเบี้ยนั้นธปท.จะคิดจากสถาบันการเงิน 0.01% ต่อปี โดยให้สถาบันการเงินคิดอัตราดอกเบี้ยจากเอสเอ็มอีและลูกค้าบุคคลธรรมดาได้ในอัตราไม่เกิน 3% ต่อปี ระยะเวลาช่วยเหลือไม่เกิน 5 ปี สิ้นสุดโครงการวันที่ 31 ธ.ค. 2561

          ทั้งนี้ มีธนาคารพาณิชย์ สาขาธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ และสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ 6 แห่งเข้าร่วม คือธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย

          นางผ่องเพ็ญ กล่าวด้วยว่า ในช่วงที่ผ่านมายังคงมีเงินไหลเข้ามาลงทุนในประเทศอย่างต่อเนื่องโดยตั้งแต่ต้นปี 55 มีเงินทุนจากต่างประเทศไหลเข้าสุทธิ โดยเข้ามาลงทุนทั้งในตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นการลงทุนในตลาดตราสารหนี้มากกว่า

          ส่วนที่ธนาคารพาณิชย์ยังไม่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากธนาคารพาณิชย์ต้องการความชัดเจนเรื่องการจัดเก็บค่าธรรมเนียมเงินฝากจากกระทรวงการคลัง เมื่อขณะนี้มีความชัดเจนแล้วว่าเงินนำส่งใหม่อยู่ที่ 0.47% หลังจากนี้ธนาคารคงจะทยอยปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมา

          ด้านนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธปท.ยอมรับว่าช่วงนี้มีเงินทุนเคลื่อนย้ายจากต่างประเทศเข้ามาในไทย สะท้อนได้จากตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรปรับสูงขึ้น

          อย่างไรก็ตาม การไหลเข้ามาในช่วงนี้ไม่น่าห่วงจนทำให้ ธปท.ต้องเข้าไปดูแลอะไรมากและค่าเงินบาทไม่ผันผวนมาก เนื่องจากเศรษฐกิจไทยช่วงนี้อยู่ในช่วงฟื้นตัวหลังน้ำท่วมภาคธุรกิจและบริษัทในไทยส่วนใหญ่จึงต้องการใช้เงินตราต่างประทศ เพื่อนำเข้าเครื่องจักรอุปกรณ์ ขณะที่ภาคส่งออกเองยังไม่ฟื้นตัวทำให้ดุลการค้าขาดดุล

          “การมีเงินทุนหรือเงินตราต่างประเทศเข้ามาช่วงนี้ก็ทำให้สมประโยชน์ เห็นได้จากนักลงทุนและธุรกิจไทยเข้าไปซื้อเงินตราต่างประเทศทำให้เกิดความสมดุลของตลาดการเงิน แม้ช่วงนี้จะมีปัญหาเศรษฐกิจในต่างประเทศ รวมถึงปัญหายุโรป” นายประสารกล่าว

ที่มา: หนังสือพิมพ์สยามธุรกิจ วันที่ 22 - 24 ก.พ. 2555


Comments
    Picture

    Author

    ข่าวสาร สาระน่ารู้ ที่น่าติดตามของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย

    ติดตาม @ThaiRealtyNews
    Click to Hot Line
    Picture
    Picture
    Picture
    Picture
    Picture
    Picture
    Picture
    Picture
    Picture
    Picture
    Picture
    ติดตาม @ThaiRealtyNews

    RSS Feed

    • Home
    • About us
    • Property for Sale
    • Property News
    • Real Estate Tips
    • Contact
Powered by Create your own unique website with customizable templates.